พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 310

แต่กับคำพูดของอวิ๋นหลิงนั้น เซียวปี้เฉิงยังคลางแคลงใจอยู่บ้าง

“ไม่รู้ว่าผ่านไปหลายวัน อาการน้องห้าดีขึ้นบ้างหรือเปล่า”

ด้วยเหตุนี้ก่อนที่องค์ชายห้าจะอำลาในวันนี้ เขาจึงรั้งให้อีกฝ่ายอยู่ต่อซักพัก พร้อมถามไถ่ด้วยความห่วงใยและอ่อนโยน

“น้องห้า หมู่นี้เจ้าอยู่กับเจ้าเถาใหญ่เกือบทั้งวัน อาการดีขึ้นหรือเปล่า? ได้ลองไปใกล้ชิดกับหญิงอื่นบ้างหรือไม่?”

องค์ชายห้าชะงักเล็กน้อย “ข้ายังไม่ได้ลองเลย”

หลายวันนี้ความสนใจของเขาไปอยู่ที่จื่อเถาหมด คิดเพียงว่าทำอย่างไรจึงจะใกล้ชิดกับนางได้มากกว่านี้ จนพาให้ลืมเรื่องอื่นไปหมด

อวิ๋นหลิงเดินขึ้นไปตบหน้าอกตนเอง ใช้น้ำเสียงด้วยความเอ็นดูว่า “หยวนโม่ไม่ต้องกลัว เรามาลองกอดดูซักครั้ง”

เซียวปี้เฉิงหน้างอลงทันควัน สาดสายตาเย็นชาไปยังองค์ชายห้า ไม่เหลือความอ่อนโยนเช่นเมื่อครู่นี้อีก มีแต่สีหน้าบ่งบอกว่าลองกล้าเดินมาดูสิ พี่น้องก็ไม่มีไว้หน้าหรอกนะ

องค์ชายห้าตกใจจนเหงื่อออกแผ่นหลัง พร้อมถอยหลังกรูดไปสองก้าว

“ไม่ได้ ๆ ข้ายังคงไม่สบายใจอยู่”

อวิ๋นหลิงไม่เหมือนกับคนอื่น แท้จริงแล้วเขาไม่ได้รังเกียจพี่สะใภ้สามเลย จะมีก็แต่ความกลัว

และความกลัวชนิดนี้ ก็ต่างจากปมในใจที่ติดมาตั้งแต่สมัยยังเด็กอยู่

นับแต่รู้ว่าคืนนั้นพี่สะใภ้สามเอากระโถนไปครอบศีรษะเฟิงจิ่งเหวย เขาจึงเพิ่งตระหนักว่าเหตุใดพี่สามจึงได้กลัวชายาผู้นี้นัก

“ในเมื่อรู้สึกไม่สบายใจ งั้นก็รีบกลับไปพักผ่อนเถอะ”

เมื่อครู่นี้ยังคิดรั้งตัวองค์ชายห้าไว้ แต่ตอนนี้เซียวปี้เฉิงกลับรีบส่งแขกอย่างไม่เกรงใจ ซ้ำยังเรียกให้เฉียวเย่มาส่งเขาอีก

“งั้นพรุ่งนี้ข้าค่อยมาใหม่”

องค์ชายห้ารีบพยักหน้าโดยไว หันหลังเดินออกไปทันที อดไม่ได้ที่จะนึกบ่นในใจ

พี่สามก็เหลือเกิน พี่สะใภ้สามเป็นคนเอ่ยปากก่อนแท้ ๆ พอโกรธขึ้นมาก็มาลงที่เขาคนเดียว

รอจนองค์ชายห้าออกไปแล้ว อวิ๋นหลิงจึงทำหน้าภูมิใจ “ข้าพูดผิดเสียเมื่อไหร่ นอกจากจื่อเถาแล้ว หญิงอื่นอย่าหวังได้เข้าใกล้หยวนโม่เลย”

นี่แหละคือพลังของสูตรสำเร็จล่ะ!

เซียวปี้เฉิงกล่าวว่า “งั้นก็ปล่อยให้เขาไปรักษากับจื่อเถาต่อแล้วกัน จะได้ไม่ต้องมากระสับกระส่ายอยู่แถวนี้อีก”

เหมือนอย่างที่อวิ๋นหลิงเคยว่า สภาพองค์ชายห้าในเวลานี้เปรียบดั่งไฟฟ้าสิบหมื่นโวลต์ก็ว่าได้

และเพื่อไม่ให้จื่อเถารู้สึกว่าจงใจ ทุกวันหลังจากมาแล้วก็จะทำทีไปหาอวิ๋นหลิงเพื่อ “ตรวจอาการ” ซักครู่ จากนั้นค่อยแวะไปหาจื่อเถาต่อ

หน้าหนาวค่ำคืนยาวนาน เช้านี้ฟ้ายังไม่ทันได้สว่าง

เขากำลังโรมรันพันตูอยู่กับอวิ๋นหลิง คิดว่าจะออกกำลังช่วงเช้าอีกซักรอบเหมือนอย่างเมื่อคืนเสียหน่อย จู่ ๆ องค์ชายห้าก็มาอีก ทำเอาเซียวปี้เฉิงอดรู้สึกเสียอารมณ์มิได้

อีกอย่าง ให้พี่สะใภ้ไปรักษาโรคนกเขาไม่ขันให้กับน้องชายสามี ไม่ว่าคิดอย่างไรเซียวปี้เฉิงก็รู้สึกตะขิดตะขวงใจนัก

และหลายวันนับต่อจากนั้น องค์ชายห้าก็ยิ่งแวะเวียนไปทางทิศใต้ของเรือนหลานชิงบ่อยครั้งขึ้น

“เจ้าเรียนรู้งานไม้มากี่ปีน่ะ?”

เพื่อไม่ให้บรรยากาศในห้องเงียบเชียบจนเกินไป องค์ชายห้ามักจะหาหัวข้อมาพูดคุยเพื่อคลายเหงา อีกทั้งจะได้ทำความรู้จักจื่อเถาให้มากขึ้น

จื่อเถากำลังใช้แปรงปัดรูปแกะสลักอยู่ ก้มหน้านอบน้อมและตอบเสียงเบาว่า “ทูลองค์ชายห้า หม่อมฉันนับแต่จำความได้ก็อยู่กับพวกท่อนไม้แล้ว นับจริง ๆ ก็ราวสิบสี่สิบห้าได้เพคะ”

“ทั้งมีพรสวรรค์และขยันขันแข็ง มิน่าฝีมือเจ้าถึงได้ดีนัก”

องค์ชายห้าพูดพลาง กระเถิบร่างไปเข้าใกล้จื่อเถาอีก ทำราวกับจะเพ่งพินิจไม้แกะสลักให้ถี่ถ้วน

กลิ่นกายของจื่อเถาช่างหอมนัก ทำให้เขานึกอยากอยู่ใกล้ชิดบ่อย ๆ

แต่ก็น่าแปลก ให้เป็นกลิ่นน้ำหมึกหอมที่สุดในสำนักการศึกษาก็เถอะ ยังไม่เป็นที่ยวนใจเขาเท่ากับเวลานี้เลย

ทั้งคู่แนบชิดเคียงใกล้ องค์ชายห้าก้มหน้าเล็กน้อย จนแทบจะมองเห็นขนอุยลาง ๆ ที่ติ่งหูของจื่อเถาเสียด้วยซ้ำ

และในขณะนั้น ติ่งหูนวลกลมกลึงก็กำลังแดงระเรื่อขึ้นอย่างรวดเร็ว

รับรู้ถึงลมหายใจอุ่นที่อยู่เหนือศีรษะ จื่อเถารู้สึกตัวเกร็ง และเร่งทำงานให้เร็วขึ้นอีก

จื่อเถาร้องตกใจ เสียการทรงตัวจนเซไปด้านข้าง ชนถูกโต๊ะเก้าอี้เสียงดังโครมคราม

องค์ชายห้ายื่นมือไปกอดนางไว้โดยอัตโนมัติ พร้อมกับล้มไปด้วยกัน

จื่อเถา “...”

องค์ชายห้า “...”

ทั้งคู่ต่างสบสายตา ต่างมีอาการชะงักงัน และต่างก็หัวใจเต้นแรงขึ้น

เมื่อนานมาแล้ว ครั้งแรกที่พวกเขาพบกันก็เคยเดินชนจนล้มไปกับพื้น ตอนนั้นต่างฝ่ายต่างถอยออกจากกันเร็วรี่

ที่น่าประหลาดก็คือ ครั้งนี้กลับไม่รู้สึกอึดอัดซักเท่าใด

หน้าประตูมีเสียงตะโกนของเซียวปี้เฉิง “น้องห้า ในวังส่งข่าวมา เสด็จแม่เหลียงเฟยให้เจ้าไปเข้าพบ บอกว่ามีเรื่องสำคัญเร่งด่วน”

องค์ชายห้ารวบรวมสติพร้อมกับยืนขึ้นโดยเร็ว สีหน้าขัดเขินดึงตัวจื่อเทาให้ลุกขึ้นด้วย

เซียวปี้เฉิงเคาะประตูซ้ำอีก “น้องห้า เจ้าเถาใหญ่ พวกเจ้าอยู่ข้างในหรือเปล่า?”

เมื่อกี้ยังมีเสียงโครมครามอยู่ จู่ ๆ ทำไมเงียบไปซะล่ะ

ได้ยินเสียงเรียกของเซียวปี้เฉิง องค์ชายห้าเหลือบมองจื่อเถาเล็กน้อย จู่ ๆ ก็พบว่าหน้าอกนางช่างสะดุดตาเสียจริง

เพียงแค่ความคิดแวบผ่านเท่านั้น เขาก็รู้สึกตกใจและละอายอย่างบอกไม่ถูก

ไม่น่าเชื่อว่าคนอย่างเขาก็เกิดความสนใจต่อเรือนร่างของผู้หญิงเป็น!

เซียวปี้เฉิงผลักประตูเข้ามา ก็เห็นไม้แกะสลักที่ล้มระเนระนาดกับไปพื้นเสียแล้ว สภาพความเสียหายยังหนักกว่าตอนองค์ชายห้าเอามาใหม่ ๆ เสียอีก

“เจ้าเถาใหญ่ เจ้าซ่อมนกไม้ยังไงถึงได้กลายสภาพเป็นเช่นนี้?”

จื่อเถาสีหน้าตกใจ รีบอุ้มเอาไม้แกะสลักขึ้นมา ทำหน้าเหมือนจะร้องไห้

“องค์ชายห้าโปรดอภัย หม่อมฉันจะซ่อมแซมให้ใหม่เพคะ!”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ