พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 323

“หนอนพิษตายแล้วหรือ?”

อู่อันกงกว่าจะตั้งสติกลับมาก็ยากเย็น แล้วรีบไปสำรวจจุดต่าง ๆ ที่หน้าอกของเยี่ยเจ๋อเฟิงอีกครั้ง ก็พบว่าอีกฝ่ายสีหน้าเป็นปกติ ไม่มีร่องรอยการเจ็บปวดใด ๆ

อู่อันกงถอนหายใจพลาง อีกใจหนึ่งก็อดนึกเสียดายไม่ได้ “นั่นเป็นซากหนอนกู่ที่มีเงินเป็นหมื่นตำลึงยังหาซื้อไม่ได้ ทำไมปล่อยให้ตายง่าย ๆ ล่ะ?”

เขารู้ว่าอวิ๋นหลิงมีความสามารถไม่เบา แต่ไม่คิดว่าจะร้ายกาจถึงเพียงนี้ กระทั่งยังไม่ทันเห็นว่านางทำอะไรบ้าง หนอนพิษกู่ก็วายชีวาไปเรียบร้อยแล้ว

อวิ๋นหลิงเองก็ตกใจ “อะไรนะ? หนอนชนิดนี้มีค่าเป็นหมื่นตำลึงเชียวหรือ?”

“ก็ใช่น่ะซี้ โดยเฉพาะซากหนอนกู่ไม่เพียงแต่หายาก ยังเลี้ยงยากอีกต่างหาก โอกาสเลี้ยงให้รอดมีเพียงแต่หนึ่งในร้อยเท่านั้น”

“แล้วไม่บอกแต่แรก”

อวิ๋นหลิงฟังอู่อันกงสารธายเสร็จก็ให้นึกเสียดายครามครัน รู้งี้เมื่อครู่นางจะออมกำลังไว้หน่อย ให้ตัวหนอนหมดสภาพกลายเป็นแค่อัมพาตก็พอ

นางเสียใจที่ลงมือเร็วไป จนทำให้ต้องเสียเงินนับหมื่นตำลึง แต่ยังไงตัวหนอนก็ตายไปแล้ว ตอนนี้เหลือเพียงแต่เศษซากเท่านั้น

ซึ่งเศษซากของตัวหนอนยังคงเกาะอยู่ตามผนังของอวัยวะมนุษย์ จากนั้นก็รอเวลาที่จะถูกขับออกจากร่างกาย พร้อมกับการขับถ่ายอุจจาระทั่วไป

อวิ๋นหลิงส่งยาขับถ่ายไปช่วยกระตุ้น ทำเอาเยี่ยเจ๋อเฟิงต้องอยู่ในห้องสุขาเกือบหนึ่งชั่วยาม เข่าอ่อนจนเกือบยืนขึ้นไม่ไหว

อู่อันกงบ่นเสียดายเสร็จ ก็ไม่คิดสนใจจะวิเคราะห์เรื่องตัวหนอนพิษกู่อีก เพราะเขาก็ไม่อยากถือตะเกียงไปนั่งส่องหาสิ่งที่ปนมากับอุจจาระ

สุดท้ายเจ้าหนอนน้อยแม้จะมีค่าตัวมหาศาล แต่ยังไม่ทันได้แสดงอิทธิฤทธิ์ ก็ต้องจมดิ่งอยู่ในหลุมสุขาของจวนจิ้งอ๋องไปชั่วกาลนาน

มันต้องนอนแน่นิ่งอยู่ในนั้นโดยไม่มีใครเหลียวแล มีเพียงแมลงวันหลายตัวที่บินวนเวียน ราวกับจะไว้อาลัยให้มันอย่างเศร้าสร้อย

......

เมื่อหนอนพิษถูกขับออกจากร่างแล้ว เยี่ยเจ๋อเฟิงค่อยรู้สึกกระฉับกระเฉงขึ้น มีเพียงสีหน้าที่ยังซีดเซียวอยู่บ้าง

เขามองดูอวิ๋นหลิงด้วยความละอายใจ น้ำเสียงแฝงความผิดหวังที่มีต่อหลินซิน

“พระชายา แม่ข้าไม่ฟังคำเตือนยังคงติดต่อกับฉู่อวิ๋นหาน จนเปิดโอกาสให้นางมาปองร้ายจนเกือบเสียที แล้วคิดจะทำยังไงต่อไป?”

อวิ๋นหลิงหลุบตาใช้ความคิดอยู่ครู่หนึ่ง “อย่าเพิ่งพูดอะไรทั้งสิ้น ปล่อยให้นางไปติดต่อคนของยายแก่ปลิ้นปล้อนเหมือนเดิม บางทีอาจเป็นผลดีต่อฝ่ายเรามากกว่า”

อู่อันกงพยักหน้าเห็นชอบด้วย “ถูกต้อง ถ้าเราหลอกใช้นางไปส่งข่าวเท็จให้แก่ไส้ศึกเผ่าทูเจวีย อีกหน่อยจะทำงานก็ง่ายขึ้นเยอะ”

เพราะเขาสิ้นหวังต่อศิษย์ผู้นี้เต็มที มีทั้งความโกรธและเคืองแค้น หากไม่เพราะต้องเห็นแก่ส่วนรวมมาก่อน เขาคงตัดขาดความเป็นศิษย์อาจารย์ไปนานแล้ว

หลินซินไม่ใช่ลูกศิษย์ที่เขาพอใจมาแต่แรกอยู่แล้ว แต่เพราะอีกฝ่ายมาขอร้องอ้อนวอน บวกกับเห็นแก่หน้าบุตรบุญธรรม จึงต้องจำใจรับนางเป็นลูกศิษย์ไว้

สุดท้ายหลายปีมานี้ อาศัยชื่อ “ลูกศิษย์ของอู่อันกง” บวกกับ “อาจารย์หญิงของจิ้งอ๋อง” หากินอยู่ในเมืองหลวง แต่ผลงานจริง ๆ กลับไม่ค่อยมีให้เห็น

เยี่ยเจ๋อเฟิงพยักหน้า กล่าวเสียงต่ำว่า “ทุกอย่างสุดแท้แต่พระชายาและท่านปู่บุญธรรม ข้าจะจับตาดูท่านแม่ต่อไป”

ลำดับต่อไปสำหรับอวิ๋นหลิงก็คือการวางแผนส่งตัวลูกสองคนและแม่นมเฉินให้ไปอยู่นอกเมือง เมืองหลวงคงจะสงบได้อีกไม่นาน ถึงตอนนั้นที่ ๆ ปลอดภัยที่สุดก็คือหมู่บ้านน้ำพุร้อน

เพียงแต่ช่วงหลังมานี้มีหลายฝ่ายคอยจับจ้องความเคลื่อนไหวในตำหนักจิ้งอ๋องอยู่ ลำพังแค่คนของฮูหยินเหลียนก็แทบนับไม่ถ้วน นางจึงไม่คิดทำอะไรบุ่มบ่าม

หมู่บ้านน้ำพุร้อนมีความลับใหญ่หลวงของพวกเขาซ่อนอยู่ ห้ามเปิดเผยเป็นอันขาด เพื่อไม่ให้อีกฝ่ายล่วงรู้

หลังจากเซียวปี้เฉิงไปแล้ว นางก็เฝ้าครุ่นคิดหาวิธีที่จะดูแลความปลอดภัย แต่ฮูหยินเหลียนกับพวกเหมือนจะทนรอไม่ไหว ไม่ยอมให้เวลานางไตร่ตรองมากนัก

วันที่ห้าหลังจากเซียวปี้เฉิงไปแล้ว เยี่ยเจ๋อเฟิงก็มารายงานด้วยสีหน้าเคร่งเครียด ท่าทางดูรีบร้อน

“พระชายา เมื่อเช้ามีคนเปิดโปงว่ารุ่ยอ๋องคบคิดกับเผ่าทูเจวีย อีกทั้งถวายหลักฐานต่อหน้าพระพักตร์ คาดว่าพวกเขาน่าจะลงมือแล้ว!”

อวิ๋นหลิงหนังตากระตุก ในชั่วพริบตานั้นคล้ายจะเดาทางของเสียนอ๋องกับพวกได้

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ