พ่ายรักเมียในนาม(จบ) นิยาย บท 75

“เจ้าสี่ ที่แท้ก็มีส่วนรู้เห็นด้วยนี่เอง” เสียงของสีชิงชวนดังขึ้นจากทางด้านหลัง งั้นฉันก็คงไม่ต้องอธิบายอะไรแล้ว

ฉันยักไหล่แล้วแบมือออก “ความลับถูกเปิดเผยแล้ว”

“พี่สาม” สีจิ่นยวนรีบอุ้มเจ้ามาร์ชเมลโล่เข้าห้องแล้วปิดประตูลงทันที

ช่างเป็นคืนที่มีแต่เรื่องวุ่นวายจริงๆ ฉันรีบเผ่นกลับห้องตัวเองโดยมีสีชิงชวนตามมาด้วย

“หมาตัวนั้นอยู่บ้านเรามานานแค่ไหนแล้ว?”

“ยังไม่นาน”

“ไม่นานคือนานแค่ไหน?” เขาถามด้วยน้ำเสียงดุดัน

ฉันพยายามคิด “สามวัน หรือไม่ก็สี่วัน”

“มีหมาอยู่ในบ้านเราตั้งสี่วัน คนในบ้านไม่มีใครรู้เลยเหรอ?”

บอกได้แค่ว่าสีชิงชวนซ่อนมันไว้ได้ดีมาก ตอนกลางวันเขาจะพาเจ้ามาร์ชเมลโล่ไปเดินเล่น ปกติเมื่อคนรับใช้ทำความสะอาดห้องเสร็จแล้วก็จะไม่เข้ามาในห้องอีกหากไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งมันก็เป็นธรรมดาที่ไม่ถูกจับได้

ดูเหมือนสีชิงชวนจะเป็นบ้าเพราะหมาไปแล้ว เขาเดินไปมาอยู่หน้าฉัน “เซียวเซิง คุณเลี้ยงหมาในบ้านผมเหรอ”

“ไม่ได้เลี้ยงค้างคาวสักหน่อย” ฉันบ่นอุบอิบ

“คุณก็ลองเลี้ยงค้างคาวดูสิ!” เขาคำรามใส่ฉัน

ทำไมต้องโกรธขนาดนี้ด้วย ก็แค่หมาน้อยตัวเดียวเอง เขานี่ไม่มีจิตใจเมตตาจริงๆ เลย หมาน้อยน่ารักขนาดนี้อยู่ตรงหน้าเขาแต่ทำเหมือนเจอศัตรูตัวฉกาจอย่างไรอย่างนั้น

“ฉันยกห้องให้คุณ ฉันไปนอนห้องพักแขก!”

เขาจับข้อมือฉันไว้ สายตาของเขาแปรเปลี่ยนเป็นความโหดเหี้ยม “ห้องคุณมีกลิ่นหมา”

“งั้นคุณไปนอนห้องพักแขก”

“เซียวเซิง คุณสร้างความวุ่นวายให้ชีวิตผม” เขาผลักให้ฉันล้มลงบนเตียง

“เหรอ?” ฉันพึมพำ

เขาทาบทับลงมาแล้วดูดเม้มบนคอของฉันเหมือนกับแวมไพร์ “ค้างคาวเป็นแวมไพร์ทั้งนั้น พวกเขาดูดเลือดกันแบบนี้”

เขาไม่ได้กลัวค้างคาวหรอกเหรอ แล้วยังจะมาทำตัวเลียนแบบค้างคาวอีก ถึงยังไงวันนี้ก็ต้องเสียตัวแน่ ไม่ว่ายังไง ไปๆ มาๆ คืนนี้ฉันก็อยู่ในเงื้อมมือเขานี่แหละ

สีชิงชวนโกรธมาก ความอดทนของเขาแน่วแน่มาก ฉันถูกเขาทรมานอยู่จนดึกดื่น เขากลายเป็นค้างคาวตัวใหญ่ที่มาฉีกทึ้งฉัน ฉันถูกเขาทรมานจนแทบจะขาดใจ จนกระทั่งค่อนคืนจึงหลับไปอย่างเลอะเลือน

ฉันตื่นขึ้นอีกครั้งเพราะเสียงนาฬิกาปลุก วันนี้ฉันต้องไปรับตำแหน่งที่เซียวซื่อกรุ๊ป ฉันลุกขึ้นนั่งบนที่นอน เสียงนาฬิกาปลุกดังเสียจนฉันรู้สึกมึนหัว

แล้วฉันก็พบว่าสีชิงชวนยังนอนอยู่ข้างๆ ฉัน เขาเป็นคนชอบนอนคว่ำหน้า แสงอาทิตย์สาดส่องกระทบบนแผ่นหลังเปล่าเปลือยของเขา ซึ่งมันกลับเพิ่มความเซ็กซี่ให้เขามากยิ่งขึ้นไปอีกในเวลากลางวัน

ฉันเลิกผ้าห่มออกและกำลังจะแอบลงจากเตียง แต่เขาก็พูดขึ้นทั้งที่ยังหลับตาอยู่ “เรื่องแรกที่ต้องทำของวันนี้ก็คือการเอาหมาไปทิ้ง”

“เช้านี้ฉันต้องไปเซียวซื่อกรุ๊ป”

“ผมบอกแล้วว่าเรื่องแรก ไม่มีเรื่องไหนสำคัญกว่าการเอาหมาไปทิ้งแล้ว” เขาเปิดเปลือกตาขึ้น เท้าแขนขึ้นรองศีรษะไว้แล้วมองมาที่ฉัน

ก็ได้ ทิ้งก็ทิ้ง

ฉันคงต้องเอาหมาไปไว้ที่เฉียวอี้ เธอชอบสัตว์ตัวเล็กๆ จะต้องดูแลมันได้ดีแน่ๆ จากนั้นฉันก็ลุกจากเตียงไปทำธุระส่วนตัว เสร็จแล้วก็พบว่าสีชิงชวนไม่ได้อยู่ในห้องฉันแล้ว

ตอนนี้ยังมีเวลา ฉันเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จก็ไปที่ห้องสีจิ่นยวนแล้วอุ้มมันไว้ เขายังไม่ตื่น มองฉันด้วยสีหน้าสับสน “เซียวเซิง ทำไมคุณมาอยู่ในห้องผม”

ฉันใส่เจ้าหมาน้อยไว้ในกระเป๋าแล้วสะพายไว้ “มันอยู่ที่นี่ไม่ได้แล้ว”

“ทำไม?”

“เพราะพี่สามของคุณทนให้มีหมาอยู่ในบ้านไม่ได้”

“ทำไม?”

ฉันไม่อยากตอบคำถามว่าทำไมที่ดูงี่เง่าของเด็กน้อยคนนี้ ฉันยัดเอาอาหารและของเล่นเข้าไปในกระเป๋าแล้วเดินไปยังประตูห้องของเขา “ถ้าคุณอยากเลี้ยงมันไว้ คุณก็ต้องไปเจรจากับพี่สามของคุณเอง ถ้าชนะ ฉันก็ไปรับกลับให้คุณได้ตลอด”

เมื่อคืนมีประโยคหนึ่งที่สีชิงชวนพูดถูก เขาบอกว่าฉันเป็นผู้อาศัย ฉันมีสิทธิ์อะไรจะไปเลี้ยงหมา ที่นี่ไม่ใช่บ้านฉัน ฉันจะทำตามอำเภอใจไม่ได้

ฉันสะพายเจ้าหมาน้อยออกจากบ้าน เมื่อเดินไปถึงในสวนก็เงยหน้าขึ้นมองบนอาคารแวบหนึ่งและเห็นว่าสีชิงชวนกำลังเหยียดกล้ามเนื้ออยู่บนดาดฟ้า

รูปร่างของเขาแข็งแรงมาก ฉันมองได้แวบเดียวก็ก้มหน้าลง บ้านตระกูลสีที่ใหญ่โตขนาดนี้ แม้แต่หมาตัวเดียวยังเลี้ยงไว้ไม่ได้

วันนี้ฉันไปเซียวซื่อกรุ๊ป เฉียวอี้และหนีอีโจวก็ไปด้วยเช่นกัน ตอนนี้ก็นับว่าพวกเขาเป็นคนของเซียวซื่อกรุ๊ปแล้ว

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่ายรักเมียในนาม(จบ)