สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์ นิยาย บท 143

เกี้ยวพระที่นั่งของฮองเฮารึ

อินชิงเสวียนตกตะลึงเล็กน้อย

ดูเหมือนจะไม่เหมาะตามกฎเกณฑ์เท่าใดนัก

แม้ว่านางจะไม่ค่อยรู้เกี่ยวกับพิธีการในวังมากนัก แต่ก็รู้ว่าไม่ใช่ทุกคนที่จะนั่งบนพระที่นั่งหงส์ได้

ไม่รู้ว่าในอนาคตจะถูกวิพากษ์วิจารณ์หรือไม่

เสี่ยวอานจื่อที่ร้อนใจอยู่แล้ว รีบเร่งเร้าทันที “เร็วเข้า ฝ่าบาทกำลังรออยู่ที่ตำหนักจินหวู่”

อินชิงเสวียนลังเลอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นอุ้มเสี่ยวหนานเฟิงขึ้นไปนั่งบนเกี้ยว

ถึงอย่างไรนี่ก็เป็นคำสั่งของเย่จิ่งอวี้อยู่แล้ว ช่างเถอะ

ทันทีที่ยกเกี้ยวขึ้น พระที่นั่งหงส์ก็ค่อยๆ ถูกยกขึ้น และเคลื่อนตัวออกจากวังเย็น

ตอนแรกอินชิงเสวียนรู้สึกประหม่าเล็กน้อย เพราะกลัวว่าจะตกลงมา หลังจากเดินได้สักพัก ร่างกายของนางก็ผ่อนคลายในที่สุด และนางก็ค่อยๆ เอนกายบนที่นั่งนุ่มๆ

เสี่ยวหนานเฟิงที่อยู่ในอ้อมแขนก็ยื่นมือเล็กป้อมออกมาคว้าพู่ที่ห้อยอยู่ แล้วปากเล็กๆ ก็เริ่มเปล่งสำเนียงอ้อแอ้

อินชิงเสวียนจูบใบหน้าเล็กๆ แก้มยุ้ยๆ ของเสี่ยวหนานเฟิง แล้วถามด้วยรอยยิ้ม “ชอบหรือไม่”

เสี่ยวหนานเฟิงยิ่งมีความสุข บั้นท้ายเล็กๆ เด้งขึ้นมา มือเล็กจ้อยก็คว้าพู่สีแดงแล้วเขย่าเล่นแรงๆ

เมื่อเห็นเสี่ยวหนานเฟิงมีความสุขมาก อินชิงเสวียนอดไม่ได้ที่จะรู้สึกถึงความรักอันล้นหลามแห่งมารดา แล้วนางก็จูบใบหน้าเล็กๆ ของเขาหลายครั้ง

ชั่วพริบตาเดียว ก็มาถึงตำหนักจินหวู่

เมื่อมองไปที่ตำหนักอันโอ่อ่าตรงหน้า อินชิงเสวียนก็อดเคร่งขรึมไม่ได้

ในเวลานี้ ขันทีน้อยหยุดเกี้ยวอย่างมั่นคง อินชิงเสวียนก็กำลังจะพาเสี่ยวหนานเฟิงออกจากเกี้ยว แต่เสี่ยวหนานเฟิงยังคงจับพู่ไว้แน่น ทันทีที่ออกแรงดึง เศษผ้าก็ถูกฉีกออกมาด้วย

อินชิงเสวียนตกตะลึง เด็กในวัยนี้จะมีแรงมือขนาดนี้ได้อย่างไร

หรือเขาอยากทำให้เขาพินาศจริงๆ

“เอามาให้พ่อเร็ว”

อินชิงเสวียนแย่งพู่จากมือของเสี่ยวหนานเฟิง คิดจะใช้จังหวะที่ไม่มีใครสังเกตเห็นยัดกลับคืนไป แต่กลับได้ยินเสียงฝีเท้า แล้วเย่จิ่งอวี้ก็เดินออกจากตำหนักพร้อมกับหลี่เต๋อฝูและนางกำนัลขบวนใหญ่

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์