แม้นจะมีเพียงปืนคาบศิลาเพียงสี่กระบอก แต่ก็สามารถจัดการทหารทูเจวียสามสิบกว่าคนได้
ไม่ว่าจะเก่งมาจากไหน วรยุทธ์สูงส่งเพียงใด หรือจะมีกระบี่เฉียบคมแค่ไหน ก็ไม่อาจต่อต้านอาวุธล้ำสมัยได้
“มันเป็นอาวุธอันใด?”
ทหารทูเจวียที่นอนบาดเจ็บบนพื้นมองพวกอวิ๋นหลิงด้วยความตื่นตระหนกตกใจ
เขาหันขวับไปมองพรรคพวกที่นอนตายด้านข้างก็เห็นหลุมอันน่าสะพรึงกลัวตรงหน้าผาก เขาไม่รู้ว่าอีกฝ่ายโจมตีพวกเขาเช่นไร รู้เพียงว่าแค่ไม่กี่อึดใจ สมาชิกของพวกเขาก็ตายไปแล้วครึ่งหนึ่ง
เย่ซื่อพูดเสียงเย็นเยียบ “ฆ่าชาวทูเจวียให้หมด อย่าให้รอดไปได้แม้แต่คนเดียว”
เขาเก็บปืนคาบศิลาแล้วดึงกระบี่บนเอวออกมา จากนั้นก็นำลูกน้องเข้าไปแทงศัตรู
ศัตรูที่โดนยิงแล้วแต่ยังไม่สิ้นลมหายใจไม่มีเรี่ยวแรงต่อสู้ เขาจึงไม่อยากเปลืองกระสุน ใช้กระบี่ปลิดชีพแทน
องค์ชายห้าได้สติก็โล่กำบังงอก พยายามลุกขึ้นยืน
“พี่...พี่สะใภ้สามไม่เป็นกระไรใช่ไหม?ไอ้เกอซูปู้...”
อวิ๋นหลิงส่ายหน้า “ข้าไม่เป็นอันใด ข้าสั่งสอนลูกหมาตัวนั้นแล้ว เจ้ายังไหวไหม?”
เมื่อครู่องค์ชายห้าโดนเฟิงจิ่งเหวยเฆี่ยนสิบกว่าครั้งเป็นอย่างต่ำ นางปรายตามองผู้ลงมือก็พบว่าอีกฝ่ายเสียชีวิตอย่างไม่เต็มใจรับผลลัพธ์นี้
จื่อเถารีบเข้าไปประคององค์ชายห้าที่ร่างกายซวนเซ พลางพูดเสียงสะอื้นพร้อมกับน้ำตาอาบแก้ม “องค์ชาย”
ใบหน้าหล่อขององค์ชายห้าซีดขาว เห็นจื่อเถามองเขาด้วยความห่วงใยและจับแขนเสื้อเขาไว้ จึงอดที่จะยกมุมปากขึ้นโค้งอย่างอ่อนโยนไม่ได้
“ข้าไม่เป็นอะไร เจ็บเล็กน้อยเอง ข้ายังไหว”
อวิ๋นหลิงคว้าขวดใบเล็กตรงเอวให้จื่อเถา พลางพูดเร็ว ๆ ว่า “มัวแต่อยู่ที่นี่ไม่ได้ ทหารกบฏได้ยินเสียงปืนแล้วต้องตามมาแน่ ข้าพาพวกเจ้าไปหลบซ่อนที่พระที่นั่งบำรุงฤทัยก่อน”
พระที่นั่งบำรุงฤทัยใกล้กับตำหนักจื่อเฉินมาก ใต้เตียงมังกรยังมีเส้นทางลับที่สามารถหนีออกไปนอกเมืองหลวงได้ด้วย
จื่อเถาพยักหน้า ปาดน้ำตาด้วยความลุกลน ขบฟันแล้วประคององค์ชายห้าเดินออกนอกตำหนักจิ่งเหริน
พวกเขาเพิ่งเดินพ้นประตูตำหนักจิ่งเหรินก็ได้ยินเสียงอันคุ้นเคยที่ดังสนั่นหวั่นไหวทั่วทิศอย่างต่อเนื่อง
เย่ซื่อได้ยินเสียงปืนคาบศิลาสีหน้าพลันหนักอึ้ง “พระชายา พวกเขาเริ่มยิงแล้วแสดงว่าตกอยู่ในอันตรายทุกตำหนัก”
ราวกับเป็นการตอกย้ำคำพูดของเย่ซื่อ เสียงกรีดร้องส่งมาแต่ไกล
สีหน้าอวิ๋นหลิงตึงเครียดเล็กน้อย รู้สึกไม่ชอบมาพากล ในวังมีพลปืนไฟแค่ห้าสิบคน แล้วเหตุใดจึงอึกทึกปานนี้
หรือเจ้าทึ่มนำกำลังเสริมมาถึงแล้ว?
อวิ๋นหลิงนึกได้ดังนั้นก็ตกตะลึง “พวกเรารีบไปกัน”
นางรีบปล่อยพลังจิตเพื่อสำรวจสถานการณ์รอบกาย พยายามตามหากลิ่นอายของเซียวปี้เฉิง แต่กลับพบว่ามีคนกลุ่มหนึ่งกำลังเข้าใกล้
หนึ่งในนั้นมีคนแรงเยอะกว่าคนปกติ ซึ่งแรงเยอะกว่าเกอซูปู้ด้วย
นางไม่ทันยกเท้าไปไหนก็ยินได้เสียงกีบเท้าม้าตรงเข้ามา
“เสียงที่เกิดขึ้นเมื่อครู่เป็นเสียงใคร?”
หนุ่มทูเจวียร่างสูงใหญ่นั่งบนหลังม้า ภายในเสื้อเกราะทหารเผยดวงตาประหนึ่งสัตว์ร้าย ทอประกายแสงแห่งความดุร้ายออกมา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ
จะมีอัพต่อจนจบไหมค่ะแอด...
นึกว่าจะอัพจนจบเสียอีกค่ะ กำลังสนุกเข้มข้นเชียว...
รบกวนแอดช่วยอับต่อไปให้จบเรื่องได้ไหมคะ รออ่านอยู่น้า...
ตอนต่อไปอ่านที่ไหนคะ...
ตอนต่อไป อัพช่วงไหนคะ 😭😭😭...
อัพต่อเถอะนะคะ...กำลังสนุกเลยค่ะ😅😄😊😘...
สนุกมากค่ะ..เดินเรื่องเร็ว..พระเอกไม่โง่..นางเอกฟาดแรงสะใจ...อ่านแล้วบันเทิงมาก55555......
ขอบคุณค่ะ...
รีบมาต่อนะคะ กำลังสนุกเลย...
ขอบคุณน้าค้า ที่ลงทุกวันเลยสนุกมากค่ะ...