ซูเล่อสูดหายเข้าลึกๆ ก่อนจะตัดสินใจอะไรบางอย่าง เธออยากทำงานที่แผนกการแปล แต่ดูแล้วคงต้องรอการประการรับสมัครครั้งต่อไปและทำการสอบเพื่อเข้ามาแทน เธอไม่อยากให้เฉิงถังนำเรื่องที่เธอใช้เส้นมาเล่นงานเธอ
บางทีอาจจะกระทบไปถึงฮั่วเหยียนเซียวที่เขาใช้อำนาจในทางไม่ชอบ ซูเล่อคิดถึงเรื่องนี้ ก่อนจะตัดสินใจลาออกจากการฝึกงาน
เมื่อเจิ้งจวิ้นชินเห็นซูเล่อกำลังเก็บของอยู่ เขาจึงรีบถามขึ้น “ซูเล่อ นี่คุณเก็บของทำไมกัน!”
ซูเล่อยิ้มตอบ “เจิ้งจวิ้นชิน ขอให้คุณได้อยู่ต่อนะ ฉันจะขอลาออกเพราะเหตุผลส่วนตัวน่ะ”
“ซูเล่อพวกเราจะได้เจอกันอีกไหม” เจิ้งจวิ้นชินรีบลุกขึ้น เขามีความตั้งใจที่จะจีบซูเล่อจริงๆ ไม่อยากพลาดเธอไปเพราะเรื่องแบบนี้
“มีวาสนาคงได้พบกัน” ซูเล่อพูดจบก็โบกมือลาคนอื่นๆ “ลาก่อนทุกคน”
เมื่อเห็นว่าเธอจะลาออก ชีหย่าและหยางเหมยมีท่าทีดีใจมาก “บายจ่ะ!”
ซูเล่อถือกระเป๋ามาที่หน้าประตูห้องทำงานของเฉิงถัง เธอเคาะประตูก่อนที่เฉิงถังจะอนุญาตให้เธอเข้ามา
“เข้ามา”
ซูเล่อผลักประตูเข้าไป เมื่อเฉิงถังเห็นเธอและเห็นกระเป๋าที่เธอถือมา ก็เข้าใจได้ทันที
“จะไปแล้วเหรอ” เธอเลิ่กคิ้วถาม
“ใช่ค่ะฉันจะลาออกจากแผนกการแปล แต่ถ้าปีหน้ามีโอกาสสมัครสอบล่ะก็ ฉันก็คิดไว้ว่าจะเข้ามาที่แผนกการแปลอยู่ดี” ซูเล่อพูดกับเธอด้วยร้ำเสียงจริงจัง
เฉิงถังยกยิ้ม “งั้นฉันจะบอกอะไรกับเธอตรงๆ นะ! ตราบใดที่ฉันยังอยู่ในตำแหน่งนี้ ฉันไม่มีวันให้เธอเข้ามาที่แผนกการแปลได้อีก”
ซูเล่อไม่มีท่าทีโมโหแต่อยากใด เธอพูดขึ้นนิ่งๆ “หัวหน้าเฉิง ก่อนที่ฉันจะไป ฉันอยากเตือนอะไรคุณไว้ อย่าเสียเวลาในวัยเยาว์ของคุณเลย คุณจะไล่ตามอะไรก็ได้บนโลกใบนี้ แต่สิ่งเดียวที่คุณไม่มีวันได้มาคือความรู้สึกของคน”
เฉิงถังหน้าเปลี่ยนสีไปหลายนาที “ซูเล่อ คุณมีสิทธิ์อะไรมาพูดแบบนี้กับฉัน”
“ฉันก็แค่เตือนสติคุณด้วยความหวังดี จะฟังไม่ฟังก็แล้วแต่คุณ” พูดจบ ซูเล่อก็ทำความเคารพเธอก่อนจะเดินจากไป
เฉิงถังลุกขึ้นยืนทันที สีหน้าเธอเต็มไปด้วยความเจ็บปวด เธอรู้ว่าการที่ตัวเองแข่งกับซูเล่อ เธอจะได้รับความสุขจากการเอาคืน แต่ในตอนนี้ที่ซูเล่อจากไป เธอกลับพบว่าคนที่เจ็บปวดมากกว่าใครคือตัวเธอเอง
ไม่เพียงแต่ไม่ได้ฮั่วเหยียนเซียวมาครอบครอง เธอยังทำอะไรซูเล่อไม่ได้อีก
“เธออยู่ไหน”
“ฉันมาเดินเล่นในบริษัท อีกสักพักคงจะกลับบ้านไปอยู่กับพ่อแม่” ซูเล่อตอบกลับ
“ฉันจะให้คนไปรับเธอ”
“รับฉันไปไหน”
“มาเจอกันหน่อย”
ในใจของซูเล่อเองก็คิดถึงเขามากเหมือนกัน เธอพยักหน้า “ได้สิ ฉันจะแชร์โลชั่นให้นะ”
ผ่านไปยี่สิบนาที รถของบอดี้การ์ดก็มาถึง เมื่อซูเล่อเข้าไปนั่งบนรถแล้ว บอดี้การ์ดก็ขับรถออกจากเขตเมืองศิวิไล ไปยังเขตเมืองอนุรักษ์
ซูเล่อเห็นฮั่วเหยียนเซียวในห้องน้ำชา เขานั่งอยู่หน้าโต๊ะน้ำชาโบราณทำให้เขาดูราวกับเป็นพระราชา
ส่วนข้างๆ ก็คือถันหยางที่กำลังจัดการเรื่องเอกสารงานให้เขา เมื่อเห็นว่าเธอเดินเข้ามา ถันหยางก็ยกยิ้มทักทาย “คุณหนูซู นั่งนี่สิครับ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักป่วน ๆ ฉบับแม่เลี้ยงเดี่ยว
ขอดูฟรีเพิ่มอีกได้ไหมค่ะตอนที่ 1120-1125...
ชอบค่ะ แต่ราคาปลดล็อคแพงไปนิดนึงค่ะ...
ปลดล๊อกเหรียญไม่ได้ ต้องทำยังไงบ้าง...
ชอบค่ะ แต่ช่วยปลดล็อคให้อ่านต่อได้ไหม ไม่มีเงินซื้ออ่านได้เลยค่ะ...
ค่าต่อการอ่านหน้าต่อไปแพงจังค่ะ...
มาแล้ว พึ่งเข้ามาดู...
รอๆๆคะ...
สรุปเรื่องไม่ไปต่อแล้วเหรอค่ะ ติดตามมาตลอดหายไปอีกรอบ เสียดายจังค่ะ กำลังสนุกเลย ด้วยเพราะเหตุผลอะไร ยังไงก็ขอขอบคุณค่ะที่ทำให้การอ่านมีความสุขกับตัวละครที่สร้างจินตนาการให้นะ่ค่ะ...
เรืองหยุดชะงักอีกรอบแล้ว ผู้แต่งไม่สบายหรือเปล่าค่ะ หรือติดอะไรยังก็ขอเป็นกำลังใจให้น่ะค่ะ รอการกลับมาของนิยายเรื่องนี้อยู่ตลอดค่ะ...
หายไป 3 วันแล้ว ไม่ลงตอนเพิ่ม มีอะไรไหมค่ะ แอดมิน.....