สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์ นิยาย บท 1364

“สมแล้วที่เป็นลูกชายข้า มีวิสัยทัศน์”

เสียงที่ชัดเจนของเย่จิ่งอวี้ดังมาแต่ไกล และในชั่วพริบตา เขาก็ใกล้เข้ามาแล้ว เสื้อผ้าที่ถูกลมพัดยังไม่สงบนิ่ง เขาก็ถือตะกร้าไม้ไผ่ที่บรรจุกุ้งมังกรน้อยไว้ในมือแล้ว

เสี่ยวหนานเฟิงได้รับการยอมรับจากพ่อ ทันใดนั้นมุมปากก็ยกขึ้นอย่างมีความสุข

อินชิงเสวียนกลอกตามองเย่จิ่งอวี้ด้วยความโกรธ

“ท่านคงเป็นคนสอนมา”

เย่จิ่งอวี้อุ้มเสี่ยวหนานเฟิงขึ้น แล้วพูดด้วยรอยยิ้ม “แม่ของเจ้าโกรธอีกแล้ว เราหนีไปกันเถอะ”

ลูกโตขนาดนี้ เป็นวัยที่กำลังชอบสนุก เขาโอบรอบคอของเย่จิ่งอวี้ ส่งเสียงหัวเราะออกมาราวกับระฆังเงิน

เมื่อมองตามสองพ่อลูกที่เดินจากไปไกล อินชิงเสวียนก็ลูบหน้าท้องที่ยื่นออกมาเล็กน้อยโดยไม่รู้ตัว

อยากรู้ว่าลูกสาวของนางจะมีนิสัยแบบไหน นางจะซุกซนหรือเชื่อฟัง

ทุกครั้งที่นางคิดถึงชีวิตน้อยๆ ที่กำลังอยู่ในครรภ์และเติบโตในท้องของนาง อินชิงเสวียนก็รู้สึกถึงความมหัศจรรย์มาก

สถานที่แห่งนี้อยู่ไม่ไกลจากโรงเตี๊ยม นางไม่ได้ใช้วิชาตัวเบา ค่อยๆ เดินกลับไปอย่างแช่มช้า

เวลานี้เป็นฤดูใบไม้ร่วงแล้ว อุณหภูมิในเทือกเขาเชื่อมเมฆาก็เย็นกว่าในเมืองหลวงมาก จึงอดไม่ได้ที่จะเพลิดเพลินไปกับสายลมที่เย็นสบาย

ถ้าวันหนึ่งได้อยู่ไกลจากวังหลวง มาเป็นผู้ชายทำนาผู้หญิงทอผ้าอยู่ที่นี่ คงจะมีความสุขแค่ไหน!

ไป๋เสวี่ยกับเจ้าขาวต่างก็เดินตามหลังอินชิงเสวียน เฝ้าปกป้องนางอย่างสุดใจ เมื่อเปรียบเทียบกับเย่จิ่งอวี้ที่เป็นเจ้านาย ไป๋เสวี่ยจะใกล้ชิดสนิทสนมกับอินชิงเสวียนมากกว่า

เมื่อมาถึงประตู หวังซุ่นกำลังแปรงกุ้งมังกรน้อยอยู่

ในห้องที่เต็มไปด้วยผู้อาวุโสและเจ้านาย มีเขาเป็นบ่าวเพียงคนเดียว เขาทำได้เพียงแบกรับภาระอันหนักหน่วงที่ต้องทำงานหนักทั้งน้ำตา เพื่อทำให้ทุกคนเบิกบานใจ

“ฮองเฮา ท่านกลับมาแล้ว”

หวังซุ่นเช็ดเหงื่อออก รอยยิ้มดูน่าเกลียดมากกว่าการร้องไห้

อินชิงเสวียนโบกมือและนำบุหรี่ชั้นยอดออกมา

“ให้รางวัลเจ้าถือว่าเป็นค่าจ้าง”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์