สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์ นิยาย บท 1007

ทุกคนอดไม่ได้ที่จะมองหน้ากัน ต่างนึกถึงพฤติกรรมก่อนหน้านี้ของชาวตงหลิว

ครั้งนี้ลงจอดบนเกาะง่ายเกินไป ง่ายจนพวกเขาเกือบลืมไปว่าชาวตงหลิวเก่งเรื่องไศยศาสตร์มนต์ดำเช่นนี้

ในการรุกรานเป่ยไห่ครั้งก่อน ยังมีหลายคนที่ได้รับบาดเจ็บด้วยวิธีเดียวกัน

ศิษย์คนหนึ่งอดไม่ได้ที่จะสาปแช่ง “เจ้าผีตงหลิวโง่เขลา ถ้าเก่งนักก็ไสหัวออกมา สู้ตายกับข้า”

ทันทีที่คนผู้นั้นพูดจบ ศิษย์สองคนก็วิ่งมามา โดยอุ้มศพของศิษย์สำนักเทียนเตาที่เสียชีวิตไปก่อนหน้านี้

มีคนตะโกนอย่างเศร้าเสียใจ “ศิษย์พี่หลิว!”

เย่จิ่งหลานรุดหน้าไปตรวจบาดแผลทันที หัวใจของคนผู้นั้นหายไป ไม่มีทางช่วยชีวิตได้

มีคนทยอยเสียชีวิตไปสองคน หัวใจของทุกคนก็เต็มไปด้วยเมฆดำมืด

“คุณชายน้อยเย่ เราควรทำอย่างไรดี”

สีหน้าของฮวาเชียนก็ดูยุ่งยากเช่นกัน

เย่จิ่งหลานครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดว่า “ถอยกลับไปที่วังของพวกเขาก่อน หวังซุ่น เจ้ามากับข้า”

เดิมทีเย่จิ่งหลานไม่ต้องการให้หวังซุ่นเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ แต่ตอนนี้เขาต้องเปลี่ยนใจ

หวังซุ่นเป็นคนท้องถิ่น สามารถสื่อสารกับคนในท้องถิ่นได้อย่างง่ายดาย แม้ว่าเขาจะเข้าใจภาษาตงหลิว แต่ก็ไม่สามารถเข้าใจได้ทั้งหมด สำเนียงท้องถิ่นบางคำเขาก็ยังไม่เข้าใจ

ทุกคนอุ้มศพทั้งสองกลับไปที่วังเล็กๆ ของจักรพรรดิ พวกเขาพบกับฮั่วเทียนเฉิงระหว่างทาง เมื่อมองดูศิษย์สองคนที่เสียชีวิตอย่างน่าอนาถ ฮั่วเทียนเฉิงก็ขมวดคิ้ว แต่ไม่ได้ถามคำถามใดๆ

“ไปหาคนแก่มา”

เย่จิ่งหลานนั่งอยู่บนม้านั่ง ใบหน้าเล็กนิ่งขึงจริงจังราวกับน้ำ

ชั่วขณะหนึ่ง ชายชราในวัยหกสิบเศษถูกบรรดาศิษย์ผลักให้ล้มลงกับพื้น

“ที่นี่เกิดอะไรขึ้นกันปน่”

เย่จิ่งหลานถามด้วยภาษาตงหลิว

ชายชราเงยหน้าขึ้นด้วยความประหลาดใจ ราวกับว่าเขาไม่เคยคิดว่าเด็กคนนี้จะพูดภาษาของพวกเขาได้

ศิษย์จากหอสีเจี้ยนไปเตะเขา พูดอย่างเกลียดชัง “พูดเร็ว ไม่งั้นข้าจะแทงเจ้าซะ”

เห็นได้ชัดว่าชายชราตกใจมาก พูดเสียงสั่นเทา “ข้าไม่รู้ รู้แค่ว่าจักรพรรดิถูกคนลักพาตัวในวันที่ออกเดินไปสู้ จากนั้นถ้ำที่ซ่อนตำราลับก็พังทลายลง ส่วนเรื่องอื่น เราไม่รู้”

ชายชราลำล่ำละลักพูดอย่างรวดเร็ว เย่จิ่งหลานมองไปที่หวังซุ่นทันที ซึ่งหวังซุ่นก็แปลคำพูดของเขาอย่างไม่ขาดตกบกพร่อง

เย่จิ่งหลานถามอีกครั้ง “ฝีมือใคร”

ชายชราพูดอย่างสั่นเทา “ไม่รู้ พวกเราได้ยินเสียงกรีดร้องของทหารองครักษ์ เมื่อมาที่นี่ก็รู้แล้วว่ามีเรื่องร้ายเกิดขึ้น พวกเราไปหาที่ถ้ำ ก็พบว่าจักรพรรดิถูกบดจนตายแล้ว”

หวังซุ่นถามอีกครั้ง “ช่วงนี้มีคนนอกหรือเปล่า”

ชายชราส่ายหัว

“ไม่มี”

เย่จิ่งหลานถามคำถามเพิ่มเติมอีกสองสามข้อ แต่ชายชราก็ตอบว่าไม่รู้ จึงอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว

“พามาอีกคน”

ต่างถูกสอบปากคำทีละคน ซึ่งคำตอบส่วนใหญ่ก็เหมือนกัน

การข้ามน้ำระยะทางยาวไกลแบบนี้ อาศัยกำลังเพียงคนเดียวนั้นเป็นเรื่องยาก ที่นี่ไม่มีเครื่องมือในการข้ามทะเล จึงสรุปได้ว่า โอกาสที่บุคคลภายนอกมา มีโอกาสน้อยมาก

หากการคาดเดาเป็นจริง แล้วเกิดอะไรขึ้นบนเกาะตงหลิวกันแน่

“หยุดฆ่าคนตงหลิวชั่วคราว หวังซุ่น เจ้าไปสอบถาม ดูว่าเจ้าหาเบาะแสอะไรได้หรือไม่”

จากนั้น เขาก็เพิ่มอีกประโยค

“ต้องระวังความปลอดภัยด้วย ทางทีจงใช้การเปลี่ยนหน้า”

หวังซุ่นเหลือบมองเย่จิ่งหลานอย่างรู้สึกขอบคุณ และพูดด้วยความเคารพว่า “ข้าน้อยน้อมรับคำสั่ง”

หลังจากที่หวังซุ่นจากไป เย่จิ่งหลานก็มองไปที่ฮั่วเทียนเฉิงอีกครั้ง

บทที่ 1007 คัมภีร์ศีลธรรมจรรยา 1

บทที่ 1007 คัมภีร์ศีลธรรมจรรยา 2

บทที่ 1007 คัมภีร์ศีลธรรมจรรยา 3

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์