ลู่ฉีโอดครวญอย่างน้อยใจ “ท่านอ๋องดูหมิ่นข้า องค์ชายห้าเจตนาชัด ๆ ข้าเห็นแม่นางจื่อเถาจ้องมองนกไม้ด้วยสีหน้าเคร่งเครียด แสดงว่าคงจะทุกข์ใจใหญ่หลวง”
เซียวปี้เฉิงพูดขัดจังหวะเขา “พอที จงลืมสิ่งที่เจ้าเห็น และหุบปากให้สนิทด้วย อย่าไปเที่ยวพูดส่งเดช หากทำลายชื่อเสียงของน้องห้ากับเจ้าเถาใหญ่ละก้อ เจ้าจะไม่โดนแค่โบยสิบทีอย่างง่าย ๆ เท่านั้น!”
แต่ในใจกลับนึกสงสารเจ้าลู่ฉียิ่งนัก ชอบใครไม่ชอบดันไปชอบจื่อเถาเข้า หากตอนนี้เป็นสาวใช้อื่น เขาอาจรีบสนับสนุน ให้เจ้าทึ่มคนนี้รีบมีเมียเสียไว ๆ
แต่คนนี้เป็นยาดีของน้องห้านี่นา
อีกหน่อยลู่ฉีอาจหาภรรยาสวยงามได้อีกหลายคน แต่ถ้าน้องห้าขาดจื่อเถาไป ชาตินี้คงต้องเปลี่ยวเหงาเป็นแน่แท้
จะว่าเขาลำเอียงก็ช่วยไม่ได้ล่ะ
“ไม่ได้ แม่นางจื่อเถาเป็นคนหน้าบาง ยังไงก็ไม่อาจต้านอิทธิพลขององค์ชายห้า ทำให้ไม่กล้าพูดอะไร ตอนนี้เมื่อข้าพบเห็นก็ไม่อาจทำไม่รู้ไม่ชี้ได้ เป็นตายร้ายดีก็ต้องช่วยนางให้พ้นจากความเดือดร้อน”
ลู่ฉีส่ายหน้าอย่างแรง สองมือกำหมัดแน่น แววตาเปล่งประกายมั่นคงแน่วแน่
ครั้งหนึ่งแม่นางจื่อเถาเคยยอมถูกโบยถึงยี่สิบทีเพื่อถวายฎีกาไปถึงฮ่องเต้ หวังจะเล่นงานคนถ่อยเฟิงจิ่งเฉิงให้จงได้
แล้วเขาเป็นชายชาตรีอกสามศอก ให้ถูกโบยสี่สิบทีก็ไม่มีปัญหา!
เซียวปี้เฉิงหน้าง้ำลงไปอีก “ถ้าเจ้ามีเวลาก็ไปเล่านิทานในโรงน้ำชาเถอะ ดีกว่ามาเป็นองครักษ์อยู่ในจวนอ๋องนี่แล้ว”
“ท่านอ๋องพูดเช่นนี้คือขับไล่ข้าทางอ้อมอย่างงั้นหรือ?”
ลู่ฉีตกใจเป็นอย่างมาก จนถอยหลังไปหลายก้าว พลางจ้องมองเขาด้วยสายตาที่ปวดใจและสิ้นหวัง
“ท่านอ๋องเปลี่ยนไปมาก สมัยก่อนท่านเป็นคนสอนข้าเองว่าต้องมีความยุติธรรม ไม่หวั่นเกรงอิทธิพล แต่บัดนี้เพื่อจะเข้าข้างองค์ชายห้า ท่านถึงขนาดขับไล่บ่าวที่ซื่อสัตย์อย่างข้าได้ลงคอ!”
เซียวปี้เฉิงโกรธจนแทบกลายเป็นหัวเราะ พูดอย่างกัดฟันว่า “ขืนเจ้าพูดมากอีกคำ...”
ยังไม่ทันพูดจบ อวิ๋นหลิงก็รีบสะกิดแขนเสื้อของเขา พลางพูดเสียงเบาว่า “พอเถอะ ท่านก็รู้นิสัยเจ้าทึ่มคนนี้ดี ยิ่งว่าก็เหมือนยิ่งยุน่ะ”
จากนั้น นางก็มองลู่ฉีอย่างยิ้มแย้ม “ไหนลองบอกซิว่า เจ้าจะช่วยจื่อเถาให้พ้นจากความเดือดร้อนได้อย่างไร?”
ลู่ฉีนิ่งไปอึดใจหนึ่ง ใช้ความคิดอย่างจริงจังซักครู่จึงได้เอ่ยปาก “เรียนพระชายา เดิมข้าคิดว่าถ้าองค์ชายห้าใช้อิทธิพลกดดันแม่นางจื่อเถา แม้ข้าจะต้องเจ็บตัวก็จะไปถวายฎีกาต่อฮ่องเต้”
“แต่บัดนี้องค์ชายห้ายังไม่ได้ทำอะไร ข้าจะไปร้องเรียนก็ไม่ถูกนัก อีกอย่างชั่วดีอย่างไรเขาก็เป็นน้องชายแท้ ๆ ของท่านอ๋อง บ่าวไม่อยากให้ท่านอ๋องลำบากใจ”
เจ้าหมอนี่ยังรู้จักห่วงเขาเป็นด้วยหรือ?
เซียวปี้เฉิงทำเสียงฮึในลำคอ ยกน้ำชาขึ้นจิบสองคำ เพื่อจะช่วยบรรเทาความคุกรุ่นในใจบ้าง
ลู่ฉีกล่าวต่ออีก “บ่าวเลยคิดหาวิธีใหม่ หากได้แต่งงานกับแม่นางจื่อเถา บ่าวก็จะปกป้องนางได้อย่างเปิดเผย และโดยธรรมเนียมแล้ว องค์ชายห้าจะไม่มีสิทธิ์มาวอแวกับนางได้อีก”
“พูดอ้อมเสียตั้งนาน นี่คงเป็นจุดประสงค์ที่แท้จริงของเจ้าสิท่า?” คำพูดของเขาทำให้แม้แต่ตงชิงยังอดเหลือบตามองบนเสียไม่ได้ พลางกล่าวอย่างรังเกียจว่า “จื่อเถาไม่ชอบผู้ชาย เจ้าก็อย่ามาเกาะแกะเช่นกัน ที่สำคัญไม่ลองไปส่องกระจกดูตัวเองเสียบ้าง จื่อเถาแต่งกับเจ้าก็เท่ากับเอาดอกไม้ไปปักบนมูลควายชัด ๆ”
ลูฉีหาได้ยอมแพ้ไม่ ถลึงตาใส่ตงชิง “แม้ข้าจะไม่หล่อเหลาเทียบเท่าองค์ชายห้า แต่ก็ไม่ถึงขนาดเป็นมูลควายกระมัง? ตั้งแต่เด็กมาใคร ๆ ก็ชมว่าหน้าตาพอดูได้ ยิ่งสมัยก่อนข้ายังเป็นหนุ่มหล่อประจำหมู่บ้านเสียด้วยซ้ำ!”
ว่าแล้วอวิ๋นหลิงก็อดพิจารณาลู่ฉีใหม่ไม่ได้ ถึงพบว่าหนุ่มคนนี้แม้จะแต่งกายธรรมดาลวก ๆ แต่ก็เป็นคนคิ้วหนาตาโต หน้าตาดูเรียบร้อยเข้าทีเหมือนกัน!
เสียแต่ความห่ามของเขากลับทำลายทุกสิ่งอย่าง อยู่ร่วมชายคามาตั้งนาน กลับไม่เคยคิดว่าเขาน่าดูตรงไหนบ้าง
“ลู่ฉี ปีนี้เจ้าอายุเท่าไหร่แล้ว?”
“เรียนพระชายา ข้าน้อยอายุยิ่สิบเอ็ดปี”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ
นึกว่าจะอัพจนจบเสียอีกค่ะ กำลังสนุกเข้มข้นเชียว...
รบกวนแอดช่วยอับต่อไปให้จบเรื่องได้ไหมคะ รออ่านอยู่น้า...
ตอนต่อไปอ่านที่ไหนคะ...
ตอนต่อไป อัพช่วงไหนคะ 😭😭😭...
อัพต่อเถอะนะคะ...กำลังสนุกเลยค่ะ😅😄😊😘...
สนุกมากค่ะ..เดินเรื่องเร็ว..พระเอกไม่โง่..นางเอกฟาดแรงสะใจ...อ่านแล้วบันเทิงมาก55555......
ขอบคุณค่ะ...
รีบมาต่อนะคะ กำลังสนุกเลย...
ขอบคุณน้าค้า ที่ลงทุกวันเลยสนุกมากค่ะ...
ชอบมากเลยค่ะ นางเอกเก่ง❤...