วันต่อมา อวิ๋นหลิงจัดแจงทุกอย่างเรียบร้อย จึงไปหาเสิ่นชิ่นด้วยตัวเอง
ในตำหนักเสียนอ๋อง สภาพในวันนี้ต่างจากวันวานโดยสิ้นเชิง
หลายวันก่อนที่นี่ยังมีบรรยากาศคึกคัก บ่าวไพร่เดินไปมา แต่วันนี้กลับปรากฏร่องรอยของความเสื่อมโทรม เงียบเหงาวังเวง
เดือนสามเป็นยามที่ดอกยี่หุบกำลังเบ่งบาน แต่ต้นยี่หุบในลานบ้านกลับมีกิ่งก้านที่หักคาต้น เผยร่องรอยของการถูกกระบี่ฟัน
แม้ว่าซากศพและคราบโลหิตจะถูกชะล้างไปหมดสิ้น แต่ตามกิ่งไม้และดอกไม้ก็ยังมีคราบเลือดแห้งกรังติดอยู่ เป็นประจักษ์พยานในเหตุการณ์ที่เศร้าสลดเมื่อวันนั้น
อวิ๋นหลิงเดินเข้าห้องโถง ก็เห็นสาวใช้หน้าตาหมดจดผู้หนึ่งจับมือเสิ่นชิ่นไว้พร้อมกับน้ำตาคลอเบ้า
“บ่าวไม่ไปไหน ถ้าบ่าวไปแล้ว มิเหลือแต่พระชายาผู้เดียวหรอกหรือ!”
นางจำได้ว่าสาวใช้ผู้นี้มีนามว่าชุนหยา คลับคล้ายคลับคลาว่าแต่งมาพร้อมกับเสิ่นชิ่น
เสิ่นชิ่นถอนหายใจ ตบมือนางเบา ๆ “ข้าคงไม่ใช่พระชายาเสียนอ๋องอีกแล้ว เจ้ายังจะติดตามข้าทำไมอีก เอาเงินแล้วไปหาคนดี ๆ ซักคน ชีวิตเจ้ายังอีกยาวไกลนัก”
ชุนหยาส่ายหน้า ยืนกรานเสียงแข็ง “ไม่ว่าจะยังไง ท่านอยู่ไหนข้าก็อยู่ที่นั่น!”
เสิ่นชิ่นคิดจะพูดอะไรต่ออีก แต่พอเห็นอวิ๋นหลิงเดินเข้ามา จึงต้องให้ชุนหยาออกไปก่อน
นางลุกขึ้นรินน้ำชาที่ค่อนข้างเย็นให้แก่อวิ๋นหลิงหนึ่งถ้วย “ไม่รู้ว่าเจ้าจะมาวันนี้ ไม่ทันได้เตรียมต้อนรับ”
อวิ๋นหลินกวาดตาดูโดยรอบและถามนาง “เจ้าให้คนในจวนออกไปหมดแล้วหรือ?”
เมื่อครู่นี้ตอนนางเข้ามา ไม่มีบ่าวซักคนจะมาส่งข่าวก่อน
“นอกจากชุนหยาแล้ว คนอื่นต่างแยกย้ายไปตามทางของตนเอง” เสิ่นชิ่นพยักหน้า กล่าวอย่างทอดถอนใจ “พวกเขาน่าสงสารนัก ข้าคืนสัญญาขายตัวให้ไปหมดสิ้น และแบ่งเงินให้อีกจำนวนหนึ่ง”
ข้าวของในบ้านสุดท้ายก็ต้องถูกยึดเข้าหลวงอยู่แล้ว มิสู้เอาบางส่วนมาแจกจ่ายให้บ่าวไพร่ผู้บริสุทธิ์ยังดีกว่า
อวิ๋นหลิงหยุดชะงัก พลางกล่าวเสียงอ่อนโยน “ถ้าชุนหยาคิดอยู่กับเจ้า ก็ให้นางอยู่ต่อเถอะ ชั่วดีอย่างไรนางก็ปรนนิบัติเจ้ามาแต่น้อยคุ้มใหญ่ เจ้าคืนสัญญาขายตัวให้ก่อน นางจะได้มีอิสระ แล้ววันหน้าถ้าคิดออกเรือนค่อยให้ไปก็ยังไม่สาย”
คนตระกูลเสิ่นถูกเนรเทศ นั่วเอ๋อร์ก็ต้องไปอยู่ในวัง นางไม่ต้องการจะเห็นเสิ่นชิ่นอยู่เดียวเปลี่ยวกายเพียงลำพัง
“ไว้ข้ากับหวยหยูจะหาเรือนเล็ก ๆ ซักหลังให้เจ้าย้ายไปอยู่ มีชุนหยาเป็นเพื่อนจะได้ไม่ต้องเงียบเหงามากนัก”
เสิ่นชินได้ยินดังนี้ก็ถอนหายใจ “แสดงว่าเสด็จพ่อคงมีข้อสรุปแล้ว ที่จะจัดการกับตระกูลเสิ่นและจวนเสียนอ๋องอย่างไร”
มิฉะนั้นอวิ๋นหลิงคงไม่มาพูดกับนางเช่นนี้
อวิ๋นหลิงพยักหน้าเบา ๆ และบอกเล่าถึงการตัดสินพระทัยของฮ่องเต้จาวเหรินที่มีต่อตระกูลเสิ่นให้นางฟัง
เสิ่นชิ่นรู้ผลที่ตระกูลเสิ่นจะได้รับ ก็ให้ถอนหายใจยาว สีหน้าตื้นตัน
“ขอบพระทัยเสด็จพ่อที่ทรงเมตตา”
นับแต่โบราณมา ผู้คิดคดทรยศต่อบ้านเมืองมีหรือจะไม่ต้องโทษประหาร?
ฮ่องเต้จาวเหรินทรงผ่อนผันเช่นนี้ เสิ่นชิ่นรู้สึกซาบซึ้งจนเหลือจะกล่าว
อวิ๋นหลิงจึงได้พูดว่า “เรื่องยึดทรัพย์ตระกูลเสิ่น เสด็จพ่อทรงมอบหมายให้ปี้เฉินไปดำเนินการ เจ้าเป็นลูกสาวที่แต่งออกมาแล้ว เรื่องนี้คงไม่มีผลกระทบตาม รวมถึงในตำหนักเสียนอ๋อง ก็จะไม่แตะสินเจ้าสาวของเจ้า”
เพราะตามกฎเกณฑ์และประเพณี เสิ่นชิ่นออกเรือนไปแล้ว จึงไม่เกี่ยวข้องกับตระกูลเสิ่นอีก ยึดทรัพย์ก็ไม่เกี่ยวกับนาง ทรัพย์สินเงินทองในจวนเสียนอ๋องต้องตกเป็นของหลวงทั้งสิ้น แต่สินเจ้าสาวถือเป็นทรัพย์สินส่วนตัวของฝ่ายหญิง ไม่เกี่ยวข้องกับจวนเสียนอ๋อง
เนื่องจากเรื่องนี้ไม่มีกฎเกณฑ์กำหนดแน่ชัด เซียวปี้เฉิงจึงถือเอาช่องโหว่ตรงนี้ แสร้งทำเป็นหลับหูหลับตา เหลือเงินบางส่วนไว้ให้เสิ่นชิ่นได้ใช้จ่ายบ้าง
เสิ่นชิ่นเข้าใจถึงความหวังดีของอวิ๋นหลิงกับสามี ขอบตาร้อนผ่าวขึ้น กล่าวอย่างซาบซึ้งใจ “อวิ๋นหลิง...เจ้ากับปี้เฉิงช่วยเหลือข้าครั้งแล้วครั้งเล่า ข้าไม่รู้จะตอบแทนพวกเจ้าอย่างไรดี โชคดีที่มีพวกเจ้า ข้ากับลูกจึงไม่ต้องไประหกระเหินอยู่ข้างนอก”
อวิ๋นหลิงนิ่งลงครู่หนึ่ง แววตาสับสนยิ้มให้นางเล็กน้อย พลางชั่งใจในสิ่งที่จะกล่าวต่อไปนี้
“นั่วเอ๋อร์เป็นหลานแท้ ๆ ของเสด็จพ่อ จะทรงยอมให้ไประหกระเหินได้อย่างไร เมื่อวานจึงมีรับสั่งว่า ให้นำตัวนั่วเอ๋อร์ไปอยู่ในวัง อบรมโดยแม่นมที่ดีที่สุด พร้อมกับยังคงตำแหน่งท่านหญิงของนางไว้”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ
จะมีอัพต่อจนจบไหมค่ะแอด...
นึกว่าจะอัพจนจบเสียอีกค่ะ กำลังสนุกเข้มข้นเชียว...
รบกวนแอดช่วยอับต่อไปให้จบเรื่องได้ไหมคะ รออ่านอยู่น้า...
ตอนต่อไปอ่านที่ไหนคะ...
ตอนต่อไป อัพช่วงไหนคะ 😭😭😭...
อัพต่อเถอะนะคะ...กำลังสนุกเลยค่ะ😅😄😊😘...
สนุกมากค่ะ..เดินเรื่องเร็ว..พระเอกไม่โง่..นางเอกฟาดแรงสะใจ...อ่านแล้วบันเทิงมาก55555......
ขอบคุณค่ะ...
รีบมาต่อนะคะ กำลังสนุกเลย...
ขอบคุณน้าค้า ที่ลงทุกวันเลยสนุกมากค่ะ...