เซียวปี้เฉิงพูดอย่างไม่เข้าใจว่า “ดอกท้อในปีนี้บานเร็วขนาดนี้เชียวหรือ เหตุใดข้าถึงยังไม่เห็น?เจ้าเห็นดอกบ๊วยเป็นดอกท้อหรือเปล่า?”
อวิ๋นหลิง “...”
“จริงสิ พอเจ้าพูดถึงเริ่มฤดูใบไม้ผลิ ตอนนี้อีกไม่นานก็จะถึงเดือนมีนาคมแล้ว อีกไม่กี่วันอวี้จือก็จะกลับไปที่แคว้นตงฉู่กับองค์หญิงเก้าเพื่อทำงานแต่งงานให้เสร็จสิ้น”
อวิ๋นหลิงถามเขาว่า “อีกนานเท่าไรถึงจะกลับมา?”
เซียวปี้เฉิงนับคำนวณ “แคว้นตงฉู่ห่างจากแคว้นต้าโจวมาก ไปกลับเร็วมากที่สุดก็ต้องใช้เวลาประมาณสี่เดือน”
อวิ๋นหลิงพยักหน้า ในอีกไม่กี่วันข้างหน้า นำของที่อยากจะมอบให้กับน้องเล็กจัดเตรียมของทีละอย่างที่ให้ดี และมอบให้กับตี้หวู่เหยา
นั่งในวังอยู่สักประเดี๋ยวหนึ่ง จากนั้นขณะเดินทางกลับจวนจิ้งอ๋องฟ้าก็มืดแล้ว
“วันนี้ได้คุยอะไรเรื่อยเปื่อยกับองค์หญิงเก้าตลอดครึ่งวันบ่าย นางยังบอกกับข้าว่าอ้ายเต๋อหัวยังไม่อยากกลับไปเร็วขนาดนั้น อยากจะอยู่ที่แคว้นต้าโจวต่ออีกสองเดือน ยังอยากจะเขียนสภาพชีวิตความเป็นอยู่ จารีตประเพณีและบันทึกการเดินทางอัตชีวประวัติของเขา”
เซียวปี้เฉิงพูดอย่างไม่เห็นด้วยว่า “เขาอยากจะอยู่ก็อยู่ต่อ เกี่ยวอะไรกับพวกเราด้วย”
“องค์หญิงเก้าอยากจะฝากเขาไว้กับเราชั่วคราวก่อน ส่วนค่าอาหารและค่าที่พักจ่ายเป็นรายเดือน ข้าจึงรับปากไปแล้ว”
เซียวปี้เฉิงก็หน้าบึ้งขึ้นทันที พร้อมกับพูดขึ้นด้วยความหงุดหงิดว่า “เจ้ายังไม่ได้ปรึกษากับข้าเลยสักนิดก็รับปากไปแล้วงั้นหรือ?วังหลวงใหญ่ขนาดนั้นไม่ยอมอยู่ จะต้องอยู่จวนจิ้งอ๋องให้ได้?”
สำหรับเรื่องที่ปีศาจที่มีผิวขาวและตาสีฟ้าจะมาอยู่ที่จวนจิ้งอ๋องเป็นเวลาสองเดือน ร่างกายของเขาต่อต้านไปเสียหมด
“อ้ายเต๋อหัวไม่ได้คุ้นเคยกับภาษาท้องถิ่นของแคว้นต้าโจวมาก นอกจากข้าแล้วที่นี่ก็ไม่มีใครเข้าใจภาษาปะกิดอีก”
“ไม่เข้าใจภาษาท้องถิ่นแคว้นต้าโจว เขาไม่รู้จักเรียนเองหรืออย่างไร อีกทั้งเจ้าเองก็ไม่ได้สามารถพกเขาติดตัวได้ตลอดเวลา”
อวิ๋นหลิงเบิกตากว้างมองเขา “ท่านเป็นชายชาตรีใจกว้างหน่อยจะได้ไหม ที่ว่างให้คนอื่นพักบ้างจะเป็นอะไรไป นี่เป็นโอกาสแลกเปลี่ยนมิตรภาพกับต่างประเทศที่หายากเชียวหนา!”
นางมักจะรู้สึกว่าเซียวปี้เฉิงในบางจุดคิดเล็กคิดน้อยเป็นอย่างมาก
เซียวปี้เฉิงพึมพำเสียงเบาว่า “โอกาสในการแลกเปลี่ยนมิตรภาพกับต่างประเทศอะไร เจ้าก็แค่โลภอยากจะได้ค่าอาหารกับค่าที่พักเท่านั้นแหละ”
อวิ๋นหลิงกระตุกมุมปาก หลังจากถูกเปิดเผยความคิด “ข้าดูแล้วท่านอิจฉาที่อ้ายเต๋อหัวขาวกว่าท่าน วัน ๆเอาแต่คิดที่จะกำจัดเขา”
“ข้าจะไปอิจฉาเขาทำไม?ไอ้คนหน้าขาวก็ไม่ใช่คำที่ไพเราะอะไร” ถึงแม้ว่าจะพูดเช่นนี้ เซียวปี้เฉิงยังอดที่จะไปส่องกระจกไม่ได้ “อีกอย่างข้าเองก็ไม่ได้คิดว่าตัวเองนั้นดำกระไร นี่ก็ขาวกว่าเมื่อก่อนมากไม่ใช่หรือ”
อวิ๋นหลิงที่คิดอยากจะหัวเราะเยาะเขา แต่กลับสังเกตพบว่าเขาดูเหมือนจะขาวกว่าเมื่อก่อนจริง ๆ
“ดูเหมือนว่าจะขาวกว่าเมื่อก่อนมาก เหตุใดถึงได้เปลี่ยนไปมากขนาดนี้?”
ในใจของเซียวปี้เฉิงดีใจเป็นมาก แต่กลับไม่แสดงบนใบหน้า พูดอย่างเชิด ๆ ว่า “ตอนที่ข้าเกิดมาก็เป็นเช่นนี้ ก็แค่เมี่อก่อนออกรบในสนามรบนานมากไปก็เท่านั้นเอง บัดนี้ได้พักผ่อนมาสองปีแล้ว จึงค่อย ๆ ฟื้นคืนผิวดังเดิม”
แน่นอนว่าเขาไม่มีทางยอมรับว่า ว่าการที่ผู้ชายอย่างตัวเองขาวนั้นต้องแอบลองใช้สูตรในการบำรุงผิวเป็นอย่างมาก
จากคำพูดที่เซียวปี้เฉิงพูด ทำให้อวิ๋นหลิงสงสัยเป็นอย่างมาก “ข้ารู้จักเจ้านานขนาดนั้น เจ้าก็ดำมากมาตลอด ช่วงที่ขาวขึ้นก็แค่ช่วงสองเดือนนี้เท่านั้น”
เซียวปี้เฉิงร่างกายแข็งทื่อ จากนั้นจึงรีบเปลี่ยนเรื่อง “เรื่องอื่นไม่ต้องพูด เจ้ามองดูเสียว่าข้าหล่อขึ้นมากใช่หรือไม่?”
อวิ๋นหลิงพยักหน้า “หล่อขึ้นมากเลยเชียว”
สุภาษิตกล่าวไว้ความขาวสามารถกลบความขี้เหร่ได้ เดิมทีเขาก็เกิดมารูปงามไม่ธรรมดาอยู่แล้ว ครานี้ดึงดูดสายตาผู้คนมากขึ้นไปอีก
เซียวปี้เฉิงอดที่จะยิ้มขึ้นมาไม่ได้ พร้อมกับพูดว่า “ถ้าเช่นนั้นเจ้าจะไม่หอมสักจ๊วบหน่อยหรือ?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ
นึกว่าจะอัพจนจบเสียอีกค่ะ กำลังสนุกเข้มข้นเชียว...
รบกวนแอดช่วยอับต่อไปให้จบเรื่องได้ไหมคะ รออ่านอยู่น้า...
ตอนต่อไปอ่านที่ไหนคะ...
ตอนต่อไป อัพช่วงไหนคะ 😭😭😭...
อัพต่อเถอะนะคะ...กำลังสนุกเลยค่ะ😅😄😊😘...
สนุกมากค่ะ..เดินเรื่องเร็ว..พระเอกไม่โง่..นางเอกฟาดแรงสะใจ...อ่านแล้วบันเทิงมาก55555......
ขอบคุณค่ะ...
รีบมาต่อนะคะ กำลังสนุกเลย...
ขอบคุณน้าค้า ที่ลงทุกวันเลยสนุกมากค่ะ...
ชอบมากเลยค่ะ นางเอกเก่ง❤...