ตอน บทที่ 1369 ท่านราชาคงไม่ได้ใจอ่อนกระมัง จาก สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์ – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง
บทที่ 1369 ท่านราชาคงไม่ได้ใจอ่อนกระมัง คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายโรแมนติก สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์ ที่เขียนโดย GoodNovel เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย
แม้ว่าจะมีเย่จั้นดูแลเมืองหลวง และยังมีอินจ้งกับลูกชายช่วยเหลือ แต่อย่างไรบ้านเมืองก็ยังคงเป็นของเย่จิ่งอวี้ มีบางเรื่องที่เย่จั้นไม่สามารถล้ำเส้นได้
เป็นเวลาหลายเดือนแล้วตั้งแต่เย่จิ่งอวี้ออกมา หากจะยอมสละทั้งแคว้น เพื่อมุมหนึ่งของเทือกเขาเชื่อมเมฆานั้น เป็นสิ่งที่ไม่ฉลาดเลย
เย่จิ่งอวี้จับมือเล็กนุ่มนิ่มของนาง ยกมุมริมฝีปากขึ้นเป็นรอยยิ้ม
“เป็นความผิดของข้าเอง ข้าไม่ควรพูดเรื่องนี้ ทำให้เสวียนเอ๋อร์กังวลโดยไม่มีเหตุผล ในเมื่อได้มอบหมายให้เสด็จอากับแม่ทัพอินแล้ว เช่นนั้นจึงควรเชื่อในความสามารถของพวกเขา นี่คือสิ่งสำคัญอันดับแรกที่แท้จริง ในเมื่อราชาแห่งแคว้นเฟยเหยากำเนิดใหม่ที่นี่ เช่นนั้นสถานที่แห่งนี้จะกลายเป็นสนามรบหลักอย่างแน่นอน เมื่อใดที่ยุทธจักรพ่ายแพ้ กองทัพหลวงในราชสำนักจะจัดการกับคนแปลกๆ ที่มีทักษะวรยุทธ์ที่ไม่มีใครเทียบได้อย่างไร”
เขาถอนหายใจเบาๆ และพูดว่า “จริงๆ แล้ว ก่อนที่ข้าจะไปเป่ยไห่ ข้าไม่เข้าใจตลอดว่าทำไมพวกเขาไม่ขอความช่วยเหลือจากราชสำนัก เป่ยไห่มีการจัดตั้งหน่วยบัญชาการรบ ยังมีกองทหารประจำการอยู่ที่นั่น จนกระทั่งข้าเห็นคนตงหลิวเหล่านั้น ข้าถึงได้เข้าใจถึงความแตกต่างระหว่างยอดฝีมือกับคนธรรมดา”
อินชิงเสวียนเห็นพ้องต้องกันอย่างที่สุด
“ข้าก็ไม่เข้าใจเช่นกัน หลังจากนั้นถึงได้รู้อีกว่า ด้วยวรยุทธ์ของท่านตาที่ยอดเยี่ยมมากขนาดนั้น ถ้าใช้พิณการเวกต่อสู้กับศัตรู เกรงว่าแม้แต่คนหลายร้อยคนก็ไม่สามารถต่อกรกับเขาได้”
“อื้ม ดังนั้นตอนนี้อย่าเพิ่งกังวลเรื่องในเมืองหลวง มีเพียงการปกป้องที่นี่ไว้ให้ได้ พลังอำนาจของพวกเขาถึงจะไม่แพร่กระจายไปยังที่อื่น”
หลังจากได้ยินคำพูดของเย่จิ่งอวี้แล้ว อินชิงเสวียนก็รู้สึกโล่งใจเล็กน้อย การวิเคราะห์ของฮ่องเต้น้อยนั้นสมเหตุสมผลมาก หากเขาจากไป ความแข็งแกร่งของฝ่ายตนจะอ่อนแอลงอย่างมาก พลังแห่งฟ้าดินในตัวเขา เหมือนจะมีความสามารถในการควบคุมเงาดำนั้นได้
ในขณะที่คู่สามีภรรยากำลังคุยกัน เงาหมอกก็ปรากฏขึ้นบนยอดเขาที่อยู่ห่างออกไปหลายสิบลี้
ห่างออกไปสิบก้าว มีกลุ่มคนคุกเข่าลงบนพื้นด้วยความเคารพ ทางซ้ายมือของพวกเขา คือชิงฮุยที่ยืนนิ่งชายเสื้อไหวพลิ้ว
“น้อมคำนับท่านราชา แห่งแคว้น เราจะพยายามฟื้นฟูแคว้นและสร้างความรุ่งโรจน์ของเมืองแห่งนภาขึ้นมาใหม่!”
“พวกเจ้าทุกคนลุกขึ้นเถิด”
เงาหมอกยืนมือขึ้นลอย ทุกคนก็ลุกขึ้นยืนเองโดยไม่ตั้งตัว
“ข้าไม่ได้ส่งคำสั่งให้เจ้ามาที่นี่ แล้วทำไมเจ้าถึงโจมตีอิ๋นเฉิงเร็วขนาดนี้”
เขาค่อยๆ เงยหน้าขึ้นและมองไปที่เงาดำ
“ตอนนี้เป็นโอกาสที่ดี ชาวเผ่าทุกคนกำลังมาที่นี่ ท่านราชาควรตัดสินใจอย่างเด็ดขาด เพื่อให้ได้ชัยชนะอย่างรวดเร็ว”
เงาดำแค่นเสียงหึและพูดว่า “แม้ว่าจะไม่มีใครมาช่วยเหลือ อิ๋นเฉิงและตำหนักเทพก็ยังยากที่จะจัดการได้อยู่ดี หุนหันพลันแล่นเช่นนี้ เจ้าต้องการที่จะฆ่าพวกเขางั้นหรือ”
ใบหน้าของชิงฮุยยังคงเรียบเฉย น้ำเสียงดังชัดเจน
“แม้ว่าสถานที่ทั้งสองแห่งนี้จะเป็นที่ตั้งของสำนักวรยุทธ์ที่สำคัญ แต่ก็มียอดฝีมือที่แท้จริงเพียงไม่กี่คน ในเมื่อท่านราชาสามารถเข้าไปตีสนิทกับพวกเขาได้ ทำไมไม่ฆ่าพวกเขาทีละคน”
เงาดำไม่ได้พูดอะไร ดวงตาทั้งคู่ถูกซ่อนอยู่ในหมอกสีดำ ความคิดในใจนั้นยากที่จะเข้าใจ
ชิงฮุยก้าวไปข้างหน้าแล้วพูดว่า “ท่านราชาคงไม่ได้ใจอ่อนกระมัง”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์
น่าจะต้องมีเล่มต่อรึเปล่าคะ เหมือนยังไม่จบเพราะตอนสุดท้ายเห็นว่ามีชนเผ่ามาเยือนโดยไม่ได้นัดหมาย...
สนุกมากค่ะ ขอบคุณที่ลงจนจบค่ะ❤️❤️...
แย่จิ่งหลานเอ๋ย ในมิติไม่มียาสลบหรือ เอามาแทงคอตอนเผลออะไรอย่างนี้ให้หลับไป...
ขอบคุณแอดมากๆค่ะที่อัพจนจบ 🙏👍สนุกมากเรื่องนี้ happy ending สุขสันต์วันสงกรานต์ หยุดพักผ่อนได้แล้วนะแอด555 ยังไงเรื่องถัดไปขอเรื่องฮองเฮาสุดที่รักด้วยนะคะ...
รออัพต่อนะคะ ใกล้จะจบแล้ว...
เศร้าเลย แอดมินไม่มาต่อ พลีสสสส...
รอๆๆ กลับมาอัพต่อค่ะ น่าจะใกล้จบแล้ว...
ไม่อัพต่อแล้วเหรอคะ กำลังสนุกเลย อินชิงเสวียนถูกจับแบบนี้จะมีใครมาช่วยได้บ้าง...
ตัวโกงเก่งกว่าคนดีแถมคนชั่วร้ายก็มีอยู่มากมายทั้งนอกทั้งในแบบนี้จะสู้ศึกไหวเหรอ...
มันเป็นพวกไหนกันแน่นะที่บ่อนทำลายชาติ ที่สำคัญจะเป็นคุณชายใหญ่ตระกูลอินด้วยหรือเปล่า...