ฉู่อวิ๋นเจ๋อหน้าตื่นโดยพลัน ร้อนรนจนเหงื่อออกเต็มศีรษะ พยายามที่จะขัดขืน "ไม่ได้นะน้องพี่!"
ฉู่อวิ๋นหานเอามือกุมใบหน้าที่เปื้อนโลหิต อดทนต่อความเจ็บพลางหยิบกระบี่ของไป๋ลู่ขึ้นมาและจ่อที่คอของเหวินกั๋วกงผู้เฒ่า จ้องมองอวิ๋นหลิงด้วยความโกรธแค้นระคนกับความกลัว
"บอกให้คนสารเลวนั่นถอยไปซะ ถ้ากล้าเล่นตุกติก ข้าจะเอาชีวิตเขาเดี๋ยวนี้"
รัฐทายาทผู้เฒ่าเห็นกระบี่ที่คมกริบก็กลัวจนอกสั่นขวัญแขวน ทั้งโกรธและตกใจยิ่งนัก "เวรกรรม เวรกรรมแท้ ๆ!"
เขาถามใจตัวเอง หลายปีนี้ดีต่อฮูหยินเหลียนและฉู่อวิ๋นหานแค่ไหน มีอนุและลูกเมียน้อยบ้านไหนบ้าง ที่ได้รับการปฏิบัติเฉกเช่นเดียวกับภรรยาเอกและลูกเมียหลวงเหมือนอย่างพวกนาง?
แต่สุดท้ายความรักของเขา ก็แลกมาซึ่งความหายนะของตระกูลฉู่แทน
เหวินกั๋วกงผู้เฒ่าถูกมัดมือแล้วไพล่ไว้ด้านหลัง เส้นผมซึ่งปกติหวีจนเรียบ บัดนี้ดูกระเซิงเล็กน้อย เสื้อผ้าก็ยับย่น แต่ร่างกายยังคงยืนตรงดั่งต้นสน สีหน้าสงบนิ่ง
เขาปรายตามองกระบี่ที่อยู่ในมือฉู่อวิ๋นหาน พลางพูดออกมาเบา ๆ ว่า
"หน้าเนื้อใจเสือ"
ฉู่อวิ๋นเจ๋อมองหน้าฉู่อวิ๋นหานอย่างโกรธแค้น ซ้ำยังรู้สึกอนาถใจ "ไม่พอใจอะไรก็มาลงที่ข้า อย่ายุ่งกับท่านปู่"
ฉู่อวิ๋นหานกำกระบี่แน่น แววตาเหี้ยมเกรียม "อย่าใจร้อน ถ้านังตัวดีกล้ามีลูกเล่น คนต่อไปก็คือพี่ใหญ่แน่นอน"
อวิ๋นหลิงเลิกคิ้วเล็กน้อย พลางผิวปากออกมาคำหนึ่ง เจ้าเสือขี้แยคำรามเบา ๆ จากนั้นก็ถอยไปอยู่ที่ซอกมุมของเรือนอย่างไม่เต็มใจนัก
มันกางเล็บเท้าคู่หน้าออกมาอย่างคมกริบ พร้อมกับตะกุยพื้นไม่หยุดหย่อน ปาก ก็ร้องงึมงำไปเรื่อย แสดงท่าทีพร้อมจะระวังภัยอยู่เสมอ
ประสาทที่ตึงเครียดของฮูหยินเหลียนค่อยผ่อนคลายลงบ้าง กวาดตามองดูลูกสาวและสภาพอนาถของไป๋ลู่ พร้อมเงยหน้าสั่งทหารกบฏซึ่งเป็นลูกน้อง
"พวกเจ้าสี่คน ไปจับตัวนางไว้ให้มั่น"
อวิ๋นหลิงไม่คิดขัดขืนอยู่แล้ว ปล่อยให้ทหารกบฏสี่คนซึ่งสวมชุดเกราะจับแขนของตนไว้อย่างแน่นหนา
เห็นนางยอมให้จับแต่โดยดี ฮูหยินเหลียนสองแม่ลูกก็ค่อยถอนใจโล่งอกหน่อย ความโกรธแค้นทางสีหน้าแทบจะปิดไม่มิดอยู่แล้ว
ฉู่อวิ๋นหานกล่าวอย่างแทบจะอดใจรอไม่ไหว "ท่านแม่ รีบเอาหนอนกู่ให้นางกินเร็ว ๆ เพื่อแก้แค้นให้ไป๋ลู่!"
นางต้องการให้อวิ๋นหลิงได้รับความทรมานจากพิษร้ายของหนอนกู่ จนอยู่ก็ไม่ได้ตายก็ไม่ได้ จากนั้นค่อยเอากระบี่กรีดใบหน้าให้นางเสียโฉม
ดูซิว่ายังกล้าจองหองเหมือนอย่างตอนนี้หรือเปล่า
"น้องพี่!"
ฉู่อวิ๋นเจ๋อสองตาแดงก่ำ แต่ถูกทหารกบฏจับกดอยู่ที่พื้นจนไม่อาจขยับตัว ได้แต่มองดูฮูหยินเหลียนถือตลับสีแดงเดินไปหาอวิ๋นหลิง
ตลับถูกเปิดออก เผยให้เห็นตัวหนอนขนาดเท่าครึ่งเล็บมือ ลักษณะมีเปลือกสีแดงที่แข็งห่อหุ้มอยู่ ด้านหน้าเป็นปากที่ยื่นยาวออกมา
ในตลับยังมีซากของตัวหนอนอีกไม่น้อย ซึ่งล้วนแต่ดูตัวใหญ่กว่าหนอนกู่ทั้งสิ้น แต่ก็ถูกกัดกินจนเหลือแต่เปลือกเท่านั้น
ฮูหยินเหลียนหัวเราะอย่างเจ้าเล่ห์
"หนอนกู่ตัวนี้มีค่ามหาศาลนัก ต้องผ่านการคัดเลือกให้กัดกันนับพันตัวกว่าจะเหลือแค่หนึ่งเดียว วันนี้เอามาใช้กับเจ้า ก็ถือเป็นวาสนาเหมือนกัน"
มีค่ามหาศาลเนี่ยนะ!
อวิ๋นหลิงแอบถอนหายใจ แต่เทียบกับเอาตัวหนอนไปแลกเงินแล้ว นางอยากให้บทเรียนแก่ฮูหยินเหลียนมากกว่า
ได้ฟังประโยคนี้เข้า เหวินกั๋วกงผู้เฒ่าก็แทบจะกลั้นลมหายใจ สายตาจ้องเขม็งไปที่อวิ๋นหลิง
เขาเชื่อว่าหลานสาวยังมีแผนรับมืออีก ในจวนก็มีพลปืนไฟซุกซ่อนอยู่ เพียงแต่ไม่รู้ว่าจะลงมือเมื่อไหร่เท่านั้น
เย่ชีที่อยู่ในมุมมืดกล่าวอย่างตื่นเต้น “พระชายาถูกคนจับไว้แล้ว ยังจะส่งสัญญาณให้เราได้ยังไง ข้าว่าเราลงมือดีกว่า”
เห็นฮูหยินเหลียนเดินไปเบื้องหน้าอวิ๋นหลิงแล้วจับคางของนางไว้ เย่อีกัดฟันเล็กน้อย กำลังคิดจะยิงปืน ที่ลานกว้างก็เกิดการเปลี่ยนแปลงอีก
เย่ชีตอบอย่างไม่มั่นใจ “อาจใช้พวกอาวุธลับเคลือบยาพิษหรือเปล่า?”
ภาษิตว่า วิชาแพทย์มาจากฐานเดียวกับการต่อสู้
ฝีมืออวิ๋นหลิงตอนอยู่ในองค์การยังถือว่าพื้น ๆ นางไม่ถนัดการต่อสู้ซึ่งหน้า แต่ชอบวางแผนลับหลังมากกว่า
นางมีความรู้เรื่องสรีรศาสตร์ของมนุษย์เป็นอย่างดี รู้เรื่องกระดูกกล้ามเนื้อและจุดชีพจรต่าง ๆ รู้ว่าจุดไหนเล่นงานแล้วจะสามารถควบคุมการเคลื่อนไหว จุดไหนจะทำให้หมดสติ จุดไหนทำให้ถึงแก่ชีวิตได้
ต่อให้เป็นชายชาตรีอกสามศอก เวลาฝึกซ้อมหากพลั้งเผลอก็อาจถูกนางเล่นงานได้ นับประสาอะไรกับหญิงอ่อนแอเช่นฮูหยินเหลียน ซึ่งแทบไม่ต้องเปลืองแรงเสียด้วยซ้ำ
ฮูหยินเหลียนเจ็บจนแทบหมดสติ ด้วยไม่เคยประสบกับเหตุการณ์เช่นนี้ เจ็บจนนางเหงื่อโทรมกาย หลังจากวูบไปครู่หนึ่งจึงได้ค่อย ๆ ฟื้นคืนกลับมา
นัยน์ตานางหรี่ลง จ้องมองอวิ๋นหลิงอย่างหวาดหวั่น คล้ายกับไม่เชื่อในสิ่งที่เห็น
“เจ้ารู้วรยุทธ์ด้วยหรือ?”
เด็กคนนี้เติบโตมาใกล้ตัวนางแท้ ๆ มีความรู้ความสามารถแค่ไหนมีหรือนางจะไม่รู้
เดิมทีแอบไปศึกษาวิชาแพทย์มาก็ทำให้นางเหลือเชื่อแล้ว นี่ยังรู้วรยุทธ์เข้าอีก!
อวิ๋นหลิงยิ้มให้นางเล็กน้อย “ตื่นเต้นหรือเปล่า เหลือเชื่อใช่หรือไม่?”
เห็นนางยิ้มแย้มแต่สายตากลับเย็นชาราวกับธารน้ำแข็ง ฮูหยินเหลียนหน้าถอดสี รู้สึกเหมือนเนื้อตัวจะสั่นเทาขึ้น
นางเอ่ยปากอึกอัก น้ำเสียงคล้ายคนสติแตก “เจ้าไม่ใช่ฉู่อวิ๋นหลิง ไม่ใช่แน่นอน เจ้าเป็นปีศาจ ต้องเป็นปีศาจแน่!”
ไม่รอให้ฮูหยินเหลียนพูดจบ มือเรียวงามก็เอื้อมหยิบตลับสีแดงที่ตกอยู่ที่พื้น บีบคางนางให้อ้าปากแล้วจับตัวหนอนยัดใส่เข้าไป
อวิ๋นหลิงเอ่ยปากเนิบ ๆ “นี่คือตัวหนอนที่มีค่ามหาศาลเชียวนะ ฮูหยินเหลียนได้ลองใช้ถือเป็นวาสนาจริง ๆ”
ฮูหยินเหลียนสีหน้าแปรเปลี่ยน ทรุดลงกับพื้นพร้อมอาเจียนอย่างหนัก แต่ก็สายเกินไปเสียแล้ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ
วิธีเติมเหรียญตรงไหนอย่างไร...
จะมีอัพต่อจนจบไหมค่ะแอด...
นึกว่าจะอัพจนจบเสียอีกค่ะ กำลังสนุกเข้มข้นเชียว...
รบกวนแอดช่วยอับต่อไปให้จบเรื่องได้ไหมคะ รออ่านอยู่น้า...
ตอนต่อไปอ่านที่ไหนคะ...
ตอนต่อไป อัพช่วงไหนคะ 😭😭😭...
อัพต่อเถอะนะคะ...กำลังสนุกเลยค่ะ😅😄😊😘...
สนุกมากค่ะ..เดินเรื่องเร็ว..พระเอกไม่โง่..นางเอกฟาดแรงสะใจ...อ่านแล้วบันเทิงมาก55555......
ขอบคุณค่ะ...
รีบมาต่อนะคะ กำลังสนุกเลย...