สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์ นิยาย บท 1173

สรุปบท บทที่ 1173 เจ้าสำนักฉุยได้โปรดยอมรับด้วย: สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์

บทที่ 1173 เจ้าสำนักฉุยได้โปรดยอมรับด้วย – ตอนที่ต้องอ่านของ สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์

ตอนนี้ของ สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์ โดย GoodNovel ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายโรแมนติกทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 1173 เจ้าสำนักฉุยได้โปรดยอมรับด้วย จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที

เย่จิ่งหลานหงุดหงิด แต่ก็ยังพูดอย่างอดทน “ข้าเองก็ไม่รู้ สิ่งเดียวที่ผิดแปลกก็มีแค่เรื่องนี้ ส่วนเรื่องอื่น ข้าไม่รู้อะไรเลย”

อินชิงเสวียนพูดด้วยน้ำเสียงที่ชัดเจนว่า “ตามสุภาษิตที่กล่าวไว้ว่า เมื่อมีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้น ย่อมมีสาเหตุบางอย่าง ในเมื่อโมริตะคาวาสึบาเมะเป็นคนที่ถูกเนรเทศ เช่นนั้นจึงต้องเป็นคนชั่วช้าสามานย์อย่างที่สุด เขาสามารถซ่อนตัวอยู่ในเกาะตงหลิวมานานหลายปี กระทำความชั่วร้ายนับไม่ถ้วน แต่กลับไม่กระตุ้นศิลาตอบสวรรค์ เขาต้องมีวิธีการบางอย่างเป็นแน่ ตอนนี้เกาะตงหลิวถูกทำลายไปแล้ว เขาจะเกลียดแค้นเย่จิ่งหลานก็เป็นเรื่องที่เข้าใจได้”

เย่จิ่งอวี้พยักหน้าและกล่าวว่า “เสวียนเอ๋อร์วิเคราะห์สมเหตุสมผล ท่านนักพรตโปรดตรวจสอบอย่างละเอียดด้วย”

ชิงหมิงครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดว่า “เรื่องนี้อาตมภาพไม่สามารถตัดสินใจได้ จะส่งจดหมายถึงอาจารย์เพื่อให้ท่านตัดสินใจ หากมีความจำเป็นต้องขอความร่วมมือจากโยม ก็โปรดอย่าหลบเลี่ยง”

เย่จิ่งหลานได้ยินเช่นนั้นก็รู้สึกไม่สบอารมณ์ ขณะที่กำลังจะอ้าปาก อินชิงเสวียนก็ห้ามเขาไว้

“หากท่านนักพรตปฏิบัติด้วยความยุติธรรม เราจะให้ความร่วมมือเป็นแน่ หากเจ้ามีความลำเอียงในใจ เราจะไม่นิ่งดูดายไม่สนใจแน่นอน”

ชิงหมิงโค้งคำนับเล็กน้อย

“แม่นางโปรดวางใจ ไม่มีทางเกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้นแน่ ขอตัวก่อน”

ร่างของชิงหมิงวิบวับ ตัวคนก็หายไปแล้ว ขณะเดินเหินนั้นไม่ส่งเสียงใดๆ ออกมาเลย ซึ่งแสดงให้เห็นว่าคนผู้นี้มีพลังลึกล้ำเพียงใด

อินชิงเสวียนอดไม่ได้ที่จะกล่าวอย่างทอดถอนใจ “คิดไม่ถึงว่านักพรตเต๋าจะฝึกกำลังภายในได้เช่นนี้ คนจริงมักไม่เปิดเผยตัวตน คนเปิดเผยตัวตนอาจไม่ใช่คนจริง”

เย่จิ่งอวี้พยักหน้าและกล่าวว่า “อาจารย์ของพวกเขาคงจะเป็นปรมาจารย์ลัทธิเต๋าที่อารามซ่างชิงกวน คนผู้นี้ลึกล้ำยากที่จะคาดเดาได้ หวังว่าความเข้าใจผิดนี้จะคลี่คลายได้อย่างสมบูรณ์ ถ้าต้องเผชิญหน้ากับพวกเขา เกรงว่าจะรับมือได้ยาก”

เย่จิ่งหลานแค่นเสียงหึและพูดว่า “ไม่เป็นไร นี่เป็นเรื่องของข้า ข้าจัดการเองได้”

อินชิงเสวียนเหลือบมองเขาและขมวดคิ้วเล็กน้อย

“ทำไมจู่ๆ เจ้าถึงกลายเป็นคนฉุนเฉียวนักล่ะ”

เย่จิ่งหลานยักไหล่

“งั้นหรือ”

“ใช่”

อินชิงเสวียนพูดขึ้น แล้วถามว่า “แล้วนักพรตเต๋าสองคนนั้นเจ้าตั้งใจจะกักตัวไว้ตลอดเลยหรือเปล่า”

อย่างไรก็ตาม นางก็รู้สึกได้ถึงการเปลี่ยนแปลงในตัวของเย่จิ่งหลาน

“อาอวี้พูดถูก ข้าจะหาเวลาคุยกับเขา เรากลับก่อนเถอะ”

ขณะที่สองคนผัวเมียกลับไปยังที่พักหิน ฉุยอวี้ก็ได้ติดตามฉางเฮิ่นเทียนไปยังที่พักของเขาแล้วเช่นกัน

ฉางเฮิ่นเทียนขุดหินกรวดออกมา แล้วหยิบม้วนหนังสือโบราณออกมาจากข้างใน

“นี่คือสิ่งที่เป็นของอิ๋นเฉิง เชิญเจ้าสำนักฉุยพิจารณา”

ฉุยอวี้ยื่นมือออกไปหยิบ กวาดสายตาปราดเดียว

นี่ไม่ใช่วิชาฝังโลหิต แต่เป็นหนังสือฝึกพลังยุทธ์ที่ฉุยอวี้ไม่เคยเห็นมาก่อน แบ่งออกเป็นสองเล่มคือพลังภายใน และวิชากระบี่ มันช่างวิจิตรบรรจงมาก จนฉุยอวี้อดไม่ได้ที่จะหลงใหล

พลิกดูไปได้หลายหน้า แต่กลับหายไปแล้ว อดไม่ได้ที่จะหันกลับมาถามว่า “แล้วหน้าข้างหลังล่ะ?”

ฉางเฮิ่นเทียนคุกเข่าลงและพูดว่า “ข้าน้อยอยู่ที่นี่ไร้ผู้ให้พึ่งพา ย่อมต้องเหลือข้อมูลสำรองไว้สำหรับตัวเอง หวังว่าเจ้าสำนักฉุยจะไม่รังเกียจและยอมรับด้วย”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์