บางทีเสียนอ๋องอาจต้องการบีบให้เขาออกไป แต่จะไม่ปลิดชีพเขาในทันที
“สถานการณ์บริเวณชายแดนตึงเครียด เขายังต้องการให้ข้าไปปลอบขวัญประชาชนไว้ชั่วคราว หากข้าตายไป ขวัญกำลังใจในกองทัพจะระส่ำระสาย จะไม่เป็นผลดีกับเขาแต่อย่างใด”
ต่อให้อยากฆ่าเขา แต่ก็จะไม่มีวันเลือกเวลาเช่นนี้เป็นอันขาด
สีหน้าของเฉียวเย่แปรเปลี่ยนเล็กน้อย “เช่นนั้นก็เป็นแผนลับของเผ่าทูเจวีย พวกเขาหมายจะปลิดชีวิตของท่านอ๋องนะขอรับ!”
ถ้ากำจัดเสี้ยนหนามอย่างจิ้งอ๋องไปได้ เผ่าทูเจวียจะได้ผลประโยชน์สูงสุด
“หากท่านอ๋องสิ้นพระชนม์ ก็จะไม่มีใครปกปักรักษาชายแดน แม้กองกำลังพันธมิตรของตระกูลฟงจะมาถึงทันเวลา แต่จิตใจของผู้คนในแคว้นต้าโจวก็จะว้าวุ่น หากฮูหยินเหลียนเคลื่อนไหวในเมืองหลวงอีกละก็ ผลที่ตามมาคงยากจะคาดเดา!”
เซียวปี้เฉิงแค่นหัวเราะเย็นชา “เสียนอ๋องประเมินความทะเยอทะยานของเผ่าทูเจวียต่ำไป หากตั้งใจจะร่วมมือกับอีกฝ่าย ก็ไม่ต่างอะไรกับการชักศึกเข้าบ้าน”
ไม่รู้ว่าเสียนอ๋องตกลงตามคำขอของอีกฝ่ายอะไรไปบ้าง ซ้ำยังช่วยแอบซ่อนกองกำลังในเมืองลี่กับเมืองหลวงไปตั้งเท่าไรแล้ว
คาดว่ากองกำลังเผ่าทูเจวียที่ฮูหยินเหลียนเป็นตัวแทนนั้น ยามนี้อาจอยู่กับเสียนอ๋องอย่างสงบสุขร่มเย็นและแต่ละฝ่ายก็ได้รับสิ่งที่ตนต้องการ
แต่ถ้าเผ่าทูเจวียรู้ถึงข่าวการตายของเขา ก็จะพลิกหน้ากลายเป็นศัตรูกันทันที
อวิ๋นหลิง พระเจ้าหลวงและคนอื่นๆ ยังคงอยู่ในเมืองหลวง เขาต้องรีบกลับไปที่หมู่บ้านน้ำพุร้อนโดยเร็วที่สุดเพื่อป้องกันการเกิดเหตุไม่คาดฝัน!
“เฉียวเย่ ดูแผนที่สิ จะไปต่ออย่างไรดี ต้องใช้เวลานานเท่าใดจึงจะไปถึงเมืองหลวง”
เฉียวเย่อาศัยแสงไฟเปิดม้วนตำรา แล้วพิจารณาอย่างละเอียดอยู่พักหนึ่ง “เดินอ้อมเขาไปทางทิศตะวันออกสักสามสิบลี้แล้วเลี้ยววกกลับไปยังเส้นทางหลวงก็ได้ เร็วสุดจะใช้เวลาประมาณหกวัน”
หกวัน...ยังช้ากว่าเวลาที่วางแผนจะกลับไปยังหมู่บ้านน้ำพุร้อนตั้งสองวัน
ทิ้งม้าไว้ชั่วคราว แต่ในระหว่างทางมีโรงเตี๊ยมกับศาลาพักม้าหลายแห่ง ถึงจะจัดการง่าย แต่กังวลว่าจะมีเผ่าทูเจวียดักซุ่มโจมตีและไล่ตามไปตลอดทาง
“ดับไฟแล้วพักผ่อนก่อนเถอะ”
เฉียวเย่พยักหน้า ใช้เท้าเหยียบดับไฟทันที เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ไล่ตามหลังมาเห็นแสงไฟแล้วจะสังเกตเห็นพวกเขาเอาได้
เร่งรีบเดินทางมาหลายวัน ซ้ำยังพบกับการเปลี่ยนแปลงที่อาจเฉียดตายได้ทุกขณะ ทุกคนล้วนหมดเรี่ยวแรงไปตามๆ กัน
เวลานี้เซียวปี้เฉิงรู้ดีว่าควรผ่อนคลายและทำสมาธิโดยเร็วที่สุด แต่ยังทนกับอาการเจ็บปวดที่ศีรษะ ก่อนใช้พลังจิตปกคลุมรอบกายให้ห่างออกไปหลายร้อยเมตร เพื่อให้แน่ใจว่าตอนมีคนมาค้นหานั้นจะได้รู้ตัวทันที
ไม่รู้ว่าค่ำคืนอันยาวนานผ่านไปนานแค่ไหน
ภายใต้พระจันทร์เต็มดวงที่สุกสกาว จู่ๆ ก็ได้ยินเสียงหมาป่าหอน ดังสะท้อนกึกก้องกังวานไปทั่วหุบเขาอันไกลโพ้น
ระหว่างสะลืมสะลือ เซียวปี้เฉิงพลันเบิกตากว้าง หน้าเผือดสีเล็กน้อย
“เฉียวเย่ ตื่นๆ!”
เมื่อครู่นี้ ภายในรัศมีการตรวจจับพลังจิตของเขาพลันปรากฏสิ่งมีชีวิตที่กระโดดโลดเต้นอยู่หลายสิบตัว และกำลังย่างกรายเข้ามาใกล้อย่างรวดเร็ว
จากการสัมผัสพอตัดสินได้ว่าไม่ใช่มนุษย์ แต่เป็น...
เฉียวเย่ตกใจตื่นขึ้นมารีบคว้ากระบี่ไว้ ก่อนเอ่ยขึ้นว่า “โจรเผ่าทูเจวียไล่ตามมาหรือขอรับ”
ทันทีที่เขาพูดจบ หมาป่าหลายตัวก็หอนดังระงมอยู่ในป่าเขาที่โล่งเตียน เสียงสะท้อนดังสนั่นหวั่นไหวไม่ขาดสาย ชวนให้ผู้คนหวาดหวั่นพรั่นพรึง
“บรู๊ว...”
ดวงตาสีเขียวเป็นมันขลับคู่หนึ่งเริ่มปรากฏขึ้นรอบบริเวณ เจือประกายกระหายเลือด
ทหารที่ติดตามมามีอาการชาไปถึงหนังศีรษะ ขนลุกซู่ไปทั้งตัว “ท่านอ๋อง เป็นฝูงหมาป่าขอรับ!”
“เอ่อ...จู่ๆ หมาป่าตั้งมากมายมารวมตัวกันได้อย่างไร”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ
นึกว่าจะอัพจนจบเสียอีกค่ะ กำลังสนุกเข้มข้นเชียว...
รบกวนแอดช่วยอับต่อไปให้จบเรื่องได้ไหมคะ รออ่านอยู่น้า...
ตอนต่อไปอ่านที่ไหนคะ...
ตอนต่อไป อัพช่วงไหนคะ 😭😭😭...
อัพต่อเถอะนะคะ...กำลังสนุกเลยค่ะ😅😄😊😘...
สนุกมากค่ะ..เดินเรื่องเร็ว..พระเอกไม่โง่..นางเอกฟาดแรงสะใจ...อ่านแล้วบันเทิงมาก55555......
ขอบคุณค่ะ...
รีบมาต่อนะคะ กำลังสนุกเลย...
ขอบคุณน้าค้า ที่ลงทุกวันเลยสนุกมากค่ะ...
ชอบมากเลยค่ะ นางเอกเก่ง❤...