หลังจากกำชับจื่อเถาแล้ว อวิ๋นหลิงก็ให้ซวงหลีส่งจดหมายถึงโม่อ๋องด้วยตนเอง ให้เขาทำให้เหลียงเฟย ‘สะเทือนใจ’ อีกครั้ง เพื่อให้แน่ใจว่าอีกฝ่ายจะไม่ลดท่าทีลงชั่วคราวเพื่อเหนี่ยวรั้งจื่อเถาไว้
โม่อ๋องไม่เคยเห็นมารดาตื่นตระหนกและหวาดกลัวเช่นนี้มาก่อน คิดว่าหลังจากจื่อเถาแต่งเข้ามาแล้ว เสด็จแม่คงจะรักใคร่นางมากเช่นกัน
แต่ด้วยการยอมรับและไว้ใจอวิ๋นหลิง เขายังคงพยักหน้าติดๆ กันแล้วกล่าวว่า “อาซ้อสามวางใจได้ ข้าจะทำตามที่ท่านพูด”
หลังจากคืนนั้น จื่อเถาไม่ได้ให้คำตอบที่ชัดเจนกับเหลียงเฟยเป็นเวลาห้าวันติดต่อกันด้วยท่าทีลังเล
เหลียงเฟยกระวนกระวายใจ มาหาจื่อเถาถึงห้องแล้วนั่งอยู่นานพักใหญ่ทุกวัน จับมือนางด้วยความรักใคร่เอ็นดูและพูดคุยกันอย่างสนิทสนม
ตอนมาหามักจะนำของติดไม้ติดตัวมาด้วยเสมอ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องประดับสวยๆ หรือไม่ก็อาหารบำรุงอย่างรังนกราคาแพงลิ่ว
แม้แต่เซียวปี้เฉิงก็อดบ่นตัดพ้อไม่ได้ว่า “ถ้าคนนอกเห็นเข้า คงคิดว่าเจ้าเถาใหญ่เป็นลูกสาวแท้ๆ ของเสด็จแม่เหลียง”
อวิ๋นหลิงลอบหัวเราะ “หากใช้ภาษาของข้าอธิบายกงจื่อโยว ตอนนี้ก็คือเขามีรถมีบ้าน พ่อแม่เสียแล้วทั้งคู่ หน้าตาหล่อเหลาโดดเด่น เป็นสินค้ายอดนิยมในตลาดนัดบอดแน่นอน เหลียงเฟยก็ไม่ใช่คนโง่ ต่อให้ฝืนใจแค่ไหนก็ต้องแสร้งทำต่อไป”
แต่คนปกติทั่วไปต่างรู้ว่าอันไหนดีกว่ากัน
บัดนี้โม่อ๋องคือไพ่ไม้ตายสุดท้ายของเหลียงเฟย ทุกครั้งที่นางมามักจะพาโม่อ๋องมาด้วย เพื่อให้เขาฟื้นฟูความสัมพันธ์กับจื่อเถา
“ลูกเอ๋ย เจ้าต้องจำไว้ว่าช่วงสองสามวันนี้ เจ้าต้องเอาอกเอาใจจื่อเถา เชื่อฟังและปรนเปรอนางทุกคำขอ ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องให้นางเปลี่ยนใจก่อนแล้วค่อยว่ากัน!”
สองสามวันนี้? หรือว่าหลังจากจื่อเถาแต่งเข้ามาแล้วก็ไม่ต้องเชื่อฟังนาง?
โม่อ๋องแอบตำหนิในใจ แต่ปากกลับพูดว่า “แล้วเมื่อเถาเอ๋อร์แต่งเข้าจวนโม่อ๋องล่ะ”
เหลียงเฟยตอบด้วยความกรุ่นโกรธ “หลังนางแต่งเข้าจวนโม่อ๋องแล้ว ก็ต้องปรนนิบัติสามีกับแม่สามีอย่างดี พวกเราอดทนไว้สักสองสามวัน ไว้ปฏิเสธการแต่งงานของจินอ๋องแล้วจะพูดอะไรก็ได้ ถึงอย่างไรนางก็เป็นลูกสาวของช่างไม้ตัวเล็กๆ ต่อให้จวนเหวินกั๋วกงจะรับเป็นคุณหนูก็เปลี่ยนแปลงชาติกำเนิดไม่ได้ จะให้นางนั่งทับหัวเจ้ากับข้าไม่ได้อยู่แล้ว”
เรื่องนี้เป็นปมในใจของเหลียงเฟย นางจนปัญญากับท่าทีรอมชอมของจื่อเถา
โม่อ๋องพูดไม่ออกไปครู่หนึ่ง ในใจนึกโกรธจนแทบอยากจะหัวเราะออกมา
อวิ๋นหลิงพูดถูกจริงๆ นางมองเสด็จแม่ทั้งภายในภายนอกทะลุปรุโปร่งโดยแท้
แต่สตรีตรงหน้าถึงอย่างไรก็เป็นมารดาผู้ให้กำเนิดและเลี้ยงดูเขา โม่อ๋องปกปิดความไม่พอใจ ทว่ายังคอยชี้นำและเตือนสติอย่างอดทน
“เสด็จแม่ทำเช่นนี้ไม่เหมาะ ในเมื่อต่อไปจะเป็นครอบครัวเดียวกัน ควรปฏิบัติต่อกันอย่างจริงใจ อีกอย่างเถาเอ๋อร์แยกแยะผิดถูกชัดเจน เป็นแม่นางที่รู้หนังสือ ให้ความเคารพท่านมาตลอด แล้วจะนั่งทับหัวท่านได้อย่างไร”
“เถาเอ๋อร์ลังเลและตัดสินใจไม่ได้มาตลอด ลูกเดาว่าปัญหาอยู่ที่ท่าทีของเสด็จแม่!”
“ข้าหรือ” เหลียงเฟยสะดุ้ง ขมวดคิ้วมุ่นกล่าวว่า “ช่วงนี้ข้าปฏิบัติต่อนางไม่ดีพอหรือ”
โม่อ๋องถอนหายใจ เอ่ยเสียงเข้ม “ข้าคิดว่าถ้าเสด็จแม่ให้คำมั่นแก่เถาเอ๋อร์ว่าหลังแต่งเข้ามาแล้วจะมองนางเป็นเหมือนลูกของตน นางอาจจะรู้สึกสบายใจก็เป็นได้”
เหลียงเฟยไม่พอใจเล็กน้อย แต่ยังคงพยักหน้าเห็นด้วย “เช่นนั้นข้าจะให้คำมั่นแก่นาง”
ได้ยินดังนี้ โม่อ๋องก็ดูจริงจัง “เสด็จแม่ หากท่านให้สัญญา ต่อไปก็ต้องพูดจริงทำจริง ลูกยังคงพูดคำเดิม เถาเอ๋อร์จะเป็นว่าที่สะใภ้ของท่าน ไม่ใช่ศัตรูของท่าน อย่าทรมานให้นางอึดอัดใจเหมือนเมื่อก่อนอีก หากท่านปากไม่ตรงกับใจ ต่อหน้าและลับหลังทำเป็นโกรธและไร้ความปรานี บางทีเถาเอ๋อร์อาจจะหย่ากับข้า”
เหลียงเฟยเบิกตากว้าง “หย่าหรือ นางยังจะกล้าหย่ากับเจ้าหรือ”
“มีอะไรไม่กล้า ไม่ใช่ว่าท่านไม่รู้จักนิสัยของเถาเอ๋อร์” โม่อ๋องสูดลมหายใจเข้าลึกๆ พูดต่ออย่างอดทน “เราสองคนทุ่มเทจิตใจเชิญนางกลับมา หากท่านทำไม่ดีกับนาง ถึงตอนนั้นอาซ้อสามจะคิดอย่างไร เกรงว่าอาซ้อสามจะตัดสินใจหย่าแทนนาง ก่อนที่จื่อเถาจะอ้าปากพูดเสียด้วยซ้ำ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ
จะมีอัพต่อจนจบไหมค่ะแอด...
นึกว่าจะอัพจนจบเสียอีกค่ะ กำลังสนุกเข้มข้นเชียว...
รบกวนแอดช่วยอับต่อไปให้จบเรื่องได้ไหมคะ รออ่านอยู่น้า...
ตอนต่อไปอ่านที่ไหนคะ...
ตอนต่อไป อัพช่วงไหนคะ 😭😭😭...
อัพต่อเถอะนะคะ...กำลังสนุกเลยค่ะ😅😄😊😘...
สนุกมากค่ะ..เดินเรื่องเร็ว..พระเอกไม่โง่..นางเอกฟาดแรงสะใจ...อ่านแล้วบันเทิงมาก55555......
ขอบคุณค่ะ...
รีบมาต่อนะคะ กำลังสนุกเลย...
ขอบคุณน้าค้า ที่ลงทุกวันเลยสนุกมากค่ะ...