วันเวลาผ่านไป ไม่ทันไรก็ถึงวันที่ตระกูลเฟิงจัดงานเลี้ยงต้อนรับญาติ
ทั้งจวนเฟิงประดับประดาไปด้วยโคมไฟ ผ้า กระดาษสีทั่วทุกที่
เสนาบดีซ้ายเฟิงตั้งใจเชิญวงดนตรีมาเฉลิมฉลองด้วยปี่แตรฆ้องกลองบนถนนตรงหน้าประตูใหญ่ ทั้งยังให้เด็กรับใช้ไปแจกจ่ายแผ่นทองคำให้ผู้คนที่สัญจรผ่านไปมาเพื่อให้เกิดความเป็นสิริมงคลโชคดี
กองบรรณาธิการของสำนักพิมพ์พยายามสัมภาษณ์ประเด็นร้อนมาระยะหนึ่ง แต่เขาไม่อยากเอ่ยถึงอดีตอันน่าเสียใจกับลูกสาวคนโตอีก เพราะจะทำให้คนเอาไปซุบซิบนินทาหลังกินอาหาร เขาจึงปฏิเสธไม่ให้สัมภาษณ์
แต่ต่อให้จะไม่ได้ลงหนังสือพิมพ์เผยแพร่ ทันทีที่มีข่าวใหญ่เช่นนี้ออกมา ผู้คนในเมืองหลวงก็รู้เรื่องสำคัญที่เกิดขึ้นในตระกูลเฟิง
ในคืนงานเลี้ยงต้อนรับญาติ ถนนจูเชี่ยเต็มไปด้วยรถราและผู้คน ล้วนเป็นผู้สูงศักดิ์ที่มาเข้าร่วมงานเลี้ยง ดึงดูดผู้คนมากมายให้มาชมความสนุกสนาน
ทหารองครักษ์เมืองหลวงถึงขั้นต้องติดต่อและส่งหน่วยจราจรมาควบคุมสถานการณ์
ในฐานะทายาทรุ่นสองที่โด่งดังและเป็นคุณชายคนโตของตระกูลร่ำรวย ฉีเทียนเหอคุ้นเคยกับการมีกล้องและแสงไฟติดตามตัวมานานแล้วเมื่อต้องออกไปข้างนอก เขาก็ไม่ตื่นเต้นเลยสักนิด
ตรงกันข้าม เสนาบดีซ้ายเฟิงรู้สึกไม่วางใจ กำชับอย่างเข้มงวดซ้ำแล้วซ้ำเล่า “คืนนี้จะมีผู้สูงศักดิ์มาไม่น้อย รวมทั้งฝ่าบาทด้วย เจ้าต้องสำรวมและสุขุมหน่อย อย่ายืนหรือนั่งไม่ระวัง จะทำให้ฝ่าบาทไม่พอพระทัยเอาได้ จะไม่เป็นผลดีกับเจ้าเลย”
ฉีเทียนเหอยักไหล่ “อย่างน้อยเขาก็เป็นน้าเขยของข้า คงไม่รุนแรงนักหรอก? อีกอย่างข้ามีพระเจ้าหลวงเป็นผู้สนับสนุน ไม่ต้องกลัวไป ได้ยินว่าน้าเขยถูกจับมัดห้อยเฆี่ยนตีเพราะเรื่องของแม่ข้ามาก่อน เขาต้องสุภาพกับข้าแน่นอน”
หางตาของเสนาบดีซ้ายเฟิงกระตุกทีหนึ่ง ก่อนเอ่ยเตือน “เจ้าไม่ต้องกลัวฝ่าบาท แต่ไม่ว่าอย่างไรคืนนี้ก็ต้องรักษาหน้าข้าไว้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งอย่าแสดงความขี้ขลาดต่อหน้าตาเฒ่าหลี่ นี่เป็นเรื่องสำคัญที่สุด เจ้าจำได้หรือไม่”
“ระวังปากของเจ้าไว้ พูดน้อยผิดน้อย นิ่งเสียมีค่าดุจทองคำ!”
เขาได้เรียนรู้แล้วว่าปากของหลานชายนั้นไม่มีหูรูดพอๆ กับของพระชายารัชทายาท
ฉีเทียนเหอเอาแขนโอบไหล่เขาแล้วตบเบาๆ “คุณตาไม่ต้องห่วงหรอก คืนนี้คุณตาจะต้องมีเกียรติมากขึ้นอย่างแน่นอน ข้ามีแผนในใจ จะไม่ปล่อยให้คนอื่นหัวเราะเยาะ”
เขาตั้งใจเตรียมงานเลี้ยงต้อนรับญาติคืนนี้ไว้อย่างดี
ผู้ใหญ่น่ะล้วนชอบอวดลูกหลานของตนเพื่อเอาหน้า เขาแสดงละครต่อหน้าญาติๆ มาตั้งแต่เด็กจนชินแล้ว
เมื่อเห็นว่าเขารู้ความเช่นนี้ เสนาบดีซ้ายเฟิงก็กล่าวปลอบใจ “เจ้าเชื่อฟังก็ดี ข้าไม่ขอให้เจ้าแสดงเก่งจนสะดุดตา แค่ประพฤติตัวดีไม่ออกนอกกรอบก็เพียงพอแล้ว”
หากเป็นเด็กธรรมดาคนอื่นๆ ในตระกูลเฟิง เขาอาจรู้สึกว่าสั่งสอนอะไรไม่ได้เลยจนรู้สึกอับอาย แต่ฉีเทียนเหอคนนี้ทำให้เขาไม่ต้องพูดมากความนัก
แต่ความจริงพิสูจน์ได้ว่า เสนาบดีซ้ายเฟิงยังอ่อนหัดเกินไปกับคนที่ชอบทำตัวโดดเด่นดึงดูดความสนใจของทุกคนไม่ว่าจะเดินไปที่ไหนก็ตาม
เมื่องานเลี้ยงอาหารค่ำเริ่มต้น พวกอวิ๋นหลิงก็มาถึงจวนเฟิงตรงเวลา
คืนนี้มีแขกเหรื่อไม่มากนัก แขกชายหญิงนั่งประจำที่เรียบร้อย ทว่าทุกคนล้วนมีศักดิ์ฐานะไม่ธรรมดา
นอกจากราชนิกูลแล้ว ยังมีข้าราชบริพารระดับต่างๆ ตำแหน่งต่ำสุดก็คือขุนนางขั้นหนึ่งในราชสำนัก แสดงให้เห็นว่าเสนาบดีซ้ายเฟิงให้ความสำคัญกับฉีเทียนเหอยิ่งนัก
ในบรรดาคนตระกูลเฟิง มีเพียงผู้ชายและผู้หญิงเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่ได้รับอนุญาตให้เข้าร่วม
ในห้องจัดเลี้ยงที่นั่งชายหญิงแยกกันทางซ้ายและขวาโดยมีม่านมุกบังสายตาไว้
อวิ๋นหลิงช้อนตามองไปเห็นเสนาบดีซ้ายเฟิงพาฉีเทียนเหอที่พยักหน้าค้อมกายขณะเดินไปทักทายโต๊ะตรงข้ามจนทั่ว
จักรพรรดิจาวเหรินนั่งอยู่ข้างพระเจ้าหลวง เขารู้สึกร้อนรนกระวนกระวายเล็กน้อยอย่างหาได้ยากนัก


VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ
ทำไมใช้เหรียญไม่ได้ติดต่อกันเป็นอาทิตย์ละคะ...
ทำไมแสดงความคิดเห็น แล้วข้อความหายอ่ะ...
ซื้อตอนแล้วไม่ได้ปลดล๊อคค้างไว้เหรอคะ แบบนี้ก็ย้อนกลับมาอ่านไม่ได้สิคะ มือกดโดนผิดวิ่งไปหน้าอื่นต้องเสียเงินอีกรอบงี้เหรอ...
ทำไมซื้อตอนปลดล๊อคแล้ว กลับไปย้อนอ่านต้องปลดล๊อคใหม่คะ...
ทำไมตอนซื้อแล้วล๊อคไม่ได้คะ...
ทำไมซื้อตอนแล้วเปิดหน้าใหม่แล้วย้อนกลับไปอ่านไม่ได้คะ ล๊อคเหมือนเดิมต้องจ่ายเงินซื้อใหม่ตลอดรึคะ...
ทำไมปลดล๊อคแล้ว กดข้ามไปตอนใหม่แล้วย้อนกลับมาอ่านไม่ได้คะ...
ทำไมซื้อตอนไม่ได้คะ...
เติมเหรียญอย่างไร...
วิธีเติมเหรียญตรงไหนอย่างไร...