พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 525

เมื่อเห็นว่าหลี่เมิ่งเอ๋อร์ยืนตัวแข็งทื่อไม่เคลื่อนไหว โทสะของจักรพรรดิจาวเหรินก็พุ่งขึ้นมาทันที สะบัดแขนเสื้ออย่างแรง

“เจ้ายังยืนนิ่งอยู่ทำไม ถ้าหากงอเข่าลงไม่เป็น ข้าจะให้เสนาบดีขวาหลี่เข้าวังมาขอโทษแทนเจ้าเดี๋ยวนี้เลย”

ได้ยินเช่นนี้ หลี่เมิ่งเอ๋อร์อดไม่ได้ที่จะร้องไห้ออกมา ในใจมีความรู้สึกน้อยใจปนกับความขุ่นเคือง

ภายใต้สายตาเย็นชาของเซียวปี้เฉิงและสายตาที่เหมือนกำลังดูเรื่องสนุกของอวิ๋นหลิง นางคุกเข่าลงอย่างไม่เต็มใจ ในที่สุดก็ก้มศีรษะที่ปกติจะเชิดสูงอยู่ตลอดเวลาลงไป

“......เป็นความผิดของเมิ่งเอ๋อร์เอง ขอแม่นางเสวียนจีอย่าได้ถือสาเลย ล้วนผิดที่ข้าตาไร้แววจำคนผิด”

หลี่เมิ่งเอ๋อร์เอ่ยคำขอโทษโดยพยายามสะกดกลั้นความอดสูเอาไว้ น้ำตาไหลพรากออกมา

เสวียนจีรู้สึกรังเกียจในใจ ก่อนหน้านี้ห่านหัวโตยังทำท่ายโสโอหังอย่างยิ่ง อยู่ดีๆก็จะตีจะฆ่าคนอื่น ตอนนี้เห็นทีก็มีความสามารถแค่นี้เอง

นางโบกมือ เอ่ยอย่างใจกว้างว่า “ช่างเถอะช่างเถอะ ในเมื่อเจ้าขอโทษด้วยใจจริงแล้ว เช่นนั้นข้าก็จะเมตตาให้อภัยเจ้า ศิษย์พี่สอนข้ามาตั้งแต่เด็กว่าต้องห่วงใยเอาใจใส่และให้อภัยคนพิการ เห็นแก่ที่ตาของเจ้าพิการ ข้าจะไม่ถือสาเอาเรื่องเจ้า เกรงว่าคนอื่นจะว่าข้ารังแกคนพิการ”

เซียวปี้เฉิงพึมพำกับตนเอง ไม่เสียแรงที่เติบโตขึ้นมาข้างกายอวิ๋นหลิง ทักษะปากร้ายนี้ได้รับการถ่ายทอดจากภรรยาของเขาจริงๆ

หลี่เมิ่งเอ๋อร์ได้แต่โกรธแต่ไม่กล้าพูดอะไร ได้แต่ร้องไห้พลางกลั้นน้ำตาเอาไว้ ในใจกลับเกิดคลื่นความเคียดแค้นถาโถมขึ้นมา

ไม่ว่าคนที่อยู่ตรงหน้าจะใช่เด็กขอทานคนนั้นหรือไม่ นางก็แทบอยากจะให้อีกฝ่ายไปตายเดี๋ยวนี้เลย

รับรู้ได้ถึงความแค้นที่รุนแรงในสายตาของนาง เฟิ่งเหมียนสีหน้าเคร่งขรึม ดวงตาสีอ่อนมีความเย็นชาเคลือบอยู่

เสวียนจีแบมือยักไหล่ ไม่ได้สนใจแววตาเคียดแค้นชิงชังของหลี่เมิ่งเอ๋อร์ การแสดงของนางยังไม่จบ

“ท่านลุงจักรพรรดิ เมื่อครูข้าได้ยินสาวใช้ซื่อบื้อบอกว่า ภายหน้าคุณหนูคนนี้จะแต่งเข้าตำหนักบูรพาหรือ” สายตาของเสวียนจีกวาดมองไปยังร่างของสองสามีภรรยาเซียวปี้เฉิงแวบหนึ่ง เอ่ยอย่างไม่เห็นด้วยว่า “อย่างนี้ไม่ดีกระมัง เป็นถึงรัชทายาทแห่งซีโจว จะแต่งงานกับคนตาบอดเพื่อให้เป็นพระชายารองได้อย่างไร ถ้าลูกเกิดมาแล้วได้รับการถ่ายทอดมาด้วยจะทำอย่างไร”

ฉวยโอกาสที่ดีเช่นนี้ นางจะทำลายความฝันของหลี่เมิ่งเอ๋อร์ให้สิ้นซาก ให้อีกฝ่ายไม่มีโอกาสเข้าไปยุ่งกับชีวิตคู่ของอวิ๋นหลิงเลยแม้แต่น้อย

เซียวปี้เฉิงได้ยินถึงตรงนี้สายตาก็ไหววูบ อดไม่ได้ที่ส่งสายตาชื่นชมให้กับเสวียนจีอย่างลับๆ

ช่วงนี้แม่สาวน้อยทำตัวให้สบายหูสบายตามากขึ้นแล้ว แม้ว่าตอนนี้จะอยู่ในสภาพผมเผ้ารุงรังเหมือนรังไก่ ร่างกายก็เหม็นหึ่ง เขาก็ยังคงรู้สึกว่าเด็กคนนี้น่ารัก

เซียวปี้เฉิงเอ่ยพลางขมวดคิ้ว “เหลวไหลทั้งเพ ข้าเคยบอกตั้งแต่เมื่อไหร่ว่าจะแต่งพระชายารอง หรือว่าเรื่องงานแต่งของข้า สามารถให้สาวใช้มีอำนาจตัดสินใจเกินเสด็จพ่อย่างนั้นหรือ”

สีหน้าของจักรพรรดิจาวเหรินดูไม่ดี แม้ว่าก่อนหน้านี้เขาจะไม่เห็นด้วยที่เซียวปี้เฉิงจะแต่งงานกับอวิ๋นหลิงแค่คนเดียว แต่ก็ไม่มีทางเห็นด้วยที่จะให้หลี่เมิ่งเอ๋อร์มาเป็นพระชายารองของรัชทายาท

เด็กสาวคนนี้นอกจากการเรียนดีแล้ว ก็เป็นสุดยอดการผสมผสานระหว่างฮองเฮาเฟิงและพระสนมหลี่จริงๆ วิสัยทัศน์ธรรมดาไม่ว่า แต่ความชอบใช้อำนาจบาตรใหญ่นั้นเรียนรู้มาเต็มที่

ในใจของจักรพรรดิจาวเหรินไม่ชอบอีกฝ่าย นอกเสียจากเขาจะเป็นศัตรูกับลูกชายตัวเอง จึงจะประทานงานแต่งให้โอรสด้วยความเลอะเลือน

เขากำลังคิดว่าจะต่อบทสนทนาอย่างไรดี ก็พบว่าแววตาของเฟิ่งเหมียนไหววูบ น้ำเสียงเย็นชาและกังวานดังขึ้น

“ฝ่าบาททรงมีเจตนาจะให้หญิงที่อยู่ตรงหน้าเป็นพระชายารองของรัชทายาทหรือ ถ้าเป็นเช่นนั้น ข้าน้อยขอร้องให้ทรงล้มเลิกความคิดนี้แต่โดยเร็วจะดีที่สุด”

“เอ๋ คำพูดของท่านราชครูหมายความว่าอย่างไร”

สายตาที่ไร้คลื่นอารมณ์ของเฟิ่งเหมียนหันไปมองที่ร่างของหลี่เมิ่งเอ๋อร์อีกครั้ง เอ่ยเสียงเย็นเรียบเฉยว่า “หญิงคนนี้หน้าผากกว้างและสูงกว่าปกติ เห็นได้ชัดว่าเป็นคนเจ้าแผนการ และมีชาติกำเนิดสูงส่ง นิสัยเอาแต่ใจมาตั้งแต่เด็ก ถ้าไม่ใช่ชายหนุ่มที่มีลักษณะหน้าผากสูงกว่านาง ภายหน้าจะต้องเกิดเรื่องทะเลาะเบาะแว้งกันแน่นอน”

“นอกจากนี้ คิ้วของนางหนาและสั้น ดูจากโหงวเฮ้งแล้วเป็นคนชอบเอาชนะไม่ยอมแพ้ นิสัยค่อนข้างใจร้อน มักจะโกรธง่าย และล่วงเกินคนรอบข้างได้ง่ายเช่นเดียวกัน เป็นหญิงที่โง่เขลาเบาปัญญา”

อวิ๋นหลิงฟังอย่างเพลิดเพลิน คิดว่าการทำนายดวงชะตาของท่านเณรน้อยก็มีความสามารถไม่เลว พูดได้มีเหตุผลมาก

เพียงแต่......เหมือนเขาจะดูเป็นปรปักษ์กับหลี่เมิ่งเอ๋อร์ผิดปกติ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ