พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 510

หลังจากได้รับการรายงานแล้ว อวิ๋นหลิงก็วางราชกิจในมือลงแล้วไปยังห้องตำรา ระหว่างทางก็ลอบครุ่นคิดถึงพระประสงค์ของจักรพรรดิจาวเหริน

นานแล้วที่อีกฝ่ายไม่ได้เรียกพบนางเพื่อหารือเรื่องต่างๆ ตามลำพัง

ในห้องตำรา จักรพรรดิจาวเหรินกำลังดื่มชาพลางอ่านฎีกา ดูมีชีวิตชีวาขึ้นกว่าเดิมมากนัก

บางทีอาจเป็นเพราะเขาเดินออกมาจากความเจ็บปวดหลังจากประทานความตายให้ฮองเฮาเฟิงได้แล้ว หรือบางทีอาจเป็นเพราะได้รัชทายาทกับชายาช่วยดูแลราชกิจ พอได้ผ่อนคลายจึงดูเหมือนอายุจะน้อยลงไปหลายปีด้วย

หลังจากอวิ๋นหลิงเข้าไปในห้องก็ถามตรงประเด็น “เสด็จพ่อ ดึกป่านนี้แล้ว มีเรื่องสำคัญอะไรจะคุยกับข้าหรือ”

จักรพรรดิจาวเหรินทรงโบกพระหัตถ์ ตรัสอย่างสงสัยใคร่รู้ “ไม่เกี่ยวกับงานราชกิจหรอก เช้านี้เหลียงเฟยมาขอให้ข้าประทานสมรสให้เจ้าห้า ข้าเลยนึกสงสัยว่าเจ้าจัดการนางได้อย่างไร”

ควรรู้ไว้ว่าเหลียงเฟยมีปัญหากับโม่อ๋องมานานกว่าสามเดือนแล้ว

อวิ๋นหลิงคลี่ยิ้มแล้วอธิบายให้ฟัง จักรพรรดิจาวเหรินฟังจบก็พยักพระพักตร์เงียบๆ

ในเมื่อราชครูเฟิ่งเหมียนทำนายว่าจริงๆ แล้วในชีวิตเจ้าห้ามีดาวบุพเพสันนิวาสเพียงคนเดียว นับจากนี้ไปเขาจะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวการแต่งงานของเจ้าห้ามากนัก ปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติแล้วกัน

เบื้องหน้ามีเซียวปี้เฉิงเบื้องหลังมีโม่อ๋อง หากวันหน้ายังมีองค์ชายคนอื่นๆ ที่บอกว่าจะไม่แต่งชายารองหรือรับอนุภรรยาขึ้นมาอีก จักรพรรดิจาวเหรินพบว่ายอมรับได้ไม่ยาก

“ไม่นึกว่าพระองค์จะได้ฟังข่าวซุบซิบเช่นนี้ด้วย ถึงกับเรียกข้ามาที่นี่โดยเฉพาะเพื่อพูดคุยว่าจัดการอย่างไร ดูท่าหมู่นี้จะใช้ชีวิตสุขสบายทีเดียว”

อวิ๋นหลิงพูดจาขวานผ่าซาก ที่ผ่านมาจักรพรรดิจาวเหรินมักจะรู้สึกว่านางไม่มีสัมมาคารวะ แต่ตอนนี้คุ้นเคยแล้ว จึงเข้าใจว่าเหตุใดพระเจ้าหลวงถึงชอบพูดคุยกับอวิ๋นหลิง เมื่ออยู่กับนางหนูนี้แล้วทำให้รู้สึกผ่อนคลายสบายใจ

จักรพรรดิจาวเหรินทรงชมเชยอย่างไม่ลังเลว่า “ช่วงนี้เจ้ากับเจ้าสามทำงานได้ดีมาก ทำให้ข้าพอใจจริงๆ”

อันดับแรกเป็นห้องสมุด จากนั้นเป็นสำนักศึกษาชิงอี้ และการแต่งงานของโม่อ๋องก็จัดการได้แล้ว ตอนนี้ยิ่งเขามองนางหนูนี้มากเท่าไรก็ยิ่งชื่นชอบบมากขึ้นเท่านั้น

แต่แล้วจักรพรรดิจาวเหรินก็เปลี่ยนหัวข้อ รับสั่งด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม “แต่ในเมื่อเจ้าช่วยเจ้าห้าได้ ไยไม่หาวิธีชักชวนหรงฉานให้คืนดีกับรุ่ยอ๋องเล่า”

นี่คือจุดประสงค์ที่เขาเรียกอวิ๋นหลิงมาที่นี่

หรงฉานอายุครรภ์แปดเดือนแล้ว หมอหลวงบอกว่ากำหนดคลอดคือประมาณกลางเดือนเก้า ตามข้อตกลงเดิม หลังคลอดบุตรแล้วทั้งสองจะหย่าร้างกันอย่างเป็นทางการ

“เจ้าก็เห็นแล้วว่าช่วงนี้รุ่ยอ๋องเปลี่ยนไปมาก เขาสุขุมมั่นคงมากขึ้น ไม่ทำตัวเป็นเด็กเลอะเลือนเหมือนเมื่อก่อน เจ้าสนิทสนมกับหรงฉาน ช่วยพูดตะล่อมเกลี้ยกล่อมนางแทนเจ้าใหญ่ได้หรือไม่ ให้นางให้โอกาสเจ้าใหญ่อีกสักหน?”

ตกลงกันไว้ตั้งแต่แรกว่าหากหรงฉานคลอดลูกสาว นางเอาไปเลี้ยงดูเองได้ แต่ถ้าคลอดลูกชาย เช่นนั้นเด็กก็ต้องอยู่ในราชวงศ์

จักรพรรดิจาวเหรินไม่ต้องการให้เรื่องอย่างนั่วเอ๋อร์กับพระชายาเสียนอ๋องเกิดขึ้นซ้ำรอยอีก เรื่องที่เสียนอ๋องก่อกบฏเพื่อแก้แค้นทิ้งรอยแผลเป็นฝังลึกไว้ในใจของเขา

เขาอายุปูนนี้แล้ว ตอนนี้ยิ่งอายุมากขึ้นก็ยิ่งอย่างเห็นครอบครัวปรองดองกันมากขึ้นเช่นกัน

อวิ๋นหลิงฟังแล้วส่ายหน้า เอ่ยด้วยน้ำเสียงสุขุม “เสด็จพ่อ สิ่งที่ขัดขวางไม่ให้น้องห้ากับจื่อเถาอยู่ด้วยกันคือแรงภายนอก ข้าแค่ช่วยผลักเบาๆ ให้พ้นทางเท่านั้นเอง ไม่ว่าจะสำเร็จหรือไม่นั้นท้ายที่สุดแล้วก็ขึ้นอยู่กับน้องห้ากับจื่อเถาเอง หากพวกเขาไม่ยืนหยัดเด็ดเดี่ยว ต่อให้ข้าจะพยายามแค่ไหนก็ป่วยการเปล่า”

“รุ่ยอ๋องต่างจากน้องห้า ปัญหาระหว่างเขากับหรงฉานเกิดจากตัวพวกเขาเอง จะให้หรงฉานเปลี่ยนใจไปพึ่งพาแต่ตัวเขานั้น เรื่องนี้ข้าจนปัญญา”

จักรพรรดิจาวเหรินทรงถอนพระทัยยาว รู้ว่าที่อวิ๋นหลิงพูดนั้นสมเหตุสมผล เมื่อเห็นว่านางไม่ตกปากรับคำ จึงเป็นอันล้มเลิกไป

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ