พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 368

เสียนอ๋องถูกปลดเป็นสามัญชน และต่อไปก็ไม่มีพระชายาเสียนอ๋องด้วย

อวิ๋นหลิงให้ตงชิงเก็บหนังสือหย่าร้างไว้ให้ดี และนางก็ส่งเสิ่นชิ่นไปยังเรือนหลังใหม่ที่ซื้อไว้

แม้เรือนจะดูเล็ก แต่ก็ติดถนนใหญ่ในตัวเมือง เพียงแต่อยู่ในทำเลที่ค่อนข้างเงียบสงบ แต่แม้กระนั้น ก็ใช่ว่าเงินที่เสิ่นชิ่นมีอยู่จะพอซื้อหาได้

เงินที่นางเหลืออยู่ไม่เพียงพอที่จะซื้อบ้านไหนทั้งสิ้น นอกจากเช่าอาศัย

“บ้านหลังนี้ถูกทิ้งร้าง หลายปีก็ไม่มีคนอยู่ เนื่องจากทำเลไม่ดีเลยขายไม่ได้ราคา จึงถูกปล่อยว่างมาเรื่อย”

อวิ๋นหลิงอธิบายถึงที่มาของเรือน มันเป็นบ้านที่เป็นทรัพย์สินของจวนเจิ้นกั๋วกง นางขอซื้อต่อมาจากหรงจั้นในราคามิตรภาพ

“ข้าพอสนิทกับหรงจั้นอยู่บ้าง เขายอมปล่อยเช่าให้เราในราคาสองร้อยตำลึงต่อเดือน เจ้ากับชุนหยาอยู่ได้ตามสบาย และที่ตั้งก็อยู่ระหว่างจวนจิ้งอ๋องกับจวนเหวินกั๋วกง ถ้ามีอะไรยังพอช่วยเหลือได้บ้าง”

ถ้าบอกค่าเช่าให้ต่ำกว่านี้ อวิ๋นหลิงก็กลัวว่าเสิ่นชิ่นจะเกิดความสงสัย และถ้าอีกฝ่ายรู้ความจริง นางคงไม่ยอมให้อวิ๋นหลิงต้องมาสิ้นเปลืองขนาดนี้แน่นอน

เสิ่นชิ่นมองดูเรือนหลังเล็กรอบ ๆ สีหน้าตื้นตันใจ “หลายวันนี้ต้องขอบใจเจ้าที่ช่วยวิ่งเต้น โดยเฉพาะรัฐทายาทเจิ้นกั๋วกงที่ยื่นมือเข้าช่วย”

ทำเลแม้จะดูค่อนข้างเปลี่ยว ซ้ำเครื่องเรือนที่วางก็พอดูออกว่าผ่านวันเวลามานาน แต่นางก็พอใจความเงียบสงบของที่นี่มาก

ที่สำคัญคือห่างจากจวนจิ้งอ๋องไม่ไกล วันหน้าถ้าจะพบนั่วเอ๋อร์ก็สะดวก

อวิ๋นหลิงเห็นนางยินดีที่จะอยู่ ก็ค่อยเบาใจขึ้น แต่ยังอดห่วงไม่ได้ที่นางกับชุนหยาอยู่เพียงลำพัง จึงให้เยี่ยอีหมั่นมาสอดส่องดูแลซ้ำอีกคน

เซียวปี้เฉิงนับแต่กลับมาเมืองหลวง วัน ๆ ก็ทำงานแทบไม่ได้หยุดพัก ถ้าไม่เข้าวังก็คือไปอยู่หอต้าหลี่ ซ้ำยังรับพระบัญชาไปจับขุนนางที่มีส่วนรู้เห็นในการก่อกบฏอีก

เยี่ยนอ๋องไม่อยู่ในต้าโจว รุ่ยอ๋องโดนข้อกล่าวหาจนยากจะแก้ตัว องค์ชายห้าก็พักฟื้นอยู่...ทำให้งานสำคัญต่าง ๆ ล้วนไปอยู่ที่เซียวปี้เฉิงคนเดียว

เมืองหลวงวุ่นวายอยู่หลายวัน เซียวปี้เฉิงเองก็ซูบผอมไปอย่างเห็นได้ชัด

อีกทั้งไม่มีเวลาไปหึงหวงหลิวฉิงอีก วัน ๆ กลับมาค่ำมืดก็เพลียจนหลับอุตุ รุ่งขึ้นฟ้ายังไม่ทันสว่าง ก็ลุกขึ้นล้างหน้าบ้วนปากแล้วออกจากจวนไปอีก

เช่นนี้แล้ว ทำให้ได้ใกล้ชิดกับหลงจั้นมากยิ่งขึ้น

คุณชายสูงศักดิ์สง่างามผู้ซึ่งถูกโรคหัวใจคุกคามมายี่สิบกว่าปีผู้นี้ หลังจากหายเป็นปกติแล้ว ก็เริ่มแสดงความสามารถส่วนตัวให้เห็น กลายเป็นดาวเด่นดวงใหม่ในราชสำนักก็ว่าได้

อวิ๋นหลิงมีหรือจะไม่เป็นห่วงสามี แต่ทุกวันนี้นางเองก็ยุ่งจนหัวปั่นเช่นกัน

พิษในตัวกู้ฉางเซินค่อนข้างร้ายแรง เวลาฝังเข็มจึงไม่อาจประมาท บวกกับแผลเก่าที่ข้อมือของหลิวฉิงก็ใช่ว่าเกิดในวันสองวัน การดูแลคนไข้สองคนนี้ในทุกวัน ก็ทำให้นางเสียเวลาไปไม่น้อยแล้ว

หลิวฉิงไม่ใคร่รู้สถานการณ์ในต้าโจวนัก อยากช่วยก็ไม่รู้จะเริ่มตรงไหน เลยขออาสาช่วยนางเลี้ยงลูกจะดีกว่า

และวันนี้ซึ่งหายากจะได้พักผ่อนซักเล็กน้อย จู่ ๆ ตงชิงก็รีบมารายงาน

“พระชายา เสียน...เสียนอ๋องมาขอพบท่านเจ้าค่ะ!”

อวิ๋นหลิงเกิดความตกใจ รีบเดินออกไปยังเรือนด้านหน้า

และที่หน้าประตูจวนจิ้งอ๋อง ชายหนุ่มในชุดเขียวยืนนิ่งอยู่หน้าสิงโตหิน

ใบหน้าดูหล่อเหลาคมสัน แต่แววตาลุ่มลึกคล้ายกับบ่อน้ำที่แน่นิ่ง ไร้ซึ่งสิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่

เขายืนอยู่ตรงนั้น ราวกับซากร่างที่ไร้จิตวิญญาณ

จวบจนเห็นเงาของอวิ๋นหลิง แววตาเสียนอ๋องจึงมีรอยสั่นไหวบ้าง

ริมฝีปากขยับเบา ๆ น้ำเสียงสั่นเครือ

“อาชิ่นอยู่ไหน? เจ้าต้องรู้แน่ใช่ไหม”

อวิ๋นหลิงเหลือบตามองดูเขาอย่างเย็นชา ถ้าตอนนี้เป็นคนโง่อย่างรุ่ยอ๋องมาอยู่ตรงหน้า นางยังพอโกรธและด่าว่าเขาได้บ้าง

แต่พอเป็นเสียนอ๋องแล้ว นางแทบไม่อยากพูดมากแม้แต่คำเดียว

“ข้ารู้ว่านางอยู่ไหน แต่ไม่บอกท่าน เพราะนางไม่อยากพบท่าน”

อวิ๋นหลิงเอาจดหมายออกมามอบให้เขา

“นี่คือสิ่งที่อาชิ่นฝากมามอบให้ท่าน ท่านลงชื่อและประทับลายนิ้วมือ แล้วปี้เฉิงจะนำไปส่งให้แก่ฝ่ายปกครอง แต่ถ้าไม่อยากลงชื่อละก้อ...” นางหยุดเล็กน้อยแล้วพูดต่อ “ก็ไม่เป็นไร เพราะนางจะไม่มีวันพบท่านอีกแล้ว”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ