ฉันไม่อยากเจอหนีอีโจวจริงๆ
ฉันไม่รู้ว่าควรจะบรรยายความรู้สึกในเวลานี้ออกมาอย่างไรดี
มีคนผู้หนึ่งที่ฝังอยู่ในใจ และมันไม่ง่ายเลยกว่าจะได้เจอกัน แต่ตนเองกลับเป็นคนที่มีฐานะสุดที่จะรับได้แบบนี้
มันคือคำมั่นสัญญาระหว่างพวกเรา แต่ฉันกลับเป็นคนละทิ้งคำมั่นสัญญาไปก่อน
แม้ว่าความรู้สึกของฉันจะยุ่งเหยิงมาก แต่ทันทีที่ฉันทานข้าวเสร็จเรียบร้อยฉันก็เริ่มรื้อหาเสื้อผ้าจากในตู้เสื้อผ้าของฉัน อันที่จริงแล้วฉันมีเสื้อผ้าไม่เยอะ
ในสมัยที่อยู่บ้านก่อนที่จะแต่งงาน คุณพ่อจะให้เงินในการใช้จ่ายกับฉัน แต่ส่วนมากก็จะถูกแม่เลี้ยงยึดไป และฉันเองก็ไม่สามารถพูดกับคุณพ่อได้ ถึงแม้ว่าคุณพ่อจะส่งเสื้อผ้าสวยๆ มาให้ฉัน แต่ก็จะถูกเซียวหลิงหลิงรื้อค้นและรีดไถไป
แม่เลี้ยงและพี่สาวที่อยู่ในโทรทัศน์เหล่านั้นปฏิบัติกับซินเดอเรลล่าอย่างไร พวกเธอก็จะปฏิบัติกับฉันอย่างนั้น
หลังจากแต่งงานฉันก็มีเงินใช้จ่ายเช่นกัน สีชิงชวนเคยให้บัตรกับฉันมาใบหนึ่ง และบอกว่าทุกเดือนในบัตรจะมีเงินจำนวนหนึ่งให้ฉันเอาไปใช้ได้ตามสบาย แต่ฉันไม่เคยเอามาใช้เลย และบัตรก็ไม่รู้ว่าเอาไปวางไว้ที่ไหนแล้ว
เสื้อผ้าเมื่อถึงเวลาที่ต้องใส่ ก็จะรู้สึกเสียใจว่าที่ซื้อมามันน้อยเกินไป นึกไม่ถึงเลยว่าฉันจะหาไม่เจอเลยแม้แต่ตัวเดียว
สตรีแปลงโฉมเพื่อคนที่รัก คำพูดนี้พูดได้ถูกต้อง แต่ฉันไม่มีอุปกรณ์ในการแปลงโฉม
ฉันเจอบัตรใบนั้นที่สีชิงชวนให้ฉันอยู่ในลิ้นชัก ถึงอย่างไรมันก็เป็นเงินค่าใช้จ่ายที่เขาให้ฉัน ตอนนี้ฉันไม่ได้ทำงานและไม่มีรายได้ นอกจากบัตรใบนี้ก็ไม่รู้แล้วว่าจะเอาอะไรไปซื้อเสื้อผ้า
ฉันหยิบบัตรออกมาจากนั้นก็ออกจากบ้าน น่าจะซื้อเสื้อผ้าได้หลายตัวพอดี เพราะถึงอย่างไรสีชิงชวนก็มักจะบ่นว่าฉันแต่งตัวโทรมอยู่บ่อยๆ อยู่แล้ว
ฉันมาถึงห้างสรรพสินค้าและเดินเข้าไปในร้านที่ฉันชอบร้านหนึ่ง ฉันชอบเสื้อผ้าของพวกเขาทั้งหมดมาก และมันก็เหมาะกับฉันมาก ไม่ว่าจะใส่ตัวไหนก็ดูดีมาก เสื้อผ้าตัวหลังๆ ฉันจึงไม่ลองใส่แล้ว และเลือกเสื้อผ้าออกมาหลายตัว ตอนที่จะจ่ายเงินฉันก็เอาบัตรยื่นให้พนักงาน
ครั้งก่อนสีชิงชวนบอกว่าบัตรไม่มีรหัสผ่าน ครั้งแรกที่ใช้ฉันสามารถป้อนรหัสผ่านเอาเองได้เลย สะดวกสบายมาก
พนักงานรูดบัตร หลังจากนั้นก็เงยหน้าขึ้นมาพูดกับฉันว่า “คุณผู้หญิง กรุณาบอกรหัสยืนยันให้ฉันด้วยค่ะ”
“รหัสยืนยัน? ” ฉันมึนงง
“บัตรใบนี้ของคุณเป็นบัตรใหม่ไม่เคยใช้มาก่อน ในการใช้ครั้งแรกจำเป็นต้องส่งรหัสยืนยันไปยังโทรศัพท์ของผู้ที่ถือบัตรใบนี้ค่ะ จากนั้นคุณก็บอกรหัสยืนยันกับฉันก็ใช้ได้แล้วค่ะ” พนักงานอธิบายให้ฉันฟัง
บัตรใบนี้เป็นของสีชิงชวน โทรศัพท์ที่ผูกกับบัตรเอาไว้ฉันคาดว่าก็น่าจะเป็นโทรศัพท์ของสีชิงชวน
ฉันนิ่งงันไปเล็กน้อย พนักงานเอ่ยเตือนสติฉัน “ถ้าโทรศัพท์ไม่ใช่ของคุณละก็ คุณสามารถโทรหาคนที่เป็นผู้ถือบัตรได้ค่ะ ขอให้เขาบอกรหัสยืนยันกับคุณก็ได้แล้วค่ะ”
ตอนนี้ดูเหมือนว่าจะมีแค่วิธีนี้แล้ว
ฉันลังเลอยู่สักพัก จากนั้นก็เดินออกไปด้านนอกประตูร้านและโทรหาสีชิงชวน
ฉันโทรหาเขาน้อยครั้งมาก ตอนนี้เป็นเวลาพักเที่ยง เขาจะบ่นว่าฉันไปรบกวนเวลาพักผ่อนของเขาหรือเปล่า?
เขารับโทรศัพท์เร็วมาก แต่เสียงของเขากลับดุดันมาก “มีอะไร? ”
ถ้าพูดดีๆ ก็น่าจะไม่ตาย
ฉันเอ่ยเสียงเบา “เมื่อกี้คุณได้รับรหัสยืนยันบ้างไหม? ”
“อะไรนะ? ”
“เป็นรหัสยืนยันที่ธนาคารส่งให้คุณ”
เขาน่าจะกำลังพลิกโทรศัพท์กลับไปเปิดดูอยู่ “อืม แล้วยังไง? ”
“บอกฉันหน่อย”
“ในคำเตือนป้องกันการหลอกลวงบอกผมว่าห้ามบอกรหัสยืนยันให้คนอื่นมั่วซั่ว” เขาเอ่ยด้วยน้ำเสียงดุดัน
ครั้งแรกที่ฉันขออะไรสักอย่างจากคนอื่น ในท้ายที่สุดกลับเป็นการใช้เงินในบัตรของเขา ทำให้ฉันใบหน้าร้อนผ่าวเล็กน้อย “รบกวนคุณแล้ว”
“คุณใช้บัตรใบนั้นของผม? ”
“อืม”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่ายรักเมียในนาม(จบ)
จบซะแล้วลงตอนไม่ครบค่ะ ขาดตอนที่ 501,506...
เย้ อัพต่อแล้ว 👍👍👍...
แอด...ยังรออัพเดทนะคะ😁😁...
รอมาอัพต่อค่ะ...
กี่ตอนจบค่ะ...
Please up Chapter495...
สนุกมากๆ ค่ะ ติดตามอยู่นะคะ...
นางเอกไม่ได้โง่แต่จิตใจดีเกินไปและพระเอกอยากสอนนางเอกแต่สอนผิดวิธี ในเรื่องทุกคนมีปมหมด นักเขียนค่อยๆขยายแต่ละคน เราว่าสนุก อัพต่อค่ะplease...
เป็นเรื่องที่อ่านแล้วอึดอัดมาก เพราะนางเอกโคตรโง่เลย อ่านแล้วลุ้นแต่ก็ลุ้นไม่ขึ้น มันรู้สึกสงสารนางเอก แต่เป็นสมน้ำหน้า พระเอกก็ใจดำเอาแต่ใจตัวเอง ทำตัวแย่ ทำให้รำคาญ อ่านแล้วไม่ลุ้นให้ได้จบลงด้วยกันอย่างมีความสุข แต่ให้รับผลจากความโง่และการกระทำของตัวเอง...
สามีแบบนี้ ควรทิ้งอ่ะ จะสอนก็สอน แต่ไม่ควรบีบบังคับหักหน้า ทำให้อับอายอย่างนี้ ไม่ให้อภัยเด็ดขาด ยิ่งรู้ว่านังซือยังไม่ตัดใจ ยิ่งต้องจัดการให้ชัดเจนแทนที่จะปล่อยคลุมเครือ...