หลังจากอาบน้ำอย่างเร่งรีบก็พักผ่อนอย่างเร็ว แต่สองสามีภรรยากลับไม่ง่วงนอนแม้แต่น้อย
เวลานี้เจ้าหมูน้อยทั้งสองคนควรจะนอนหลับปุ๋ยไปแล้ว แต่คืนนี้กลับนอนอยู่บนเตียงไม้เล็ก ๆ เบิกตากลมเป่าน้ำลายมองพวกเขา
ต้าเป่าเหยียดเท้าถีบ อ้อแอ้เรียก “อ๊ะ~อ๊ะ!”
เซียวปี้เฉิงเคยชินกับการใช้ผ้าเช็ดหน้าเช็ดน้ำลายที่มุมปากของลูกชาย อดไม่ได้ที่เช็ดน้ำลายด้วยใบหน้ายิ้มแฉ่งอย่างอ่อนโยน
“คืนนี้ถือว่าเชื่อฟัง ไม่ร้องไห้และก็ไม่งอแงด้วย”
ต้าเป่ากับเอ้อร์เป่าอายุได้ห้าเดือนเต็มแล้ว ไม่ตัวเล็กเหมือนตอนเพิ่งคลอด อ้วนจ้ำม่ำขึ้นมาก
ความอ่อนโยนในใจของเขา เมื่อนึกว่าพรุ่งนี้จะต้องออกไปตั้งแต่เช้า ผลัดกันกอดลูกชายสองคนไว้ในอ้อมแขนอย่างอดไม่ได้
ยากมากที่เอ้อร์เป่าจะนอนอยู่ในอ้อมแขนของเซียวปี้เฉิงอย่างเชื่อฟัง ดวงตาสีดำเข้มของเขามีสีฟ้าอ่อน ๆ เล็กน้อย จากนั้นก็มองเซียวปี้เฉิงเงียบ ๆ อยู่นาน พร้อมกับผล้อยหลับไป
ผู้เป็นพ่อกล่าวด้วยความปลื้มปรีติว่า “เจ้าลูกคนนี้ในที่สุดช่วงนี้ก็ให้ข้าอุ้มเขามากขึ้น”
อวิ๋นหลิงอดที่จะกล่าวด้วยรอยยิ้มไม่ได้ “เมื่อก่อนตอนที่ท่านอยากจะอุ้มเขา ถ้าเขาไม่ร้องไห้ก็งอแง ภายหลังท่านยุ่งมากจนไม่มีเวลาสนใจเขา เขากลับอยากจะเข้าใกล้ชิดท่านขึ้นมา”
เซียวปี้เฉิงอดใจไม่ได้ที่จะบีบจมูกเล็ก ๆ ของเอ้อร์เป่าที่นอนหลับอยู่เบา ๆ
เขาเอาลูกที่นอนหลับปุ๋ยวางไว้บนเตียงเล็ก จากนั้นดับไฟและนอนกอดอวิ๋นหลิงแน่น พร้อมกับพูดด้วยเสียงทุ้มต่ำ
“อีกไม่นานข้าจะกลับมา ช่วงเวลาที่ไม่อยู่ เจ้าจะต้องดูและตัวเองและลูกให้ดี”
อวิ๋นหลิงมุดเขาไปในอ้อมแขนของเขา ในน้ำเสียงแฝงด้วยพลังในการทำให้จิตใจสงบ “ในเมืองหลวงมีข้าอยู่ ท่านวางใจได้ ข้าจะปกป้องพวกเขาทุกคนอย่างสุดความสามารถ”
เซียวปี้เฉิงกดความกังวลและความไม่ลังเลที่ก้นบึ้งของหัวใจ พร้อมกับตอบเบา ๆ และไม่พูดอะไรมาก ทั้งสองคนนอนกอดและหลับไป
......
เช้าตรู่วันถัดมา ณ ประตูเมืองหลวงทหารสามพันนายพร้อมที่จะออกเดินทาง
บนถนนคึกคักไปด้วยผู้คน เสียงอึกทึกครึกโครม ทั้งสองด้านเต็มไปด้วยประชาชนในเมืองหลวงที่ส่งต่อกัน
นี่เป็นครั้งแรกที่อวิ๋นหลิงเห็นเซียวปี้เฉิงสวมเกราะเหล็ก เขายืนอยู่หน้าม้าในชุดเกราะสีเงินสดใส ร่างกายผงาดอย่างสบาย ๆ ความแข็งแกร่งของเขาแข็งแรงเหมือนดวงอาทิตย์ที่หยิ่งผยอง
ภายใต้คิ้วที่ดำหนา ดวงตาทั้งสองข้างที่เย็นชาสะท้อนร่างของนาง
“รอข้า”
อวิ๋นหลิงพยักหน้า เซียวปี้เฉิงเมื่อครู่เหลือบมองนางเป็นครั้งสุดท้าย จากนั้นขึ้นม้าและหันไปถือปืน พร้อมกับนำทหารทั้งสามพันนายขี่ม้าไปในสนามรบ
จนกระทั่งมองไม่เห็นร่างของเซียวปี้เฉิง อวิ๋นหลิงยังไม่ละสายตา
รู้จักกันและอยู่ด้วยกันนานขนาดนี้ ทั้งสองคนจะต้องแยกจากกันชั่วคราวเป็นครั้งแรก แม้อีกฝ่ายจะไม่ได้ออกรบจริง แต่ก้นบึ้งของหัวใจนางยังคงลังเลและอดไม่ได้อย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน
นี่เพิ่งจะผ่านไปได้แค่ครึ่งกาน้ำชาเอง นางก็อดไม่ได้ที่จะคิดถึงเขาจนจะตายอยู่แล้ว
ประชาชนที่อยู่ริมถนนต่างแยกย้ายกันกลับ ส่วนอวิ๋นหลิงยังคงยืนแข็งถือเหมือนถูกสาปที่หน้าประตูเมือง
ตงชิงอดที่จะเดินไปด้านหน้าเพื่อสวมจัดผ้าคลุมให้นางอยู่ครู่หนึ่ง “พระชายา ในต้นฤดูใบไม้ผลิอากาศหนาว พวกเรารีบกลับไปที่จวนอ๋องกันเถิด ประเดี๋ยวจะป่วยเอาเจ้าค่ะ”
นางเพิ่งจะพูดจบ จู่ ๆ ด้านหลังก็มีเสียงผู้หญิงที่คุ้นเคยเสียงหนึ่งดังขึ้นเบา ๆ
“เฮ้อ...คิดไม่ถึงเลยว่าพี่เขยจะต้องรีบเดินไปทางเร็วขนาดนี้ ทำให้ท่านพี่ต้องลำบากเลี้ยงลูกอยู่ในวังเพียงลำพัง”
อวิ๋นหลิงจึงหันหลังไป ฉู่อวิ๋นหานเป็นนอยู่เงียบ ๆ เป็นเวลานานแล้ว
วันนี้อีกฝ่ายแต่งตัวงดงามนัก คงจะอารมณ์ดีเป็นพิเศษ หางตาและปลายคิ้วเปล่งประกายเล็กน้อย
ในใจของอวิ๋นหลิงก็ไม่ค่อยมีความสุขอยู่แล้ว จึงทำสีหน้าไม่ดีใส่นาง พูดด้วยน้ำเสียงที่ไม่ดีว่า
“วันนี้ข้าอารมณ์ไม่ดี รบกวนเจ้าช่วยสงบเสงี่ยมหน่อย มิเช่นนั้นข้าไม่รับประกันว่าตัวเองจะทำอะไรออกไป”
ฉู่อวิ๋นหานสายตาอึมครึม ทั้งหงุดหงิดและเกลียดชั่งท่าทางหยิ่งหยองของอวิ๋นหลิงแบบนี้มาก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ
นึกว่าจะอัพจนจบเสียอีกค่ะ กำลังสนุกเข้มข้นเชียว...
รบกวนแอดช่วยอับต่อไปให้จบเรื่องได้ไหมคะ รออ่านอยู่น้า...
ตอนต่อไปอ่านที่ไหนคะ...
ตอนต่อไป อัพช่วงไหนคะ 😭😭😭...
อัพต่อเถอะนะคะ...กำลังสนุกเลยค่ะ😅😄😊😘...
สนุกมากค่ะ..เดินเรื่องเร็ว..พระเอกไม่โง่..นางเอกฟาดแรงสะใจ...อ่านแล้วบันเทิงมาก55555......
ขอบคุณค่ะ...
รีบมาต่อนะคะ กำลังสนุกเลย...
ขอบคุณน้าค้า ที่ลงทุกวันเลยสนุกมากค่ะ...
ชอบมากเลยค่ะ นางเอกเก่ง❤...