รักป่วน ๆ ฉบับแม่เลี้ยงเดี่ยว นิยาย บท 124

สำหรับถังจือซย่าแล้ว จ้านฉิงเหย่ยืนกรานมั่นคง เขาต้องการจะแต่งงานกับเธอ ดูแลเธอ และอยู่กับเธอไปทั้งชีวิต ชีวิตของเขาจะเป็นของเธอแต่เพียงผู้เดียว

เมื่อได้ฟังจ้านฉิงเหย่พูดถึงคนที่เขาเพิ่งพบเจอมา สถานะของพวกเขาเหล่านั้นล้วนแต่เป็นยักษ์ใหญ่แห่งแวดวงธุรกิจ การจะได้พบเจอคนเหล่านี้ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย

“แต่ฉันว่าน่าเบื่อจะตาย” จ้านฉิงเหย่ถอนหายใจด้วยความเหนื่อยหน่าย แต่เมื่อเห็นสร้อยที่ข้อมือของเธอ เขาก็ยิ้มออก “ในที่สุดเธอก็ยอมใส่สร้อยที่ฉันให้แล้วหรือ”

ถังจือซย่ามองดูสร้อยข้อมือ “แน่นอนสิ นี่เป็นผลงานที่ฉันออกแบบเองนี่นา”

จ้านฉิงเหย่เป็นคนสั่งทำสร้อยข้อมือเส้นนั้น เมื่อถึงวันที่เธอส่งมอบให้เขา เขาก็มอบมันให้เธอทันที

ถังจือซย่าพูดอะไรไม่ออก เธอไม่อยากรับมัน แต่เขายืนยันที่จะให้ สุดท้าย ถังจือซย่าจำต้องรับสร้อยเส้นนี้มา

และในขณะนั้นเอง โทรศัพท์มือถือของจ้านฉิงเหย่ก็ดังขึ้น “ฮัลโหล ครับพ่อ”

“ฉิงเหย่ ครอบครัวคุณอาชังเซิ่งมาถึงแล้ว ลูกรีบมาที่นี่เร็ว”

“พ่อครับ ผมขออยู่กับเพื่อนไม่ได้หรือครับ”

“ฉิงเหย่ เพื่อนน่ะเดี๋ยวค่อยเจอกันก็ได้ แต่กับผู้ใหญ่ไม่ควรเสียมารยาทนะ รีบมาเร็วๆ” น้ำเสียงของพ่อเข้มงวดมาก

“พ่อครับ ผม...” จ้านฉิงเหย่ไม่รู้จะทำอย่างไรแล้ว คืนนี้พ่อของเขาคงไม่ยอมปล่อยเขาเป็นแน่

“นายไปเถอะ พวกเราเจอกันเมื่อไหร่ก็ได้” ถังจือซย่ายิ้มและกระตุ้นให้เขารีบไป

“ก็ได้ เธอรอฉันอยู่ที่นี่ก็แล้วกัน ฉันเสร็จธุระแล้วจะรีบกลับมา”

ถังจือซย่าก็ไม่ได้อยากไปไหนหรอก มีห้องหรูหราให้พักผ่อน เธอเองขี้เกียจจะลงไปข้างล่างเหมือนกัน

จ้านฉิงเหย่ออกไปแล้ว ถังจือซย่าหยิบแก้วชาผลไม้ขึ้นมาดื่มอย่างสบายใจ เธอหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นเตรียมจะเปิดข่าวอ่าน

เพิ่งจะผ่านไปไม่ถึงสองนาที เธอได้ยินเสียงคนผลักประตูเข้ามา เธอเงยหน้าขึ้นมองอย่างสงสัย ทำไมจ้านฉิงเหย่จึงกลับมาเร็วจัง

แต่เมื่อเงยหน้าขึ้น เธอต้องตกใจ

เธอเห็นชายหนุ่มที่ผลักประตูเข้ามา ไม่ใช่จ้านฉิงเหย่ แต่กลับเป็นสีจิ่วเฉินคนที่เธอไม่อยากเจอ

“คุณรู้ได้ยังไงว่าฉันอยู่ที่นี่” ถังจือซย่ามองเขาด้วยสายตาหงุดหงิดเล็กน้อย

ร่างกายสูงใหญ่กำยำของสีจิ่วเฉินเดินตรงเข้ามา เขาปิดประตู และนั่งลงบนโซฟาอย่างเป็นธรรมชาติ ดวงตาของเขาจ้องมองถังจือซย่า และเขาก็พูดเตือนเธอ “อยู่ให้ห่างจากฉิงเหย่เอาไว้”

นี่ไม่ใช่การหารือกับเธอ แต่เป็นคำสั่งที่ไม่อาจทัดทานได้

เมื่อถังจือซย่าได้ยินเขาพูดเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับจ้านฉิงเหย่ขึ้นมาอีก เธอรู้สึกไม่พอใจและพูดกลับไปว่า “ท่านประธานสี ได้โปรดห่วงเรื่องของตัวเองเถอะค่ะ ฉันกับจ้านฉิงเหย่จะมีความสัมพันธ์อะไรกัน ไม่จำเป็นต้องให้คุณมาก้าวก่าย”

สีจิ่วเฉินลดสายตาลงแล้วกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา “แม้ว่าคุณจะเคยช่วยชีวิตเขา แต่เท่าที่ผมรู้จักนิสัยของอาหญิงและอาเขยของผม พวกเขาไม่มีทางยอมรับคุณเป็นสะใภ้แน่นอน”

“ทำไมล่ะคะ” ถังจือซย่ากะพริบตาถี่ๆ

“สะใภ้ที่พวกเขาหมายมั่นจะต้องเป็นผู้หญิงจากตระกูลที่มีฐานะใกล้เคียงกัน” สีจิ่วเฉินชำเลืองมองเธอด้วยสายตาเย็นชา ราวกับว่าเธอต่ำต้อยมาก

ถังจือซย่าเองก็รู้ว่าเธอนั้นไม่คู่ควรกับจ้านฉิงเหย่ ดังนั้น จากก้นบึ้งของหัวใจ เธอต้องการเป็นแค่เพื่อนกับเขาเท่านั้น

ไม่กล้าที่จะคิดอะไรมากไปกว่านั้น

สีจิ่วเฉินเห็นเธอเม้มริมฝีปากและยังคงนิ่งเงียบ เขาจึงตระหนักได้ว่าคำพูดเมื่อสักครู่นี้ได้ทำร้ายศักดิ์ศรีความภาคภูมิใจของเธอแค่ไหน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นมันคือเรื่องจริง

คุณอาทั้งสองวางแผนการแต่งงานของลูกชายมาเนิ่นนานแล้ว และเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว คุณย่าของเขาก็ได้พูดถึงเรื่องนี้อยู่เช่นกัน คุณอาหญิงได้เล็งลูกสาวของตระกูลผู้ดีไว้แล้ว

ถังจือซย่าตอบกลับไปอย่างเจียมเนื้อเจียมตัว “ฉันรู้ตัวดีว่าฉันเป็นคนธรรมดาแค่ไหน ไม่ต้องให้คุณมาบอกหรอกค่ะ ฉันรู้จักฟ้าสูงแผ่นดินต่ำ”

เมื่อสีจิ่วเฉินเห็นว่าเธอมีท่าทีดูถูกตัวเอง คิ้วโค้งเรียวของเขาขมวดขึ้นเล็กน้อย “ผมไม่ได้มีเจตนาจะดูถูกคุณ”

“ก็เห็นไม่จำเป็นต้องให้เกียรติฉันนี่คะ” ถังจือซย่าโต้กลับอย่างเฉยเมย และเมื่อนึกถึงภาพของเขาและซ่งซานเดินควงคู่กันในห้องอาหาร เธอยิ่งรู้สึกหงุดหงิด

ยิ่งเขาใกล้ชิดกับซ่งซานมากเท่าไร เขาควรจะอยู่ให้ห่างจากเธอมากยิ่งขึ้น จะได้ไม่สร้างความรำคาญให้เธอ

“ถังจือซย่า คืนนี้คุณควรอยู่ให้ห่างจากจ้านฉิงเหย่ไว้ คุณไม่รู้หรอกว่าคุณอาจจะไปเหยียบเท้าใครเข้า” สีจิ่วเฉินเตือนเธออีกครั้ง

ถังจือซย่ามองเข้าไปในดวงตาที่มีลับลมคมในของเขาด้วยความรู้สึกรำคาญ “คุณพูดจบหรือยังคะ”

สีจิ่วเฉินรู้สึกไม่สบอารมณ์เมื่อเห็นท่าทางดื้อรั้นของเธอ เหตุใดเธอจึงไม่ฟังคำของเขาเลย

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักป่วน ๆ ฉบับแม่เลี้ยงเดี่ยว