รักป่วน ๆ ฉบับแม่เลี้ยงเดี่ยว นิยาย บท 125

ในเมื่อเขาไม่ไป งั้นเธอไปเองก็ได้

ถังจือซย่าคว้ากระเป๋าเตรียมเดินออกไป ดวงตาของสีจิ่วเฉินกระตุก เขายื่นแขนออกไปคว้าข้อมือของเธอ แล้วดึงเธอเข้ามาในอ้อมกอด

ถังจือซย่าเซล้มเข้าไปในอ้อมกอดของเขาและแนบลงบนแผงอกของเขาพอดี

เธอเงยหน้าขึ้นมองเขาอย่างขุ่นเคือง ลมหายใจของชายหนุ่มปกคลุมใบหน้าของเธอ ดวงตาลุ่มลึกของเขาที่ระคนไปด้วยความประหลาดใจกำลังจดจ้องเธอ

ถังจือซย่าผลักเขาออก “สีจิ่วเฉิน อย่ามารุ่มร่ามนะ ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้!”

“ไม่ปล่อยแล้วจะทำไม” ชายหนุ่มเริ่มพูดจาไม่รู้เรื่องแล้ว ใครใช้ให้เธอทำให้เขารู้สึกกระวนกระวายแบบนี้กันเล่า

งานเลี้ยงดีๆ ในคืนนี้ เขาไม่มีกะจิตกะใจจะสนใจเรื่องอื่นเลย ใจกลับจดจ่ออยู่ที่เธอ คืนนี้ผู้หญิงคนนี้กวนใจเขาจริงๆ

“คุณ...” ถังจือซย่ายังคงออกแรงผลักเขาออก แต่วันนี้ชายหนุ่มสวมเสื้อเชิ้ตผ้าไหมแท้สีขาว มือของเธอจึงสัมผัสเข้ากับมัดกล้ามเนื้อแน่นแข็งของเขา

สองแขนของสีจิ่วเฉินโอบรัดเอวของเธอและประสานมือแน่นที่ด้านหลังของเธอ

ถังจือซย่าอยากจะบ้าตายแล้ว ผู้ชายคนนี้กำลังเล่นงี่เง่าอะไรเนี่ย อีกอย่าง อาจจะมีคนผลักประตูเข้ามาได้ทุกเมื่อ ถ้าหากถูกใครเห็นเข้า ชื่อเสียงเธอมิต้องพังไปหรือนี่

แล้วเรื่องซุบซิบนินทาที่หาว่าเธอยั่วยวนเจ้าชายแห่งตระกูลสี มิต้องกลายเป็นความจริงไปหรอกหรือ

เธอพยายามดิ้นรนขัดขืน แต่เขากลับจดจ่ออยู่กับการชื่นชมความงามของเธอ สายตาจดจ้องริมฝีปากแดงระเรื่อ คืนนี้สีลิปสติกของเธอเหมาะมาก ขับให้ริมฝีปากของเธอดูอวบอิ่มนุ่มนวล จนจิตใจของเขากระสับกระส่ายและอยากจะลิ้มลอง

จู่ๆ มือของชายหนุ่มก็ผ่อนแรงลง ถังจือซย่าคิดว่าเธอหลุดพ้นแล้ว แต่หารู้ไม่ว่า มือข้างหนึ่งของเขารวบเอวเธอไว้ มืออีกข้างหนึ่งประคองที่ต้นคอของเธอ ล็อกเธอไว้โดยสมบูรณ์

สายตาของชายหนุ่มพลันเปลี่ยนเป็นดุดันอันตราย

ความโกรธของถังจือซย่าพุ่งปรี๊ดเมื่อถูกริมฝีปากของเขาประทับลงบนริมปากแดง ของเธอ

มือขวาของถังจือซย่ายกขึ้น

“เพียะ!”

เสียงฝ่ามือที่กึกก้องอยู่ในห้อง ดังชัดเจนเป็นพิเศษ

ใบหน้าหล่อเหลาไร้ที่ติของชายหนุ่ม ถูกประทับด้วยนิ้วมือทั้งห้า

ดูเหมือนบรรยากาศในห้องจะหยุดนิ่ง สีหน้าของชายหนุ่มหม่นหมองลง ดวงตางดงามของถังจือซย่ากะพริบด้วยความโกรธและจ้องเขม็งไปที่เขาราวกับกุหลาบในเปลวเพลิง

“คุณลองจูบฉันอีกทีดูสิ” ถังจือซย่าไม่ต้องการถูกเขาเอาเปรียบซ้ำแล้วซ้ำเล่า เธอต้องการให้เขาเห็นว่า เธอไม่ใช่ผู้หญิงที่จะรังแกกันง่ายๆ

แต่ทว่า คราวนี้ชายหนุ่มโกรธจริงแล้ว ทันทีที่สิ้นสุดคำขู่ของเธอ เธอถูกกดลงบนโซฟา ร่างกายส่วนบนของชายหนุ่มโน้มทับเธอ เขายื่นหน้าที่มีรอยฝ่ามือเข้ามาใกล้ และประกบริมฝีปากสีแดงของเธอทันที

ลมหายใจของถังจือซย่าถูกยื้อแย่งไป ไอ้สารเลว!

รอยตบข้างเดียวยังไม่สมดุลพอหรือไง

มือขวาของเธอถูกกดตรึงเอาไว้ เธอจึงยกมือซ้ายขึ้น แต่วินาทีนั้นเอง มือซ้ายของเธอกลับถูกเขากดไว้เหนือศีรษะ และการจูบก็รุนแรงขึ้นอย่างไร้เหตุผล

เธอใช้พละกำลังทั้งหมดที่มีจนอ่อนแรง

ปากกับฟันพันกันพัลวัน

ภายใต้ความร้อนแรงและความแข็งแกร่งที่แผ่ออกมาจากร่างของชายหนุ่ม ถังจือซย่าเริ่มคล้อยตามเขาเหมือนดั่งลูกแมวน้อยตัวหนึ่ง

ในที่สุด ชายหนุ่มก็ยอมปล่อยเธอ เขาคลายมือจากเธอ ในที่สุด เธอก็มีเรี่ยวแรงด่าเขาแล้ว

“สีจิ่วเฉิน นายมันไอ้สารเลว! วิปริตสุดๆ”

แต่เขาลุกขึ้นแล้วเดินจากไป

เมื่อสีจิ่วเฉินออกไปแล้ว ถังจือซย่าดื่มน้ำดับกระหาย ในใจคิดว่า เมื่อสักครู่ทำไมเธอถึงไม่ตบให้แรงกว่านี้

ใครจะรู้เล่าว่า คุณชายใหญ่แห่งตระกูลสีผู้ซึ่งเป็นคนหนุ่มที่หญิงสาววัยกระเตาะในห้องจัดเลี้ยงด้านล่างล้วนอยากจะใกล้ชิดด้วยที่สุด แต่ผู้หญิงที่เขาเป็นฝ่ายเข้าหา กลับตบหน้าเขา

ในชีวิตของเขาไม่เคยรู้สึกเสียหน้าอย่างนี้มาก่อน

ในขณะที่ถังจือซย่ากำลังคิดว่าจะออกไปตอนนี้หรือไม่ โทรศัพท์มือถือของเธอก็ดังขึ้น เธอหยิบขึ้นมาดู พร้อมกับสูดหายใจเข้าลึกๆ แล้วเอ่ยขึ้นอย่างระมัดระวัง “สวัสดีค่ะ คุณย่าสี”

“จือซย่า หนูอยู่ที่ไหนหรือจ๊ะ ทำไมฉันไม่เห็นหนูเลย”

“หนูพักผ่อนอยู่ในห้องรับรองพิเศษค่ะ”

“ฉันอยู่ชั้นล่าง รีบลงมาเถอะ! ฉันอยากเจอหนูแล้ว” น้ำเสียงของนายหญิงใหญ่สีอ่อนโยนแต่มีพลัง

ถังจือซย่าอดไม่ได้ที่จะรู้สึกตระหนก เธอเพิ่งจะตบหลานชายสุดที่รักของนายหญิงใหญ่สีไปเมื่อครู่ หวังว่าเธอคงยังไม่รู้เรื่องนี้หรอก!

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักป่วน ๆ ฉบับแม่เลี้ยงเดี่ยว