สายลมพัดผ่านเบา ๆ เซียวปิ้งเฉิงต้องยืนค้างอยู่กับที่ ไม่รู้ควรบรรยากาศความรู้สึกยามนี้เช่นไร น้อยใจจนใบหน้าบูดเบี้ยว
อาสื่อน่าหลี่หายจากความตกตะลึง เห็นพวกเขาไม่เห็นเขาอยู่ในสายตา จึงรู้สึกท้าทายกะทันหัน เอ่ยปากพูดด้วยใบหน้าโหดร้าย
“เซียวปี้เฉิง เจ้าโชคดีรอดไปได้แล้วยังไม่คิดจะซ่อนตัวอีก แล้วยังกลับมาต่อสู้กับกองทัพใหญ่ของทูเจวียอีก? เจ้าช่างไม่เจียมตัวเสียเลย รนหาที่ตายชัดๆ”
เซียวปี้เฉิงที่กำลังน้อยเนื้อต่ำใจ เมื่อได้ยินประโยคนี้เพลิงโทสะในใจก็ลุกโชนหนักขึ้น
“อย่าพูดมากไปหน่อยเลย ข้าตัวคนเดียวก็สามารถเอาชีวิตเจ้าได้”
สิ้นเสียงเขาก็ดึงปืนออกจากใต้ท้องม้าแล้วเล็งไปยังอาซื่อน่าหลี่
ครึ่งเดือนมานี้ ความสามารถของเซียวปี้เฉิงพุ่งทะยานสูงขึ้นไม่น้อย ถึงแม้แผลจากธนูที่ไหลยังไม่หายดี แต่พลังจิตกลับแข็งแกร่งมากกว่าหนึ่งเท่าตัว
ด้วยระดับขั้นพลังจิตของเขา สามารถสังหารอาสื่อน่าหลี่ได้ภายในการโจมตีครั้งเดียว
ทว่าการจะใช้พลังจิตได้นั้นต้องใจเย็นดุจสายน้ำ ซึ่งยามนี้ใบหน้าเซียวปี้เฉิงบึ้งตึง ไหนเลยจะมีคำว่าสติปัญญาและสุขุมหลงเหลืออยู่
เขานึกถึงภาพเมื่อครู่ทีไรก็รู้สึกหงุดหงิดยิ่ง แทบอยากจะแทงอาสื่อน่าหลี่ให้แหลกสลายไปเลย
อาสื่อน่าหลี่ไม่คิดว่าเขากล้าพุ่งเข้ามาหาศัตรูมากมายคนเดียว อาสื่อน่าหลี่เผยใบหน้าตกใจ รีบบังคับให้ม้าถอยเพื่อหลบการโจมตีของหอก
เย่ซื่อเห็นแล้วหยาดเหงื่อไหลพรากเต็มแผ่นหลัง “เหตุใดท่านอ๋องจึงบ้าคลั่งกะทันหันเยี่ยงนี้?”
“ดี เจ้าเก่งใช้ได้” อาสื่อน่าหลี่หรี่ตาอย่างอันตราย มองประเมินเซียวปี้เฉิง ก่อนจะหัวเราะเยาะ “ได้ยินนานแล้วว่าอ๋องจิ้งแห่งซีโจวใช้หอกเก่ง เสียดายที่ไม่เคยได้ประลองสักครั้ง วันนี้ถือเป็นโอกาสดี เอาอาวุธของข้ามา”
ลูกน้องส่งอาวุธประจำตัวของอาสื่อน่าหลี่ให้อย่างรวดเร็ว อวิ๋นหลิงทอดสายตามองไปก็เห็นเป็นลูกตุ้มดาวตก
มิน่าล่ะคนอื่นถึงเล่ากันว่าอาสื่อน่าหลี่สามารถรับศัตรูร้อยชีวิตได้ เพราะหากใช้ลูกตุ้มดาวตกช่ำชองก็สามารถกำจัดศัตรูสามสิบถึงห้าสิบคนด้วยตัวคนเดียว
“พวกเจ้าไปจัดการคนพวกนั้น ส่วนข้าจะตัดหัวจิ้งอ๋องเอง”
เย่ซื่อเห็นพวกเขาสองคนต่อสู้กันโดยขี่บนหลังม้า ซึ่งเป็นเส้นทางคับแคบของราชวัง ก็ย่นคิ้วอย่างจนปัญญา
“พระชายา แบบนี้พวกเราก็ยิงไม่ได้สิพ่ะย่ะค่ะ?”
เซียวปี้เฉิงกับอาสื่อน่าหลี่ต่อสู้กันอย่างดุเดือด ถึงพวกเขาจะยิงแม่นเพียงใด แต่ก็ไม่กล้ายิงส่งเดช เพราะเกรงว่าอาจจะยิงไปโดนเซียวปี้เฉิงได้
“ทหารกระจอก ๆ แบบนี้ไม่จำเป็นต้องใช้ปืนหรอก”
หลิวฉิงกำนิ้วมือแล้วเกิดเสียงกร๊อบแกร๊บ เสียงเย็นชาเจือความกล้าหาญชาญชัยไว้
“น้องหลิง เหมือนเดิม เจ้าคุ้มกันข้าอยู่ด้านหลัง น้องเขยอาสาจะฆ่าหัวโจกแล้ว ข้าก็จะจัดการทหารกระจอก ๆ พวกนั้นเอง”
“ไม่มีปัญหา ข้าจะดูแลด้านหลังเอง”
หลังจากห่างหายกันไปนานก็ร่วมต่อสู้กันอีกครั้ง ส่งผลให้อวิ๋นหลิงรู้สึกกระตือรือร้นยิ่ง นางปลดปล่อยพลังจิตเพื่อครอบบริเวณรอบ ๆ ไว้อย่างชำนาญ สิ่งมีชีวิตทั้งปวงถูกขังอยู่ในเส้นกรอบนี้
ชาติที่แล้วนางกับหลิวฉิงออกไปทำภารกิจคู่หลายครั้ง มีประสบการณ์ด้านต่อสู้กับคนหมู่มากเยอะ
ปกตินางจะใช้พลังจิตอยู่ด้านหลัง ส่งกระแสจิตไปรบกวนศัตรูเบา ๆ หลิวฉิงจึงสามารถจัดการศัตรูรอบด้านได้อย่างง่ายดาย
ฉะนั้นภาพที่เกิดขึ้นต่อจากนี้ทำให้พวกองค์ชายห้าและเย่ซือตกตะลึงอ้าปากพะงาบ ๆ
พวกข้าศึกล้อมโจมตีหลิวฉิงด้วยใบหน้าดุร้าย ทว่าเมื่อมาถึงด้านหน้านาง ร่างกายก็ต้องชะงัน สีหน้าเผยความเจ็บปวด แววตาเต็มไปด้วยความมึนงง
วินาทีต่อมาหลิวฉิงใช้กระบี่อย่างไม่ลังเล สามารถคร่าชีวิตหลายคนได้เพียงไม่กี่อึดใจ
องค์ชายห้าสูดลมหายใจเข้า “โอ้สวรรค์”
เขาไม่กล้าเชื่อในสิ่งที่เห็นเลย
สตรีชุดดำถือกระบี่ด้านซ้ายมือ การเคลื่อนไหวผิดแปลก ไม่คล่องแคล่วเท่าที่ควร เห็นได้ชัดว่าเคยบาดเจ็บสาหัสไม่น้อย
ถึงกระนั้น นางก็สามารถโลดแล่นราวกับสายฟ้าได้ ใบหน้าเย็นยียบราวกับเทพแห่งความตาย ทุกจุดที่นางก้าวผ่านล้วนกลายเป็นศพ
เมื่อเลือดสดกระเซ็นมาเปื้อนใบหน้า นางกลับไม่กระพริบตาสักครั้ง ชวนให้คนดูอกสั่นขวัญแขวนยิ่ง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ
จะมีอัพต่อจนจบไหมค่ะแอด...
นึกว่าจะอัพจนจบเสียอีกค่ะ กำลังสนุกเข้มข้นเชียว...
รบกวนแอดช่วยอับต่อไปให้จบเรื่องได้ไหมคะ รออ่านอยู่น้า...
ตอนต่อไปอ่านที่ไหนคะ...
ตอนต่อไป อัพช่วงไหนคะ 😭😭😭...
อัพต่อเถอะนะคะ...กำลังสนุกเลยค่ะ😅😄😊😘...
สนุกมากค่ะ..เดินเรื่องเร็ว..พระเอกไม่โง่..นางเอกฟาดแรงสะใจ...อ่านแล้วบันเทิงมาก55555......
ขอบคุณค่ะ...
รีบมาต่อนะคะ กำลังสนุกเลย...
ขอบคุณน้าค้า ที่ลงทุกวันเลยสนุกมากค่ะ...