เซียวปี้เฉิงถามอย่างข้องใจ “จะยืมตัวนางไปทำอะไร ไม้แกะสลักเสียอีกแล้วรึ?”
องค์ชายห้าสีหน้ากระอักกระอ่วน ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง สุดท้ายจึงตัดสินใจพูดความจริง
ไหน ๆ ก็เป็นผู้ชายเหมือนกัน พี่สามก็รู้ความลับของเขาอยู่แล้ว
องค์ชายห้าบอกเล่าถึงความรู้สึกพิเศษที่มีต่อจื่อเถา พลางกล่าวอย่างจริงจังว่า “หลายปีมานี้ มีเพียงใกล้ชิดกับจื่อเถาเท่านั้นที่ไม่ทำให้ข้าเกิดความรู้สึกหวาดกลัว จึงคิดว่าจะมาขอยืนตัวนางไปใช้งาน เผื่อจะเป็นประโยชน์ต่อโรคของข้าบ้าง”
จริง ๆ เขาก็ไม่อยากมีโรคประหลาดเช่นนี้ เพียงแต่ก่อนหน้านี้ทำอย่างไรก็ไม่อาจควบคุมตัวเองได้
เซียวปี้เฉิงทำหน้าฉงนไปอีก ไม่นึกว่าอวิ๋นหลิงจะทายแม่นถึงเพียงนี้
จากนั้น แววตาเขากลับดูประหลาดขึ้น “ยืมตัวเจ้าเถาใหญ่ไปใช้งานเนี่ยนะ?”
ใช้งานอย่างไร? เหมือนอย่างคืนนั้นในการบรรเทาฤทธิ์ยาน่ะหรือ?
“เจ้าอย่าทำอะไรส่งเดชนะ นางเป็นหญิงสาวที่มีเกียรติมีศักดิ์ศรี ไม่ได้ขายตัวให้จวนอ๋องหรือทำสัญญาขายขาด เจ้าอย่าเห็นเป็นสาวใช้ทั่วไปล่ะ”
บ่าวไพร่ทั่วไปหากมีสัญญาขายตัวไว้ ขอเพียงมีเงินมากพอก็สามารถมาไถ่ตัวให้เป็นอิสระได้
แต่หากเป็นสัญญาขายขาด ก็จะถือเป็นทรัพย์สินของนายจ้างชั่วชีวิต จะออกเรือน ขายต่อให้ผู้อื่นหรือชี้เป็นชี้ตายก็ล้วนเป็นสิทธิ์ของนายจ้างทั้งสิ้น
ยิ่งถ้าสาวใช้ที่หน้าตางดงามหน่อยก็ให้เป็นนางต้นห้อง หรือเป็นที่รองรับอารมณ์สำหรับผู้เป็นนายก็มีให้เห็นอยู่ดาษดื่น
แต่จื่อเถากับจวนจิ้งอ๋องเป็นเพียงนายบ่าวที่ผ่านการว่าจ้างเท่านั้น แม้นางจะมีฐานะเป็นเพียงสาวใช้ แต่ก็ได้รับการคุ้มครองทางกฎหมายอยู่
เห็นเซียวปี้เฉิงเข้าใจผิดเช่นนี้ องค์ชายห้าก็หน้าแดงระเรื่อ รีบโบกมือเพื่ออธิบาย
“พี่สามเข้าใจผิดแล้ว ข้าไม่ได้หมายความเช่นนั้น ข้าเพียงแต่อยากใกล้ชิดกับแม่นางจื่อเถา...ก็ไม่ใช่อีก ข้าแค่อยากลองมีปฏิสัมพันธ์กับนางดู เผื่อว่าอีกหน่อยคุ้นชินขึ้น โรคของข้าก็อาจจะหายดี...”
เซียวปี้เฉิงดูจะลำบากใจ ไม่ได้รับปากในทันใด “เรื่องนี้ข้าก็ตัดสินใจไม่ถูก เจ้าอาจจะไม่รู้ หลังจากเจ้าเถาใหญ่ผ่านประสบการณ์เช่นนั้นกับเจ้า นางเองก็ค่อนข้างต่อต้านผู้ชายเหมือนกัน”
อาการของจื่อเถาแม้จะไม่รุนแรงเท่าองค์ชายห้า แต่ปกติก็มักจะถือคติ “ห้ามผู้ชายมาเข้าใกล้” เช่นกัน นางเคยถูกเฟิงจิ่งเฉิงหลอกลวงและลวนลามมา แม้ว่าสุดท้ายจะโชคดีแคล้วคลาด ฝ่ายชายไม่ได้สมหวัง แต่ก็ทำให้นางเกิดความระแวงต่อผู้ชายไม่น้อย
โดยเฉพาะไม่ไว้ใจคนที่ภายนอกดูหล่อเหลา บุคลิกเป็นหนุ่มเจ้าสำราญด้วยแล้ว
โชคร้ายนัก ที่องค์ชายห้าก็เป็นประเภทนี้จริง ๆ
องค์ชายห้าไม่ได้นึกถึงข้อนี้มาก่อน จึงเกิดอาการชะงักงัน
ขณะเดียวกันก็เกิดความเห็นใจจื่อเถาต่อชะตากรรมที่นางได้รับ
เซียวปี้เฉิงให้คำแนะนำว่า “ถ้าไงให้ข้าไปถามนางก่อน เจ้าเถาใหญ่เป็นคนมีน้ำใจ ไม่แน่อาจยอมช่วยเจ้าก็เป็นได้”
ไหน ๆ ก็เพียงแค่อยู่ใกล้ชิด ไม่มีการสัมผัสก็คงไม่เป็นไรมากนัก
องค์ชายห้ารีบส่ายหน้าเร็วพลัน “ไม่ ๆ ๆ ให้ข้าจัดการเองดีกว่า ข้าจะไปถามพี่สะใภ้สามดู”
คืนนั้นเขาอยู่ในภาวะไม่รู้สึกตัว ร่างกายอาจแสดงความรุ่มร่ามต่อหน้าจื่อเถา จนป่านนี้ก็ไม่รู้ว่านางจะมองเขาในแง่ไหน
เดิมทีก็รังเกียจผู้ชายอยู่แล้ว เกิดเขาไปพูดตรง ๆ ว่า “ช่วยรักษาโรคไม่ขันให้ข้าที” เช่นนี้แล้วต่อไปคงอย่าหวังได้เข้าใกล้นางอีกเลย
องค์ชายห้าไปหาอวิ๋นหลิง แต่กลับเปลี่ยนหัวข้อใหม่
“พี่สะใภ้สาม ไม้สลักในตำหนักข้ายังมีหลายจุดที่ซ่อมแซมไม่ดี รบกวนให้จื่อเถาช่วยมาดูอีกทีได้ไหม?”
อวิ๋นหลิงมองตาเขาเหมือนจะรู้ทัน เพียงแต่ไม่อยากไปจับไต๋
“จื่อเถายังป่วยอยู่ ช่วงนี้คงยังเข้าวังไม่ได้ ข้าจะไปถามนางให้ก่อน”
ไม่ผิดจากที่คิด จื่อเถารีบอ้างว่าป่วย ปฏิเสธโดยไม่ลังเล
องค์ชายห้ารู้สึกผิดหวังนัก แต่ก็หายอมแพ้ไม่ ไหน ๆ ก็ต้องมาจวนจิ้งอ๋องเพื่อทำการรักษาอยู่แล้ว เลยเอาไม้แกะสลักที่อยู่ในตำหนักมาด้วยเสียเลย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ
นึกว่าจะอัพจนจบเสียอีกค่ะ กำลังสนุกเข้มข้นเชียว...
รบกวนแอดช่วยอับต่อไปให้จบเรื่องได้ไหมคะ รออ่านอยู่น้า...
ตอนต่อไปอ่านที่ไหนคะ...
ตอนต่อไป อัพช่วงไหนคะ 😭😭😭...
อัพต่อเถอะนะคะ...กำลังสนุกเลยค่ะ😅😄😊😘...
สนุกมากค่ะ..เดินเรื่องเร็ว..พระเอกไม่โง่..นางเอกฟาดแรงสะใจ...อ่านแล้วบันเทิงมาก55555......
ขอบคุณค่ะ...
รีบมาต่อนะคะ กำลังสนุกเลย...
ขอบคุณน้าค้า ที่ลงทุกวันเลยสนุกมากค่ะ...
ชอบมากเลยค่ะ นางเอกเก่ง❤...