เกอซูปู้ถูกพูดแทงใจอ่อนเช่นนี้ก็เกือบคลุ้มคลั่ง
ทว่าเมื่อเขามองใบหน้าชวนหลงใหลของหญิงสาวตรงหน้าก็ระงับโทสะ กระตุกมุมปากยิ้มอย่างด้าน ๆ
“แพ้ชนะเป็นเรื่องธรรมดาของสงคราม ตอนนั้นข้าไปทำสงครามในขณะที่บาดเจ็บอยู่ จึงทำให้พ่ายแพ้ หากมีโอกาสต่อสู้อีกครั้ง จิ้งอ๋องก็คงเอาชนะข้าไม่ได้”
อวิ๋นหลิงกลอกตามองบนด้วยสีหน้าเรียบเฉย ช่างรู้สึกโอ้อวดเสียจริง
เกอซูปู้เห็นการตอบสนองของนางแล้วก็ไม่สบอารมณ์ แต่ก็ยังคงอดทนไว้
เขาเดินเข้าไปอีกหนึ่งก้าว จ้องอวิ๋นหลิงด้วยแววตาเร่าร้อน พูดแย้มยิ้ม
เกอซูปู้ไม่คิดจะปิดบังเป้าหมายของตัวเองต่อหน้าพระสนมลี่ผินเลย
“ข้าคิดว่าพระชายาจิ้งอ๋องต้องเป็นคนฉลาดแน่ รู้จักแยกแยะสถานการณ์ตรงหน้า ข้าขอพูดตรงๆแล้วกัน จิ้งอ๋องคงไม่มีวันกลับเมืองหลวงแล้ว พระชายาจิ้งอ๋องอยู่เป็นแม่หม้าย ไม่สู้มาอยู่กับข้าจะดีกว่าไหม?”
อวิ๋นหลิงเลิกคิ้ว “เหตุใดข้าต้องอยู่กับเจ้าด้วย อยู่กับเจ้าแล้วได้อะไร?”
เกอซูปู้ได้ยินก็ดีใจ พูดน้ำเสียงหลอกล่อ “หากเจ้ามาอยู่กับข้า เจ้าอยากได้อะไรข้าก็จะให้อย่างนั้น ต่อให้เจ้าอย่างได้ดวงตาบนสวรรค์ ข้าก็จะเอามาให้”
ผู้หญิงที่อยู่กับเขา เขาประเคนเงินทองและของกินของใช้เต็มที่ เพียงแต่สตรีพวกนั้นกลัววิธีการขึ้นเตียงของเขา
“งั้นตอนนี้เจ้าก็ไปเอาดาวมาให้ข้าเพื่อแสดงความจริงจังสิ”
เกอซูปู้ “...”
เขาไม่รู้จะพูดต่อเช่นไรดี
อวิ๋นหลิงส่งเสียงฮึดฮัด นางมีดาวที่สามีได้มาจากจักรพรรดิจาวเหรินหนึ่งดวง ไม่จำเป็นต้องให้คนร่างใหญ่บึกบึนไปเด็ดดวงดาวให้นางหรอก
“พระชายาพูดตลกแล้ว ข้าก็แค่เปรียบเทียบ” เกอซูปู้กลืนน้ำลายลงคอ จากนั้นก็ยิ้มแบบที่คิดว่ามีเสน่ห์ออกมา พูดเสียงอ่อนโยน “สรุปก็คือหากพระชายาจิ้งอ๋องยินยอม ข้าจะตามใจเจ้าทุกอย่าง เจ้าพูดอะไรก็จะทำตาม”
“จริงหรือ?”
เกอซูปู้ยิ้มอย่างดีใจ “ข้าพูดคำไหนคำนั้น”
“งั้นก็ดี ในเมื่อเจ้าพูดแบบนี้ งั้นตอนนี้ก็จงไสหัวไปซะ”
อวิ๋นหลิงหัวเราะเยาะ พูดเหน็บแนมเกอซูปู้ไม่ยั้ง
“ไม่รู้จักตักน้ำใส่กะโหลก ชะโงกดูเงาบ้างเลย หน้าตาขี้เหร่แล้วยังโง่อีกต่างหาก เวลาออกรบก็เอาชนะสามีข้าไม่ได้ แล้วยังหล่อสู้สามีข้าไม่ได้อีก แต่ทำไมถึงเชื่อมั่นในตัวเองและมีความกล้าขนาดนี้ อยากเป็นกระต่ายหมายจันทร์หรือไร?”
เกอซูปู้เห็นอวิ๋นหลิงไม่ไว้หน้า เหยียดหยามเขาต่อหน้าธารกำนัล เขาก็เผยใบหน้าโหดร้ายออกมา
“เจ้า...กล้าดีจังนะ”
บรรยากาศดุเดือดยิ่ง คนในห้องบรรทมไม่คิดว่าอวิ๋นหลิงจะพูดจาเสียดสีเกอซูปู้เช่นนี้ ทุกคนล้วนหน้าซีดเพราะความตะลึงพรึงเพริด
ระหว่างที่เกอซูปู้จะบันดาลโทสะชุดใหญ่ก็มีทหารทูเจวียนสาวเท้าเข้ามา
“ท่านแม่ทัพเกอซูปู้ ท่านเสียนอ๋องมีธุระสำคัญเชิญท่านออกวังขอรับ”
เกอซูปู้เห็นลูกน้องของตัวเองมา จึงระงับความโกรธ พูดหัวเสียว่า “ธุระด่วนอะไร?”
ทหารผู้นี้ปรายตามองอวิ๋นหลิงด้วยแววตาแปลก ๆ จากนั้นก็พูดเสียงกระหืดกระหอบ “ท่านแม่ทัพ องค์หญิงเหลียน พระนาง...”
พวกเขาสองคนใช้ภาษาทูเจวียสนทนา ซึ่งอวิ๋นหลิงฟังไม่เข้าใจ
แต่เห็นเกอซูปู้ได้ยินแล้วมองอวิ๋นหลิงด้วยความตกใจ จากนั้นก็ทำหน้าขรึม อ่านอารมณ์ไม่ออก
ผ่านไปเนิ่นนาน เกอซูปู้ถึงจะคลายคิ้วที่ย่นอยู่ มองอวิ๋นหลิงด้วยสายตาเฉียบคม นัยน์ตามีความสนใจอยู่ด้วย
“ข้ามีธุระต้องจัดการ รอให้ข้าว่างเมื่อไหร่จะมารบกวนพระชายาจิ้งอ๋อง ไป”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ
นึกว่าจะอัพจนจบเสียอีกค่ะ กำลังสนุกเข้มข้นเชียว...
รบกวนแอดช่วยอับต่อไปให้จบเรื่องได้ไหมคะ รออ่านอยู่น้า...
ตอนต่อไปอ่านที่ไหนคะ...
ตอนต่อไป อัพช่วงไหนคะ 😭😭😭...
อัพต่อเถอะนะคะ...กำลังสนุกเลยค่ะ😅😄😊😘...
สนุกมากค่ะ..เดินเรื่องเร็ว..พระเอกไม่โง่..นางเอกฟาดแรงสะใจ...อ่านแล้วบันเทิงมาก55555......
ขอบคุณค่ะ...
รีบมาต่อนะคะ กำลังสนุกเลย...
ขอบคุณน้าค้า ที่ลงทุกวันเลยสนุกมากค่ะ...
ชอบมากเลยค่ะ นางเอกเก่ง❤...