พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 351

ณ ตำหนักจิ่งเหริน

องค์ชายห้ามองทหารก่อกบฏด้วยสีหน้าระมัดระวัง ยืนปกป้องจื่อเถาด้านหน้า

“พวกเจ้าจะทำกระไร?”

เช้านี้เขารู้สึกบรรยากาศในวังไม่ชอบมาพากล เหมือนจะแตกต่างจากสองสามวันก่อน แต่ก็บอกไม่ถูกว่าไม่เหมือนตรงไหน

หัวหน้าทหารชาวทูเจวียใช้สายตาดุร้ายจ้องหน้าเขา พูดเสียงเย็นเยียบ

“ท่านแม่ทัพเกอซูปู้มีคำสั่งให้นำตัวคนในตำหนักจิ่งเหรินไปที่ตำหนักจื่อเฉิน”

เมื่อจื่อเถาได้ยินชื่อเกอซูปู้ร่างกายพลันแข็งทื่อทันควัน

ช่วงนี้ชื่อแม่ทัพผู้โหดร้ายคนนี้แพร่กระจายไปทั่วพระราชวัง สิ่งที่เขาทำก็เป็นที่รับรู้อย่างรวดเร็ว

เล่ากันว่าถึงแม้อีกฝ่ายหน้าตาดี แต่มีนิสัยโหดร้าย ชอบทารุณหญิงงามเป็นชีวิตจิตใจ ดรุณีน้อยต้องเสียชีวิตในเงื้อมมือเขาหลายต่อหลายคน

ถึงแม้จื่อเถาจะอำพรางรูปโฉมแล้ว แต่ในใจก็อดรู้สึกหวาดกลัวไม่ได้

องค์ชายห้าสัมผัสถึงร่างกายอันสั่นเทาของนาง จึงกุมมือนางเพื่อเป็นการปลอบประโลมนาง

“เช่นนั้นก็ไปกันเถิด”

จื่อเถาสัมผัสความอบอุ่นตรงฝ่ามือ ร่างกายอันแข็งทื่อก็ชะงักงัน ปกติที่ไม่ค่อยชอบให้ใครแตะเนื้อต้องตัว ยามนี้ทำให้นางรู้สึกปลอดภัยแบบที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน

องค็ชายห้าไม่รู้เจตนาการมาเยือนของคนกลุ่มนี้ จึงได้แต่ไหลไปตามสถานการณ์ก่อน

ทว่าไม่คิดว่าเพิ่งเดินมาถึงหน้าประตูพระตำหนักก็เห็นบุคคลที่คาดไม่ถึง ใบหน้าเปลี่ยนสีในบัดดล

“อุ๊ย! องค์ชายห้าเห็นข้าแล้วเหมือนตกใจมากเลยน่ะ?” เฟิงจิ่งเหวยถลึงตาใส่องค์ชายห้า ความเกลียดชังในใจแล่นพล่าน “คงนึกไม่ถึงว่าข้ายังมีชีวิตอยู่สิท่า”

“เฟิงจิ่งเหวย ไยเจ้าถึงมาอยู่ตรงนี้?”

องค์ชายห้านึกถึงเหตุการณ์คืนนั้นแล้วก็รู้สึกสะอิดสะเอียน แววตาตกใจของเขามองไปรอบ ๆ ก็พบว่าเฟิงจิ่งเหวยอยู่กับทหารกบฏ แล้วทหารชาวทูเจวียก็ทำตัวเป็นมิตรและนอบน้อมนางมาก

“เจ้าเป็นหนึ่งในผู้ก่อกบฏหรือ?”

“ถูกต้อง ตอนนี้ข้าเป็นคนของเกอซูปู้”

เฟงจิ่งเหวยปรายตามองนางกำนัลด้านหลังองค์ชายห้าแล้วก็ทำหน้าบูดเบี้ยว หัวเราะร่าด้วยแววตาเคียดแค้น

“ทุกอย่างที่เกิดขึ้นในวันนี้ล้วนเป็นเพราะพวกเจ้า กรรมใดใครก่อ กรรมนั้นใครรับ พวกเจ้าก็ตกอยู่ในเงื้อมมือข้าเป็นด้วย”

หลังจากที่ซ่งเชว่อวี่ช่วยชีวิตนาง นางก็ถูกมอบให้กับเกอซูปู้ หลังจากนั้นนางก็ต้องเหมือนตายทั้งเป็น มองภายนอกนางอาจจะไม่เป็นกระไร แต่ถ้าถอดอาภรณ์ทิ้งแล้วจะเห็นแต่รอยแผลเต็มไปหมดทั้งตัว

หลังจากเฟิงจิ่งเหวยโดนเกอซูปู้ทารุณกรรมแล้ว จึงรู้ว่าวิธีที่นางเคยกลั่นแกล้งข้ารับใช้บริวารนั้นเบามาก

เกอซูปู้เห็นว่านางสวย และหาคนอื่นมาแทนไม่ได้ หาไม่แล้วนางคงตายไปตั้งนานแล้ว

เฟิงจิ่งเหวยยิ่งคิดก็ยิ่งแค้น มองไปยังทหารกบฏด้านหน้า

“เอาแส้มาให้ข้า”

องค์ชายห้ากับจื่อเถาหน้าเปลี่ยนสี ถอยหลังหนึ่งก้าวด้วยความหวาดกลัวและระมัดระวัง

เฟิงจิ่งเหวยหัวเราะเย็น “ตอนนี้รู้จักกลัวแล้วหรือ? ตอนนั้นเจ้าฟ้องร้องพี่ชายข้าหน้าประตูวังหลวง ทำให้พี่ชายข้าต้องโดนประหาร ต่อมาก็เป็นมารขัดขวางข้า วันนี้ข้าจะให้เจ้าอ้อนวอนขอชีวิตแน่”

สีหน้าทหารชาวทูเจวียลังเล “แต่ท่านแม่ทัพเกอซูปู้บอกว่าต้องนำตัวไปยังตำหนักจื่อเฉินเร็ว ๆ หากชักช้า เกรงว่าท่านแม่ทัพจะไม่พอใจได้...”

“จะกลัวไปทำไม? เกอซูปู้อาจจะเชยชมพระชายาจิ้งอยู่ก็เป็นได้ ไม่มีเวลาสนใจทางนี้หรอก”

โชคดีที่อวิ๋นหลิงเบี่ยงเบนความสนใจเกอซูปู้ไปได้ นางจึงได้นอนรักษาตัวบนเตียงดี ๆ หลายวัน

เฟิงจิ่งเหวยรู้ว่าศัตรูกำลังจะได้สัมผัสความทรมานและความเจ็บปวดที่ตนเองเคยได้รับ ก็แย่งแส้มาอย่างรื่นรมย์ใจ จากนั้นก็สะบัดแส้ไปยังจื่อเถา

องค์ชายห้าไม่มีเวลาตกใจกับคำพูดของนาง รีบดึงจื่อเถาเข้าอ้อมกอด จากนั้นแผ่นหลังของเขาก็รู้สึกเจ็บแสบ

เขาส่งเสียงร้องด้วยความเจ็บปวด ดวงตาจื่อเถาสั่นระริก ร้องเสียงหลงว่า “องค์ชาย”

เฟิงจิ่งเหวยมององค์ชายห้าด้วยความหงุดหงิด บุรุษผู้นี้เวลาแตะต้องนางก็จะอาเจียน แต่ยามนี้กลับเป็นอัศวินม้าขาวคอยปกป้องสตรี?

“ไอ้สวะ เจ้าก็อยากเป็นวีรบุรุษช่วยหญิงงามหรือ? ในเมื่อเจ้าอยากออกหน้า เช่นนั้นข้าจะสงเคราะห์ให้ ดูว่าเจ้าจะทนได้สักกี่น้ำกัน?”

เฟิงจิ่งเหวยถึงกับต้องผงะ หยุดเฆี่ยนทันที “เจ้า...”

จื่อเถาไม่รอให้นางไหวตัวทัน คว้าหมับไปยังแส้ของนาง จากนั้นก็ดึงนางเข้ามาใกล้

จื่อเถาถือโอกาสตอนที่เฟิงจิ่งเหวยเสียหลัก ร่างกายโซเซ นางรีบดึงปิ่นปักผมที่พระชายามอบให้แล้วแทงใส่หน้าอกของอีกฝ่ายแรง ๆ

ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องตายอยู่ดี งั้นก็ต้องสู้กันสักตั้ง จะนั่งรอคอยความตายไม่ได้

“อ๊าก”

เฟิงจิ่งเหวยร้องคร่ำครวญ กุมหน้าอกที่มีโลหิตไหลพรั่งพรูแล้วล้มตัวไปกองกับพื้น ก่อนจะเบิกตากว้างมองจื่อเถา นางไม่คิดว่าจะโดนโจมตีกลับเช่นนี้

จื่อเถามองนางด้วยแววตาเย็นเยียบ พูดอย่างสะใจ “พระชายาเป็นคนทำปิ่นปักผมทองอันนี้เอง ด้านในอาบยาพิษที่สามารถคร่าชีวิตได้ วันนี้ถึงข้าจะต้องตาย ข้าก็จะลากเจ้าไปเป็นเพื่อนด้วย”

ปิ่นปักผมทองทิ่มแทงเข้าหัวใจอย่างแม่นยำ ยาพิษซึมเข้าไปด้านในแล้วกระจายไปทั่วร่างกาย ดวงตาเฟิงจิ่งเหวยเลื่อนลอย สีหน้ามีแต่ความไม่พอใจ

“เจ้า...”

นางต้องโดนอีกฝ่ายทำร้ายซ้ำแล้วซ้ำเล่า

อวิ๋นหลิงที่ยืนตรงมุมผนังพยักหน้าเล็กน้อย ความตึงเครียดเริ่มลดน้อยลง

เย่ซื่อเห็นแล้วก็พูดด้วยความตกตะลึง “เป็นสาวใช้ที่กล้าหาญมาก”

สมกับที่เป็นสาวใช้ข้างกายพระชายา ผู้ที่พระชายาเห็นความสำคัญไม่ธรรมดาจริงๆ

ทหารทูเจวียเห็นเหตุการณ์แปรผันก็หน้าถอดสี เกิดความอลหม่านขึ้น

“รีบจับตัวพวกเขาไว้”

ระหว่างที่จื่อเถาคิดว่าถึงทางตันและรู้สึกสิ้นหวังในชีวิต เสียงที่ดังกว่าประทัดก็ดังก้องไปทั่วบริเวณ จากนั้นก็ได้ยินเสียงนอนหมอบและเสียงร้องอันอนาถ

จื่อเถาเห็นทหารกบฏเลือดไหลแล้ววูบดับไปกองกับพื้น ก็ตกใจจนวิญญาณเกือบลอยออกไป เมื่อเห็นหน้าตาคนตรงหน้าชัดเจนแล้วก็ร้องไห้ด้วยความปลื้มใจ

“พระชายา”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ