สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์ นิยาย บท 1410

อินชิงเสวียนแค่นเสียงหึอย่างเย็นชา

“วิธีที่ผิดทำนองคลองธรรม มีอะไรน่าภาคภูมิใจ”

ชิงฮุยหันหน้าไปทางภูเขา มีเสียงดังกังวาน

“จะใช้วิธีไหนไม่สำคัญ ที่สำคัญคือใครเป็นผู้ชนะ”

ทันใดนั้นเขาก็ลงมือ แต่ถูกหยุดโดยฝ่ามือของเย่จิ่งอวี้

“เสวียนเอ๋อร์ เจ้ายับยั้งจิ่งหลาน ข้าจะจัดการกับเขาเอง”

“ได้”

อินชิงเสวียนรู้ว่าตัวเองไม่ใช่คู่ต่อสู้ของชิงฮุย จึงไม่ได้แสดงท่าทีใดๆ แลกเปลี่ยนคู่ต่อสู้กับเย่จิ่งอวี้ทันที

ชิงฮุยดูเหมือนจะไม่มีความตั้งใจที่จะต่อสู้กับเย่จิ่งอวี้ ชายเสื้อคลุมกระพือพลิ้ว ก้าวถอยหลังไปหลายจั้ง ลั่วสุ่ยชิงซึ่งนั่งอยู่บนพื้นดูเหมือนจะถูกดึงดูด นางลอยไปที่ฝ่ามือของเขา

“ไปล่ะ”

เขาส่งเสียงคำรามยาวๆ และลอยลงไปตามภูเขา เย่จิ่งอวี้หันกลับมาหมายจะจับเย่จิ่งหลาน แต่จับได้เพียงความว่างเปล่า เมื่อหันกลับมา เย่จิ่งหลานก็เหมือนกับถูกเคลื่อนย้ายทันที คนคนนั้นก็ปรากฏตัวอยู่ห่างออกไปหนึ่งร้อยก้าวแล้ว

“อย่าเดินมั่ว อาจมีค่ายกลอยู่ที่นี่”

อินชิงเสวียนเอื้อมมือออกไปจับเย่จิ่งอวี้ไว้ ทั้งสองก้าวไปข้างหน้าสหลายก้าว และทิวทัศน์ตรงหน้าก็เปลี่ยนไป

เย่จิ่งอวี้ขมวดคิ้วเล็กน้อย

“จริงด้วย เช่นนั้นข้าจะลองกระหน่ำพลังดู”

อินชิงเสวียนไม่รู้วิธีทำลายค่ายกลได้ ทำได้เพียงพยักหน้าอย่างช่วยไม่ได้

เย่จิ่งอวี้ค่อยๆ ยื่นมือออกช้าๆ ราวกับว่ากำลังกุมท้องฟ้า พลังงานบริสุทธิ์ก็พุ่งออกมาจากท้องฟ้าและพื้นโลกในเวลาเดียวกัน ราวกับมังกรสีน้ำเงินคำรามที่ยังคงวนเวียนอยู่รอบๆ เย่จิ่งอวี้ หลักการแห่งเต๋าก็ปรากฏออกมาเป็นแนวกั้นธรรมชาติ

จากนั้นก็ตะโกนเสียงทุ้มลึก ทันใดนั้นก็กดฝ่ามือลง แล้วผลักออกไปทุกทิศทาง

พลังอันยิ่งใหญ่หนึ่งกระแสทะลุผ่านฝ่ามือออกมา ในทันใดนั้น ทรายและก้อนหินก็ลอยขึ้นไป ต้นไม้ใบหญ้านกกากระจัดกระจาย ทุกสิ่งในค่ายกลถูกถอนออกในทันที ท้องฟ้าและแผ่นดินพลันแจ่มใส

นางนึกในใจ ครั้นแล้วคนทั้งคนก็เข้าไปในมิติ

เสี่ยวหนานเฟิงกำลังนั่งไขว่ห้างอยู่บนโซฟา มองดูหน้าจอขนาดยักษ์ที่เชื่อมต่อกับโลกภายนอก ปรบมือเล็กๆ แล้วพูดว่า “เสด็จแม่ เสด็จพ่อสุดยอดมาก!”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์