พ่ายรักเมียในนาม(จบ) นิยาย บท 81

เสียงเคาะประตูห้องประชุมดังขึ้น ทำให้ทุกคนหันไปมองทางนั้นทันที นิ้วของฉันสั่นเทาอยู่ในฝ่ามือของเฉียวอี้ ฉันไม่รู้ว่าเมื่อประตูเปิดออกแล้วฉันจะต้องพบเจอกับอะไรบ้าง

ไม่นานประตูก็เปิดออก ตรงประตูบานนั้นมีชายคนหนึ่งยืนอยู่ เขาอยู่ในชุดแจ็กเก็ตสีเทาและกางเกงสีน้ำเงิน เสื้อผ้าของเขายับย่นไม่เรียบร้อย

“ประธานเฉิ่ง” คนส่งข่าวพูดอย่างอ่อนน้อมถ่อมตนและโค้งคำนับให้จนจบ

“คุณเจี่ยง คุณมาแล้วเหรอ” คุณน้ากวักมือเรียกเขาอย่างนุ่มนวล “เข้ามาสิ!”

คนคนนั้นเดินจากด้านนอกเข้ามาข้างใน เมื่อเขาเข้ามาใกล้ ฉันก็ได้เห็นหน้าเขาอย่างชัดๆ เต็มตาในที่สุด บอกตามตรงว่าฉันรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย เพราะหน้าตาเขาคุ้นมาก คิดไม่ถึงว่าเขาจะคล้ายกับฉัน

ดูเหมือนเขาน่าจะอายุราวๆ 50 กว่าปี มองออกเลยว่าตอนเขายังหนุ่มก็คงเป็นชายหนุ่มที่หน้าตาดีคนหนึ่ง แต่คงจะมีชีวิตที่ยากลำบาก เพราะเขาดูค่อนข้างมีอายุ

เขายิ้มแล้วพยักหน้าให้กับทุกคนที่นั่งอยู่ “ผู้จัดการใหญ่ทุกคน สวัสดีครับๆ”

เขาพยักหน้ารัวๆ ด้วยท่าทางมีมารยาทและถ่อมตัว

“คุณเจี่ยง ฉันแนะนำให้คุณรู้จักหน่อยดีกว่า ท่านนี้ที่อยู่ข้างหน้าคุณก็คือประธานของเซียวซื่อกรุ๊ป เธอชื่อเซียวเซิง”

“อ้อ หนูก็คือเสี่ยวเซิงเหรอ” เขามองฉันอย่างประหลาดใจ

ฉันจับจ้องเขาที่เรียกชื่อเล่นของฉันออกมา จากนั้นก็ลุกขึ้นพร้อมกับปลายนิ้วที่เย็นเยียบ

“โอ๊ะ พอสองคนนี้ยืนอยู่ด้วยกันแล้วเหมือนกันมากเลยนะเนี่ย!” แม่เลี้ยงปรบมืออย่างมีความสุข “ฉันยังไม่ได้แนะนำให้ทุกคนรู้จักใช่ไหมคะ ท่านนี้ก็คือพ่อแท้ๆ ของลูกเลี้ยงคนดีของฉันเอง เพราะงั้นเซียวหยวนของเราก็เลยช่วยคนอื่นเลี้ยงลูกมาตั้ง 20 กว่าปีแน่ะ!”

ฉันจับโต๊ะไว้อย่างอ่อนแรง โดยมีเฉียวอี้ลุกขึ้นมาพยุงฉันอีกที

คนคนนั้นเดินเข้ามาใกล้ฉันด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม “เสี่ยวเซิง โตขนาดนี้แล้วเหรอเนี่ย ไม่ได้เจอกันตั้งหลายปี ครั้งล่าสุดที่พ่อเจอหนู หนูยังตัวเท่านี้อยู่เลย”

เขายกมือขึ้นมาเทียบส่วนสูงให้ฉันดู จากนั้นก็ยื่นมือมาทางฉัน แต่จิตใต้สำนึกมันสั่งให้ฉันหลบมือนั้นของเขาโดยอัตโนมัติ ฉันไม่รู้จักเขา อีกอย่างการปรากฏตัวของเขามันกะทันหันเกินไปจนฉันไม่สามารถตั้งรับได้ทัน

ฉันหันหน้าไปมองเฉียวอี้ เธอหยิบเอกสารบนโต๊ะขึ้นมาให้ฉันแล้วพูดขึ้น “การประชุมถูกขัดจังหวะแบบนี้ งั้นก็เลิกประชุมไปก่อนเถอะ”

ฉันกำลังจะเดินออกไป แต่คุณน้าก็พูดขึ้นก่อน “คุณเจี่ยง ลูกสาวที่คุณพยายามตามหามาทุกวิถีทางก็อยู่ตรงหน้าคุณนี่ไง ตอนนี้เธอเป็นท่านประธานของสีซื่อกรุ๊ปเลยนะ เธอมีเงินมากมายจนสามารถแก้ปัญหาที่คุณกำลังเดือดร้อนอยู่ได้พอดีเลย”

“เสี่ยวเซิง” เขายื่นมือมาทางฉัน “พอดีพ่อมีปัญหานิดหน่อย ติดหนี้อยู่จำนวนหนึ่ง หนูช่วยพ่อก่อนนะ”

“ทำอะไรคะ คุณเป็นใครเนี่ย?” เฉียวอี้ดึงตัวฉันไปไว้ด้านหลังเธอ “มาถึงก็ขอเงินกันเลย คุณเป็นใคร เรารู้จักกันเหรอ?

“เฉียวอี้ มันไม่เกี่ยวกับเธอ เธอไม่ต้องยุ่ง คุณเจี่ยงคนนี้เขาเป็นพ่อแท้ๆ ของเซียวเซิง”

“คุณบอกว่าใช่ก็คือใช่งั้นสิ?”

“ไม่เชื่อเหรอ? คุณเจี่ยง รบกวนคุณเอาหลักฐานออกมาหน่อยสิ”

คนคนนั้นล้วงบางอย่างในกระเป๋าออกมา จากนั้นก็ส่งกระดาษยับยู่ยี่ใบหนึ่งมาให้ฉัน แต่ฉันหลบอยู่ด้านหลังเฉียวอี้ เธอจึงรับมันมาแทน จากนั้นฉันก็เริ่มอ่านข้อความบนกระดาษใบนั้น

มันคือสูติบัตรของฉัน มันเขียนว่าฉันเกิดที่โรงพยาบาลซานอี โดยมีชื่อของแม่ฉันเขียนอยู่ในช่องมารดา และช่องบิดามีชื่อ ‘เจี่ยงเทียน’ เขียนอยู่ในนั้น

เฉียวอี้โยนกระดาษใบนั้นให้เขา “สร้างกระดาษเน่าๆ นี่ขึ้นมาเพื่อจะขู่ใครเหรอ?”

“เซียวเซิง พ่อเป็นพ่อของลูกจริงๆ นะ หลังจากที่แม่ของลูกแต่งงานกับพ่อก็ได้ให้กำเนิดลูก จากนั้นพ่อที่รวยๆ ของลูกก็โผล่มา เฮ้อ ใครให้พ่อเป็นคนไม่มีอนาคตกันล่ะ”

ฉันรู้สึกสับสนมาก แต่ตอนนี้ฉันรู้แค่ว่าทั้งหมดนี้เป็นเรื่องที่คุณน้าตั้งใจวางแผนขึ้นมา ไม่ว่าคนคนนี้จะเป็นพ่อของฉันหรือไม่ แต่เขาต้องมีความสัมพันธ์เกี่ยวโยงกับฉันแน่ๆ

แม่เลี้ยงของฉันวางแผนให้คนคนนี้มาที่ที่ประชุมของเครือข่าย เพื่อให้ผู้บริหารระดับสูงและหัวหน้าสาขาย่อยในแต่ละสาขาของเครือข่ายเห็นฉากนี้

ฉันเดินผ่านชายคนนั้นออกไปด้านนอกประตู จากนั้นก็หลบเข้ามาอยู่ในห้องทำงานของตัวเอง ไม่นานเฉียวอี้ก็เดินตามเข้ามา

คงเป็นเพราะสีหน้าของฉันดูไม่ได้จนทำให้เธอตกใจ เธอจึงรีบจับมือฉันไว้แน่น “เซียวเซิง มันต้องไม่ใช่เรื่องจริง แม่เลี้ยงเธอจะเก่งขนาดหาพ่อแท้ๆ ของเธอเจอเลยเหรอ? แม่เลี้ยงเธอตั้งใจจะหาคนมาทำให้เธอรู้สึกอึดอัดใจต่างหาก”

“ช่วยฉันสืบหน่อย” ฉันพูดเสียงสั่น “ช่วยฉันสืบหน่อยว่าเจี่ยงเทียนคนนี้เกี่ยวข้องกับแม่ฉันไหม เธอสืบได้ไหม?”

“เธอไม่ต้องห่วง จะให้ไปสืบว่าบนดวงจันทร์มีหญ้ากี่ต้น ฉันก็ไปสืบให้เธอได้” เฉียวอี้พูดจบก็เดินไปคุยโทรศัพท์ทันที เธอมีเพื่อนมากมายและทำงานอยู่ในหลากหลายอาชีพ ฉันรู้ว่าเธอมีความสามารถในเรื่องแบบนี้

ฉันนั่งงอตัวอยู่บนเก้าอี้ ความรู้สึกเย็นสบายค่อยๆ คืบคลานจากปลายนิ้วเท้าของฉันขึ้นมาบนร่างกายทีละน้อยๆ

ผ่านไปได้สักพัก เฉียวอี้ก็วิ่งมายืนอยู่ตรงหน้าฉัน สีหน้าของเธอไม่สู้ดีนัก และฉันก็คิดว่าผลลัพธ์ที่ได้คงไม่ค่อยดีแน่นอน

“คนคนนี้ชื่อว่า ‘เจี่ยงเทียน’ เกิดปี 1969 ปีนี้อายุ 50 พอดี เขาแต่งงานครั้งเดียว และภรรยาคนก่อนของเขาก็คือ…” เฉียวอี้ชะงักไปครู่หนึ่ง ฉันจึงมองไปที่เธอ

“เธอว่า ฉันจะไม่เป็นลมไปเหมือนกับผู้หญิงในละครของฉงเหยาแบบนั้นหรอกใช่ไหม”

“ก็คือคุณแม่” เฉียวอี้พูดขึ้นด้วยเสียงที่เบาที่สุด

เมื่อกี้ฉันกำลังคิดว่าแม่เลี้ยงใจเย็นกว่าเซียวหลิงหลิงเยอะเลย ถ้าเธอไม่แน่ใจ เธอจะไม่รีบร้อนพาชายคนนั้นมายืนอยู่ต่อหน้าฉันแบบไม่ได้ตรวจสอบให้แน่ใจก่อนเด็ดขาด

“แล้วยังไงต่อ?” ฉันพูดเสียงแหบแห้ง

“หลังจากพวกเขาแต่งงานกันหนึ่งปี เธอก็คลอดออกมา แต่ไม่นานคุณแม่ก็หย่ากับเจี่ยงเทียน เขาคนนี้เป็นคนไม่ดี ติดยา เล่นพนัน แถมยังติดหนี้อีกเยอะมาก เขาผลาญทรัพย์สินคุณแม่จนหมดตัวแล้วก็หย่ากับท่าน จากนั้นคุณแม่ก็พาเธอย้ายออกมา”

อ้อ ที่แท้เรื่องราวชีวิตของฉันก็เป็นอย่างนี้นี่เอง

ฉันถอนหายใจออกมายาวๆ ก่อนจะพูดขึ้น “พ่อฉันเป็นพวกขี้ยา”

ฉันมองออกไปนอกหน้าต่าง ทันใดนั้นฝนก็ตกลงมา เสียงลมและฝนนี่มันช่างเข้ากับบรรยากาศและสภาพจิตใจของฉันได้ดีจริงๆ

“เซียวเซิง” เฉียวอี้คุกเข่าลงตรงหน้าฉันแล้วกุมมือฉันไว้ “ถึงเขากับคุณแม่จะเคยแต่งงานกันก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะเป็นพ่อแท้ๆ ของเธอนะ พวกเธอยังไม่ได้ตรวจดีเอ็นเอกันเลย!”

“ฉันไม่ใช่ลูกของคุณพ่อ ถ้าไม่ใช่ลูกของเจี่ยงเทียนอีก ในชีวิตคุณแม่ของฉันจะมีผู้ชายเยอะขนาดนั้นเลยเหรอ?”

“ฉันไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น แต่เจี่ยงเทียนคนนี้เขาเป็นคนไม่ดีจริงๆ”

“ก็ถ้าเขาเป็นพ่อของฉันจริงๆ ถ้าเขาไม่ดีแล้วฉันจะทำไงได้ล่ะ”

“เซียวเซิง…” เฉียวอี้อยากปลอบฉัน แต่เธอกลับบ่นงึมงำคนเดียว คงคิดคำปลอบใจฉันไม่ออก เธอจึงทำได้เพียงเงียบเสียงตัวเองลง

เลขาวิ่งเข้ามาบอกฉันว่าเจี่ยงเทียนอยู่ด้านนอกและอยากเข้ามาพบฉัน

เฉียวอี้พูดขึ้น “บอกให้เขาออกไปจากเซียวซื่อกรุ๊ป อย่าให้เขาเข้ามาสร้างความวุ่นวายในที่ทำงานอีก”

“ให้เขาเข้ามาเถอะ” ฉันพูดอย่างอ่อนแรง “ยังไงเขาก็เป็นสามีเก่าของแม่ฉัน”

เฉียวอี้ถอนหายใจแล้วโบกมือให้กับเลขา “ให้เขาเข้ามา”

เมื่อประตูเปิดออก เจี่ยงเทียนก็เดินเข้ามาด้านในด้วยหน้าตามอมแมมและท่าทางเฉื่อยชา

ไม่น่าล่ะ ตอนเด็กๆ ฉันถึงรู้สึกว่ามีบางครั้งที่คุณแม่ไม่มีความสุข ฉันไม่เข้าใจมาตลอด คุณพ่อทั้งดีและรักท่านขนาดนี้ ถึงจะมีครอบครัว แต่ท่านก็ใช้เวลาอยู่กับพวกเรามากมาย ทำไมท่านถึงยังรู้สึกเศร้าอยู่อีกในบางครั้ง คงจะเป็นเพราะเจี่ยงเทียนคนนี้

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่ายรักเมียในนาม(จบ)