วันรุ่งขึ้น เหลียงเฟยเลือกออกจากวังยามโพล้เพล้พลบค่ำเป็นการเฉพาะ
นางเตรียมเกี้ยวธรรมดาๆ มุ่งหน้าไปยังถนนจูเชี่ยอย่างเงียบๆ นอกจากสารถีแล้ว ข้างกายมีเพียงแม่นมเจินกับองครักษ์สองคน
ถนนจูเชี่ยเป็นพื้นที่ที่ดีที่สุดของเมืองหลวง คนส่วนใหญ่ที่อาศัยอยู่ในบริเวณนี้ล้วนเป็นอ๋องบรรดาศักดิ์ชั้นสูง ขุนนาง และข้าราชการระดับสูง
สีท้องฟ้าสลัวเล็กน้อย รถม้าจอดอยู่ที่หัวมุมถนนไม่มีใครสังเกตเห็น
จากมุมนี้มองไปจะเห็นผู้คนมากมายเข้าออกประตูใหญ่จวนจินอ๋องได้อย่างชัดเจน กำลังขนย้ายเครื่องเรือนและของประดับตกแต่งจำนวนไม่น้อยเข้าๆ ออกๆ ไม่ว่างเว้น
ครั้งแรกที่เห็นจวนจินอ๋อง เหลียงเฟยก็รู้สึกว่าถูกรัศมีของจวนแยงตาจนพร่ามัว
นางเบิกตากว้าง ชี้ไปยังป้ายที่ทอประกายเรืองรองในระยะไกลด้วยความเหลือเชื่อ “อาเจิน แผ่นป้ายนั้นเลี่ยมฝังด้วยไข่มุกราตรีใช่หรือเปล่า”
เห็นสิงโตหินแผ่บารมีน่าเกรงขามสองตัวอยู่หน้าจวนจินอ๋อง ประตูใหญ่นั้นมีป้ายจารึกที่ส่องแสงเจิดจ้าในท้องฟ้ายามเย็น
แม่นมเจินหรี่ตามองไป เอ่ยด้วยความแปลกใจ “เป็นไข่มุกราตรีจริงๆ ไม่นึกว่าจะมีคนฝังไข่มุกราตรีเยอะแยะขนาดนี้บนป้าย!”
แผ่นป้ายทำด้วยทองคำทั้งแผ่น มีแสงอ่อนๆ แผ่ออกมาจากขอบโดยรอบ ที่แท้เป็นไข่มุกราตรีขนาดเท่ากำปั้น ถ้านับดีๆ อาจมีถึงสิบเม็ดยี่สิบเม็ด แต่ละเม็ดกลมเกลี้ยงนวลผ่อง สีสันงามตา
เหลียงเฟยสูดลมหายใจเย็นๆ เข้าไป สีหน้าดูไม่ดีนัก นางรู้ว่าจินอ๋องร่ำรวย แต่ไม่นึกว่าเขาจะมีเงินมีทองขนาดนี้
ควรรู้ไว้ว่าไข่มุกราตรีเป็นของหายาก ตอนนางให้กำเนิดโม่อ๋องในปีนั้นก็ได้รับพระราชทานมาหนึ่งเม็ด ปกติแล้วจะเป็นเหมือนสมบัติล้ำค่า ไม่ค่อยหยิบออกมาดูพร่ำเพรื่อ
หลังจากบริจาคหลายสิบล้านตำลึงทองให้กับท้องพระคลัง จินอ๋องผู้นี้ยังคงมีเงินทองเหลือเฟือเอามาสร้างป้ายจารึกอันล้ำค่าเช่นนี้ได้อีก!
เขาไม่กลัวว่าคนอื่นจะขโมยไปหรือ
เหลียงเฟยตกใจ เริ่มอดพะวักพะวนไม่ได้
จินอ๋องผู้นี้ร่ำรวยมหาศาล ไม่ต้องพูดถึงมนุษย์เลย ต่อให้เป็นภูตผีก็ยังเหมือนต้องมนตร์สะกด แล้วจื่อเถาเล่า
เหลียงเฟยพยายามสงบสติอารมณ์ กระซิบกำชับแม่นมเจินว่า “อาเจิน เจ้าพาคนไปเลียบเคียงถามดูว่าจวนจินอ๋องกำลังทำอะไรอยู่”
แม่นมเจินหยิบเงินมาหนึ่งตำลึงเงิน ไม่นานก็พาชายวัยกลางคนที่นั่งพักผ่อนอยู่หน้าประตูจวนจินอ๋องเข้ามา
“เรียนฮูหยิน นี่คือจวนอ๋องที่จินอ๋องกำลังซ่อมแซม ได้ยินว่าเขาจะแต่งงานเร็วๆ นี้ กำลังเตรียมงานแต่งอยู่น่ะขอรับ”
เอ่ยถึงจินอ๋อง ชายวัยกลางคนก็เริ่มซุบซิบพูดคุยไม่หยุดปาก
“จินอ๋องผู้นี้ร่ำรวยมั่งคั่งจริงๆ แม้แต่ป้ายเหนือประตูใหญ่จวนอ๋องก็ยังทำด้วยทองคำบริสุทธิ์และฝังด้วยไข่มุกราตรีสิบแปดเม็ดเชียวนะ! คฤหาสน์อื่นๆ ใช้ตัวอักษรสีดำ แต่ตัวอักษรทั้งสามของจวนจินอ๋องนี้แกะสลักด้วยหยกอ่อนสีดำ ช่างเป็นงานฝีมือที่ยิ่งใหญ่อลังการนัก!”
“จินอ๋องไม่เพียงร่ำรวย เขายังใจกว้างมากอีกด้วย ตอนที่พวกเราเพิ่งมาทำงานใหม่ๆ นั้น แต่ละคนได้ตกรางวัลเป็นเงินหลายร้อยตำลึง ช่างเป็นเทพเจ้าแห่งความมั่งคั่งที่ยังมีชีวิตอยู่โดยแท้!”
เหลียงเฟยกับแม่นมเจินฟังแล้วตะลึงงันไปครู่หนึ่ง เห็นชัดว่าความมั่งคั่งท่วมฟ้าของจินอ๋องนั้นเกินกว่าที่พวกนางจะเข้าใจได้
หยกอ่อนสีดำ! นั่นเป็นสมบัติที่หายากเหมือนหยกสีโลหิต!
ชายวัยกลางคนยังคงถอนหายใจเล่าต่อ “ไม่รู้ว่าว่าที่ชายาจินอ๋องเป็นสตรีเช่นไร นางช่างโชคดีนักที่ได้รับความโปรดปรานจากจินอ๋อง การจัดตกแต่งต่างๆ ภายในจวนจินอ๋องนั้นล้วนสร้างไปตามความชื่นชอบของว่าที่ชายาจินอ๋องทั้งหมด ช่วงนี้ช่างฝีมือที่เก่งที่สุดในเมืองหลวงเราล้วนมาอยู่ที่นี่!”
เหลียงเฟยได้ยินแล้วความดันโลหิตเพิ่มสูงขึ้น จินอ๋องพบจื่อเถาเพียงไม่กี่ครั้ง หลงหัวปักหัวปำจนถึงขั้นนี้เลยหรือ
นางหลุดจากภวังค์ ถามข่าวคราวของอีกฝ่ายต่อด้วยใบหน้าขาวซีด ยิ่งฟังอารมณ์ก็ยิ่งหนักอึ้ง
ว่ากันว่ายามนี้บิดามารดาของจินอ๋องเสียชีวิตแล้วทั้งคู่ ช่วงปีแรกๆ พ่อแม่ของเขาไม่กลมเกลียวกันนัก หลังจากหย่าร้าง มารดาก็เลี้ยงดูเขาจนเติบใหญ่มาเพียงลำพัง
เขารู้สึกว่าผู้ชายในโลกนี้จิตใจเหี้ยมเกรียม สงสารมารดาที่ยากนักกว่าจะฟันฝ่าชีวิตที่เหลือมาได้ ดังนั้นภายหน้าจึงอยากจะแต่งงานกับผู้หญิงแค่คนเดียว ใช้ชีวิตอย่างสงบสุขกับอีกฝ่ายไปจนแก่เฒ่า
ทั้งพ่อและแม่เสียชีวิต ภรรยาหนึ่งคนกับสามีหนึ่งคน ร่ำรวยมหาศาล...
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ
จะมีอัพต่อจนจบไหมค่ะแอด...
นึกว่าจะอัพจนจบเสียอีกค่ะ กำลังสนุกเข้มข้นเชียว...
รบกวนแอดช่วยอับต่อไปให้จบเรื่องได้ไหมคะ รออ่านอยู่น้า...
ตอนต่อไปอ่านที่ไหนคะ...
ตอนต่อไป อัพช่วงไหนคะ 😭😭😭...
อัพต่อเถอะนะคะ...กำลังสนุกเลยค่ะ😅😄😊😘...
สนุกมากค่ะ..เดินเรื่องเร็ว..พระเอกไม่โง่..นางเอกฟาดแรงสะใจ...อ่านแล้วบันเทิงมาก55555......
ขอบคุณค่ะ...
รีบมาต่อนะคะ กำลังสนุกเลย...
ขอบคุณน้าค้า ที่ลงทุกวันเลยสนุกมากค่ะ...