ณ ตำหนักหย่งเล่อ เสียงเผาถ่านในถ่านดังไม่หยุด
ย่างเข้าต้นฤดูใบไม้ผลิแล้ว แต่สนมลี่ผินยังคงสวมเสื้อขนฟู ๆ เสื้อกันหนาวสีม่วงเข้ม
หลังจากกองทัพกบฏเข้าพระราชวัง เหล่าพระสนมก็ถูกควบคุม ออกไปด้านนอกตามใจชอบไม่ได้ พวกนางกำนัลหาวัสดุเย็บถุงร้อนอันใหม่ไม่ได้ จึงได้แต่เผาถ่านเพิ่มความอุ่นแก่ร่างกาย
ยิ่งซิ่วกูกูดึงผ้าห่มให้สนมลี่ผิน “พระสนม ต้องการเพิ่มถ่านอีกไหมเพคะ?”
“ไม่ต้องแล้ว” สนมลี่ผิงหนาวจนหน้าซีดขาว ส่ายหน้าเอ่ยว่า “ยิ่งซิ่วกูกู ใครมาโวยวายด้านนอก?”
ได้ยินดังนั้น องค์ชายหกที่นั่งข้างโต๊ะก็เดินไปด้านนอก “เสด็จแม่ ลูกจะไปดูเองพ่ะย่ะค่ะ”
หน้าประตูตำหนักหย่งเล่อ ขันทีจำนวนสามคนนอนหมอบบนพื้นหิน ร่างกายสั่นเทิ้มไม่หยุด
หัวหน้าทหารรักษาพระองค์ของราชวังต้าโจวยืนด้านข้างเกอซูปู้ด้วยสีหน้าลำบากใจ
“ท่านแม่ทัพเกอซูปู้ คนนี้เป็นนางกำนัลข้างกายของพระสนมลี่ผิน ท่านทำเยี่ยงนี้ไม่ได้จริงๆ...”
“นางกำนัลข้างกายของพระสนมลี่ผินแล้วอย่างไร?” เกอซูปู้หัวเราะเยาะ ท่าทางยโสโอหัง “เมื่อวานแม่ทัพอย่างข้าก็เอานางกำนัลใหญ่ของตำหนักเฟิ่งซีไปแล้วเลย ฮองเฮาก็ไม่เห็นว่ากระไร ทั้งยังยิ้มส่งอีก?”
สิ้นเสียงเขาก็ผลักหัวหน้าทหารรักษาพระองค์ออก คว้าหมับไปยังนางกำนัลน้อยด้วยแววตากระหาย อีกฝ่ายตกใจจนหน้าซีดเผือด
ทันใดนั้นมือเรียวยาวดึงนางกำนัลออก เกอซูปู้จึงพลาดเป้า
เสียงชายหนุ่มใสนุ่มนวล “พระสนมลี่ผินหิวน้ำ เจ้ายังไม่รีบไปต้มน้ำชาอุ่น ๆ อีก”
นางกำนัลเสื้อสีเขียวอ่อนเห็นองค์ชายหกมา ก็รู้สึกเหมือนหลุดพ้นจากหายนะ เจอผู้ช่วยชีวิตแล้ว
“ทูลองค์ชายหก บ่าวจะไปเดี๋ยวนี้เพคะ”
นางถอยหลังสองก้าว วิ่งเหยาะ ๆ ไปยังห้องบรรทมอย่างลนลาน ราวกับมีปีศาจร้ายไล่ตามด้านหลังอย่างไรอย่างนั้น
เกอซูปู้มององค์ชายหกด้วยใบหน้าโหดร้าย
“ไอ้เด็กเวร หมายความว่าอย่างไร?”
คนทูเจวียร่างสูงใหญ่ ส่วนองค์ชายหกปีนี้เพิ่งจะอายุสิบหกปี ระดับความสูงเพิ่งเลยไหล่เกอซูปู้ไปเล็กน้อยเท่านั้น ราวกับคนแคระเจอยักษ์ตัวใหญ่ก็ไม่ปาน
ดวงตาดำขลับขององค์ชายหกสุกใส พวงแก้มแดงปลั่งจากความตึงเครียด ทว่าสีหน้าไร้ความหวาดกลัว
“ท่านแม่ทัพเกอซูปู้ พระสนมลี่ผินไม่สบาย จำเป็นต้องให้นางกำนัลดูแล โปรดเห็นใจด้วย”
เขาพูดประโยคนี้จบก็หมุนกายเดินไปอย่างรวดเร็ว เกอซูปู้ชะงักงัน นัยน์ตามีเพลิงโทสะพลุ่งพล่าน
พระราชวังแห่งต้าโจวต้องตกอยู่ในกำมือพวกเขาในไม่ช้าก็เร็วแน่ ช่วงนี้เขาไว้หน้าเสียนอ๋องมากแล้ว ไม่ได้ทำอะไรเกินเลย
ใครจะไปคิดว่าเขาต้องเสียหน้าเพราะองค์ชายหก เด็กที่ยังไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม เขาไม่สนใจการขัดขวางของหัวหน้าทหารรักษาพระองค์ ก้าวเข้าไปในตำหนักหย่งเล่อ
“บังอาจ กล้าต่อกลอนกับข้า”
องค์ชายหกไม่คิดว่าเกอซูปู้จะก้าวบุกเข้ามา เขาหน้าเปลี่ยนสีในบัดดล ห้ามอีกฝ่ายเสียงดัง
“อันนี้เป็นห้องบรรทมของพระสนมลี่ผิน บุรุษนอกจะเข้ามาไม่ได้”
“ข้าไม่สนหรอกว่าเจ้าเป็นใคร เป็นสุนัขเร่ร่อนแล้วยังกล้าวางอำนาจกับข้าอีก อย่าว่าแต่นางกำนัลเลย หากข้าต้องการมารดาเจ้า เสียนอ๋องก็ไม่ปฏิเสธอยู่แล้ว”
เกอซูปู้แสยะยิ้ม ยกมือผลักองค์ชายหกออก จากนั้นก็ชักดาบออกมาฟันใส่ประตู
ประตูห้องบรรทมโดนฟันจนเป็นรูใหญ่ เขาถีบแรง ๆ นางกำนัลด้านในกอดคอกรีดร้องด้วยความกลัว
ยิ่งซิ่วกูกูทำหน้าบึ้ง ตะคอกว่า “อย่าได้สามหาว”
เกอซูปู้มองประเมินพระสนมลี่ผินกับยิ่งซิ่วกูกูหลายรอบอย่างเปิดเผย
หน้าตาดีใช้ได้ สวยกว่านางกำนัลเสื้อเขียวอีก แต่เสียดายแก่ไปหน่อย เขาชอบดรุณีน้อยอายุสิบหกสิบเจ็ดปีเท่านั้น
ต่อให้สวยแค่ไหน ถ้าอายุเกินยี่สิบปี เขาก็จะไม่เชยชม
“พวกเจ้าน่าจะรู้สึกโชคดีที่ข้าไม่สนใจพวกเจ้า หาไม่แล้วพวกเจ้าต้องลิ้มลองวิธีการเอาผู้หญิงของข้าแล้ว”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ
จะมีอัพต่อจนจบไหมค่ะแอด...
นึกว่าจะอัพจนจบเสียอีกค่ะ กำลังสนุกเข้มข้นเชียว...
รบกวนแอดช่วยอับต่อไปให้จบเรื่องได้ไหมคะ รออ่านอยู่น้า...
ตอนต่อไปอ่านที่ไหนคะ...
ตอนต่อไป อัพช่วงไหนคะ 😭😭😭...
อัพต่อเถอะนะคะ...กำลังสนุกเลยค่ะ😅😄😊😘...
สนุกมากค่ะ..เดินเรื่องเร็ว..พระเอกไม่โง่..นางเอกฟาดแรงสะใจ...อ่านแล้วบันเทิงมาก55555......
ขอบคุณค่ะ...
รีบมาต่อนะคะ กำลังสนุกเลย...
ขอบคุณน้าค้า ที่ลงทุกวันเลยสนุกมากค่ะ...