พิษรักองค์ชายโฉมงาม นิยาย บท 10

ตอนที่ 10 ข้าจะแก้แค้น

เวลาค่ำยามหลีโม่ถึงกลับถึงสำนัก ประตูสำนักปิด ไม่มีคนเฝ้าเสาประตู เธอนั่งอยู่บนเนินหิน ค่อยทิ้งตัวล้มลงไปด้านหลัง

ทั้งตัวของเธอไม่มีเรี่ยวแรงเลยแม้แต่นิด ทั้งหิวทั้งเหนื่อยทั้งปวด ตัวแทบกระจาย

เธอไม่มีแรงจะเจาะประตูอีก และรู้ดีว่าถึงเคาะประตูแล้วก็ไม่เปิดแน่นอน

นอนอยู่บนเนินหิน ความหนาวเย็นที่ส่งมาจากด้านหลัง เธอเงยหน้ามองดาวบนฟ้าไว้ ดาวเต็มท้องฟ้า ช่างสวยงามยิ่งนัก?

จักรวาลอันกว้างใหญ่ สามารถรองรับสรรพสิ่งของมากมายแล้ว แต่ ไม่สามารถรองรับชีวิตที่พยายามอยู่ต่อไป

“คุณหนูรอง คุณหนูใหญ่กลับมาแล้ว ตอนนี้อยู่ด้านนอก จะเปิดประตูหรือไม่?”คนเฝ้าประตูถามด้วยเสียงเบา

เสี้ยโล่เย่วยิ้มอย่างโหดเหี้ยม “เปิดอะไร? ไปนอนเถอะ คืนนี้ไม่ต้องอยู่เวร ”

คนเฝ้าประตูรู้ว่าคุณหนูใหญ่เสียอำนาจไปแล้ว แท้จริงแล้ว วันเวลาที่ผ่านมาก็ไม่มีอำนาจอะไรอยู่แล้ว ในฐานะคนใช้ เขาได้เพียงถามตามผู้ที่มีอำนาจเท่านั้น

“ครับ คุณหนูรอง!”คนเฝ้าประตูตอบกลับ

เสี้ยโล่เย่วยิ้มขึ้นมา กล่าวต่อสาวใช้ข้างกาย “เราไปกันเถอะ ให้นางนอนอยู่ด้านนอกคืนนึง ”

“คุณหนู กลัวพรุ่งนี้มีคนพบเห็นไหมคะ?”

“กลัวอะไร?เรื่องวุ่นวายในวันนี้ ใครจะไม่รู้?สำนักเสี้ยงเราเสียหน้าคนนี้ๆได้ เป็นนางที่เสียไม่ไหวเท่านั้น ”เมื่อเสี้ยโล่เย่วพูดจบ แล้วเดินจากไป

หลีโม่นอนอยู่บนพื้น ได้ยินคำพูดจากด้านใน ไม่มีแรงจะไปโกรธหรือรู้สึกอับอายแล้ว เธอเพียงแค่อยากนอนพักสักหน่อย สูบลมหายใจเข้าทีนึง

แค้นนี้ ช้าเร็วก็ต้องชำระ เธอไม่รีบ

กระหายน้ำมากมาย ความรู้สึกกระหายน้ำนั้นทำให้เหลือทนมากกว่าความเหนื่อยล้าและเจ็บปวด

เธอทนรับไว้ ในสองคิดวางแผนวันข้างหน้า

คนนี้เข้าวังแท้จริงแล้วทุกอย่างเป็นไปตามที่เธอคาดการณ์ไว้แล้ว อ๋องเหลียงโรคชักกำเริบ ไม่จำเป็นให้เธอต้องลงมือ ยิ่งทำให้เธอรู้สึกว่าฟ้าประทาน เพียงแต่ ไม่คิดว่าการประทานงานแต่งนี้ ทำให้เกมพลิกผันไป

ที่จริงอ๋องเหลียงวันนี้มิใช่โรคชักกำเริบใหญ่ เป็นกำเริบเล็กก่อนจะกำเริบใหญ่ นี้แสดงว่า ในสองสามวันข้างหน้า เขาจะกำเริบอีกครั้ง และการกำเริบคราวนี้ จะหนักหนามากเป็นพิเศษ

ตั้งใจให้หมอหลวงใช้เข็มนั้น เพื่อบอกให้ฮองเฮารู้ ว่าเธอรู้เรื่องวิชาการฝังเข็ม สามารถรักษาอ๋องเหลียง เช่นนั้น เมื่อเวลาอ๋องเหลียงกำเริบอีก ฮองเฮาก็จะสั่งการให้เธอเข้าราชวังอีก

ตราบใดที่เธอนั้นมียังประโยชน์ต่อฮองเฮา งั้นชีวิตของเธออยู่รอดแล้ว

แต่ตอนนี้กลับมีอ๋องซื่อเจิ้งคนนึงออกมา ทำให้แผนการทั้งหมดจองเธอวุ่นไปหมด

สำนักเสี้ยงจะฆ่าเธอ ฮองเฮาสามารถช่วยได้ แต่ ถ้าอ๋องซื่อเจิ้งจะฆ่าเธอ ใครจะช่วยได้?แล้ว ดูท่าทีระหว่างฮองเฮากับอ๋องซื่อเจิ้งแล้ว อ๋องซื่อเจิ้งก็คงจะเกลียดอ๋องเหลียงนัก ถ้าบอกว่าเธอจะรักษาอ๋องเหลียง อ๋องซื่อเจิ้งยังจะให้เธออยู่อีกหรือ?

วางแผนมาหลายวัน ทำลายไปหมด

เธอเหนื่อย แต่ล้มไม่ได้ ไม่ถึงวินาทีสุดท้าย เธอจะล้มลงไม่ได้

เมื่อเธอกำลังจะใช่ความคิดอยู่นั้น ได้ยินเสียงประตูเปิดขึ้น จากนั้น ได้ยินบนพื้นมีเสียง เธอหันไปดู เห็นเพียงน้ำถ้วยนึ่งกับหมั่นโถวสองลูกบนพื้น

เธอตะลึง แล้วเงยหน้า เห็นเพียงประตูที่ปิดลงอย่างเร็ว เห็นเพียงเงาเล็กๆที่แอบหายไปตรงประตู

วันนี้ หลีโม่ร้องไห้มากี่ครั้ง แต่ไม่ว่าต่อหน้าแขกหรือต่อหน้าฮองเฮาก็ตาม น้ำตาก็ไม่ได้จริงสักเท่าไร เพียงเพื่อเพิ่มผลลัพธ์ที่ดี

แต่ว่า มองน้ำถ้วยนึงกับหมั่นโถวขาวสองลูกนี้แล้ว เธอนั่งขึ้นมากอดขาตัวเอง แล้วร้องไห้ไม่มีเสียงออกมาเต็มที่

คนเฝ้าประตูผู้นี้ไม่รู้หรอกว่า ความใจอ่อนของตนเอง จะช่วยชีวิตเธอ แม้กระทั่ง จะเปลี่ยนแปลงเธอไปทั้งชีวิต

ที่จริงเขาไม่คิดอยากจะทำงานที่สำนักเสี้ยงแล้ว เขาไม่สามารถ ทำเหมือนที่ผู้อาวุโสสอนเช่นนั้น ประจบแค่คนที่มีอำนาจเท่านั้น

รอแค่เพียง สองปีที่หมดอายุการเป็นบ่าว ก็จากไป

หลีโม่ดื่มน้ำแล้ว กินหมั่นโถวแล้ว จากนั้นก็เอาถ้อยไปวางคืนตรงประตู

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิษรักองค์ชายโฉมงาม