ในขณะที่อินชิงเสวียนตกตะลึง เย่จิ่งอวี้ก็อุ้มร่างของสวีจือย่วนออกไปแล้ว
เมื่อเห็นท่าทางรีบร้อนเหมือนดาวที่รีบตก อินชิงเสวียนก็จิ๊ปากเบาๆ
หรือว่านี่เป็นรักแรกพบตามตำนานที่กล่าวไว้
เพียงแต่นางไม่รู้ว่าสำนักหมอหลวงอยู่ที่ใด
เย่จิ่วอวี้คนสารเลวคนนี้ คิดว่านางรู้ไปหมดทุกอย่างจริงๆ หรือ!
อินชิงเสวียนเดินสุ่มไปเรื่อยๆ ก็ไม่เจอ แต่ไม่รู้ว่านางเดินอย่างไรถึงได้มาอยู่ที่ตำหนักชิงฮว๋าของเย่ไห่ถังเสียได้
เย่ไห่ถังกำลังเล่นว่าวอยู่ข้างศาลาเล็กๆ นอกเรือน อวิ๋นเฟิงชี้ไปที่อินชิงเสวียน แล้วพูดว่า “องค์หญิง เสี่ยวเสวี่ยนจื่อกงกงเพคะ”
เย่ไห่ถังยังคงคิดถึงขนมเปี๊ยะของอินชิงเสวียนอยู่ ดังนั้นนางจึงรีบส่งสายว่าวให้กับนางกำนัลน้อยที่อยู่ข้างๆ
“เสี่ยวเสวียนจื่อกงกง!”
อินชิงเสวียนจึงเห็นเย่ไห่ถัง จึงรีบวิ่งไปหาอย่างรวดเร็ว
“ถวายพระพรองค์หญิง ขอองค์หญิงช่วยชี้ทางให้กระหม่อม กระหม่อมต้องรีบไปหาหมอหลวงที่สำนักหมอหลวง”
เย่ไห่ถังถามด้วยความประหลาดใจ “เสด็จพี่ใหญเป็นอะไรงั้นหรือ”
อินชิงเสวียนรีบพูด “องค์หญิงไม่ต้องกังวล เป็นนายหญิงที่ตกน้ำพ่ะย่ะค่ะ”
เย่ไห่ถังถอนหายใจด้วยความโล่งอกและพูดกับอวิ๋นเฟิงว่า “พาเสี่ยวเสวียนจื่อไปสำนักหมอหลวง”
“ขอบพระทัยองค์หญิง”
อินชิงเสวียนเหลือบมองดูว่าวธรรมดาๆ ที่เย่ไห่ถังถืออยู่ แล้วพูดว่า “เมื่อกระหม่อมว่าง กระหม่อมจะนำว่าวสวยๆ มามอบให้องค์หญิง”
เย่ไห่ถังโบกมือด้วยท่าทางมีชีวิตชีวา “ได้ รีบไปเถอะ”
อินชิงเสวียนประกบมือโค้งคำนับ “เช่นน้องต้องขอบคุณมากพี่อวิ๋นเฟิงแล้ว”
อวิ๋นเฟิงเม้มริมฝีปากยิ้มๆ “ไม่ต้องเกรงใจ เสี่ยวเสวียนจื่อกงกง เชิญทางนี้”
อินชิงเสวียนเดินตามอวิ๋นเฟิงไปเรื่อยๆ ในไม่ช้าก็เห็นเรือนประสานสามวงหลังใหญ่ มีคำว่าสำนักหมอหลวงสลักอยู่
อวิ๋นเฟิงเดินเข้ามาก่อน ถามด้วยน้ำเสียงฉะฉาน “ไม่ทราบว่าวันนี้มีใต้เท้าท่านใดเป็นผู้รับผิดชอบอยู่ มีนายหญิงตกลงไปในน้ำ ฝ่าบาทรับสั่งให้พวกท่านรีบไปตรวจ”
ชายชราในวัยหกสิบเศษเดินออกจากห้อง ประกบมือพูดว่า “ที่แท้ก็เป็นแม่นางอวิ๋นเฟิง ไม่ทราบว่านายหญิงพำนักอยู่ที่ใด ข้าจะไปตรวจเดี๋ยวนี้”
อินชิงเสวียนเช็ดเหงื่อ
“ฝ่าบาทพานายหญิงไปที่ตำหนักเฉิงเทียนแล้ว รบกวนใต้เท้ารีบหน่อยเถิด”
“ได้ๆ”
หมอหลวงเฒ่าเรียกหาลูกศิษย์ทันที หยิบกล่องยาขึ้นมาแล้ววิ่งไปที่ตำหนักเฉิงเทียน
“ต้องขอบคุณพี่สาวอวิ๋นเฟิงแล้ว ข้าต้องกลับไปก่อน”
อินชิงเสวียนกล่าวคำลากับอวิ๋นเฟิงต่อ
อวิ๋นเฟิงเหลือบมองอินชิงเสวียนด้วยดวงตาคู่งาม แล้วรู้สึกเอียงอาย
“เสี่ยวเสวียนจื่อกงกงค่อยๆ เดิน”
ระหว่างทางกลับ อินชิงเสวียนสงบลมหายใจ ชะลอฝีเท้าให้ช้าลง
เมื่อครู่รีบร้อนมาก วิ่งวุ่นจนเจ็บหน้าอก
อย่างไรผู้ที่ตกน้ำก็ถูกช่วยขึ้นมาได้แล้ว ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร
เมื่อคิดถึงเพลงเศร้านั้น นางก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ นายหญิงสวีผู้นี้ก็คงเป็นคนที่มีเรื่องราวเช่นกัน
ถ้านางได้รับความโปรดปราน ก็นับว่าได้กำไรแล้ว
เพียงแต่ว่าการได้รับความโปรดปรานนี้ จะโปรดปรานได้นานเท่าใด
วังหลังมีสตรีนับไม่ถ้วน เป็นการยากที่จะรับประกันได้ว่าเมื่อตกน้ำแล้ว จะบังเอิญถูกพบเข้า คิดๆ ดูแล้วก็น่าเศร้าที่สตรีมากมายเช่นนี้กลับต้องคอยดูสีหน้าของบุรุษเพียงผู้เดียว
อินชิงเสวียนถอนหายใจ กุมท้องเดินไปข้างหน้าช้าๆ
เมื่อกลับไปถึงตำหนักเฉิงเทียน ก็ผ่านเรื่องไปครึ่งชั่วยามแล้ว
ทันทีที่เข้าไปในประตู ก็พบกับหมอหลวงเฒ่า อินชิงเสวียนรีบถาโดยเร็ว “ท่านหมอหลวง นายหญิงท่านนั้นเป็นอะไรหรือไม่”
หมอหลวงเฒ่ายิ้มแล้วพูดว่า “ไม่เป็นไร แค่สำลักน้ำ สักพักก็ตื่นได้แล้ว”
“ขอบคุณท่านหมอที่แจ้งให้ทราบ”
อินชิงเสวียนกล่าวขอบคุณอย่างสุภาพ กุมท้องมรายังไม่หายดีเดินเข้าตำหนักเฉิงเทียน
ข้างในว่างเปล่า ไม่มีผู้ใดอยู่เลย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์
ตัวโกงเก่งกว่าคนดีแถมคนชั่วร้ายก็มีอยู่มากมายทั้งนอกทั้งในแบบนี้จะสู้ศึกไหวเหรอ...
มันเป็นพวกไหนกันแน่นะที่บ่อนทำลายชาติ ที่สำคัญจะเป็นคุณชายใหญ่ตระกูลอินด้วยหรือเปล่า...
คนที่แสดงตัวเป็นพี่ใหญ่ไม่น่าจะเป็นตัวจริงเพราะมีพฤติกรรมลับลมคมในเรื่องต่างๆและทำให้เรื่องต่างๆแย่ลง เหมือนว่าจะหลงรักน้องสาวตัวเองเลยไม่รู้ว่าเป็นน้องแท้ๆหรือเปล่า...
มีคนเล่นตุกติกกับชุดของเด็กแล้วอยู่ในวังต้องระมัดระวังก็รู้อยู่นะคราวนี้ผ่านมาทางคนที่สนิท...
ดีจริงแทนที่จะเสียคะแนนได้คะแนนมาเพิ่มอีก...
ทางด้านกลยุทธ์น่าจะได้แต่ทางด้านวรยุทธหรือพละกำลังน่าจะไม่ไหวดังนั้นต้องพิสูจน์ตัวเอง...
อายุยังไม่ทันถึง 6 เดือนเลยละมั้งทำไมพูดคุยได้แล้วเก่งจริง...
โกหกครั้งหนึ่งก็ต้องโกหกต่อๆไป...
ความแตกแล้วมั้งเนี่ย...
เกือบไปแล้ว...