สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์ นิยาย บท 15

อวิ๋นฉ่ายเบะปาก

"สองพี่น้องตระกูลหวังอีกแล้วแน่เลย พวกเราอย่าสนใจพวกเขาอีกเลยเพคะ"

ยายหลี่พูดว่า "ต่อให้เราไม่ให้ของพวกเขา เราก็ไม่ควรจะปฏิเสธด้วยวิธีนี้ โบราณว่าไว้ลูกน้องเบี้ยล่างรับมือยากกว่าหัวหน้า ถ้าเราทำให้พวกเขาโกรธ แล้วเที่ยวออกไปพูดจาเลอะเทอะ จะเกิดปัญหากับวังเย็นของเราได้"

อินชิงเสวียนคิดไปคิดมา เธอก็รู้สึกเช่นกันว่าที่ยายหลี่พูดมีเหตุผล

"เช่นนั้นก็ไปรับมือกับพวกเขาหน่อย"

"พระสนมวางใจ บ่าวทราบว่าควรจะพูดอย่างไรเพคะ"

ยายหลี่อุ้มเจ้าหมาน้อยให้อินชิงเสวียน แล้วก็เดินไปที่ประตูวัง

พี่น้องตระกูลหวังเคยได้กินกำไร จึงไม่แปลกที่จะเฝ้ารอเฝ้าถาม แต่ทว่าเวลาก็ล่วงเลยไปสามสี่วันแล้ว ยังไม่ได้ของ จึงอดร้อนใจไม่ได้

ยายหลี่เดินไปถึงตรงประตู

"ช่วงนี้เราไม่มีสินค้า รออีกสักระยะก็แล้วกัน"

หวังเอ้อร์หวู่หัวเราะในลำคอ "ที่จริงจะเอาแบบนี้ก็ได้ ยายบอกต้นทางสินค้ากับพวกเรา เดี๋ยวพวกเราไปซื้อกันเอง ถึงตอนนั้นเราค่อยเอาเงินมาให้พวกเจ้า แบบนี้ไม่ง่ายกว่าหรือ?"

ยายหลี่แค้นใจจนขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน สารเลวสองคนนี้ช่างโลภมากจริงๆ พอบรรลุเป้าหมายแล้วก็คิดจะถีบหัวส่ง

แต่เธอกลับยิ้มและพูดว่า "เรื่องนี้ข้าคงช่วยอะไรเจ้าไม่ได้ และข้าก็บอกไม่ได้ พวกเจ้าสองพี่น้องรออีกสักระยะเถอะ ข้าต้องไปปรนนิบัติพระสนมแล้ว ขอตัว"

ยายหลี่พูดจบก็เดินจากไป

เมื่อเสียงฝีเท้าเดินออกไปไกลแล้ว หวังต้าหวู่ก็อดกล่าวโทษไม่ได้ว่า "ต้องเป็นเพราะว่าเจ้าโกงกินมากเกินไป จนพวกนางไม่พอใจแล้วแน่ๆ"

หวังเอ้อร์หวู่พูดอย่างไม่ใส่ใจนักว่า "ด้านนอกวังเย็นแห่งนี้มีแค่พวกเราสองคน พวกนางไม่มาหาพวกเราจะไปหาใครได้อีก คงเพราะไม่มีสินค้าจริงๆ"

หวังต้าหวู่ไม่ใช่คนคิดมาก เมื่อได้ยินน้องชายว่าเช่นนั้นก็ไม่พูดอะไรอีก

ในวัง

อินชิงเสวียนอุ้มเจ้าหมาน้อยออกมาข้างนอก

วันนี้แดดดี ควรตากแดดเสียบ้าง

เจ้าหมาน้อยออกมาข้างนอกเป็นครั้งแรก จึงเบิกตาจนกลมโตด้วยความประหลาดใจ และมองซ้ายมองขวาอย่างอดไม่ได้ และปากก็ส่งเสียงอู้อี้ๆ ไปด้วย

ยายหลี่ตกใจ

"พระสนม ทารกยังอายุไม่ถึงสิบวันเลย อุ้มออกมาไม่ได้ จะทำให้ไม่สบายนะเพคะ"

"ไม่เป็นไร เจ้าหมาน้อยของเราแข็งแรงจะตาย มาตากแดดบ้างจะได้เสริมแคลเซียม"

จำได้ว่าตอนที่หลานชายอายุสิบวัน พี่สะใภ้ก็พาออกมาเดินเล่นเช่นกัน

หลานชายยังไม่แข็งแรงเท่าเจ้าหมาน้อยเลย ดูมือน้อยๆ ที่โบกไปมาสิ ราวกับกำลังซ้อมมวยอยู่เลย

ยายหลี่อดประหลาดใจไม่ได้ "อะไรคือเสริมแคลเซียมหรือเพคะ?"

"มันเธอธาตุชนิดหนึ่งที่ร่างกายต้องการ ซึ่งช่วยส่งเสริมการสร้างกระดูก"

อินชิงเสวียนพูดอธิบายอย่างใจเย็น

ยายหลี่ฟังแล้วก็งุนงน ไม่เข้าใจเลยสักนิด

อวิ๋นฉ่ายอดถามไม่ได้ "พระสนม ไฉนพระองค์ถึงรู้อะไรเยอะเช่นนี้เพคะ?"

"เอ่อ..." อินชิงเสวียนยิ้มแห้งๆ แล้วพูดว่า "เมื่อก่อนข้าเคยอ่านตำราประหลาดเล่มหนึ่ง มันบันทึกอยู่ในนั้นน่ะ"

อวิ๋นฉ่ายชื่นชมทันที "พระสนมสุดยอดเลยเพคะ!"

เจ้าหมาน้อยราวกับรู้ว่าคนอื่นกำลังชมแม่ของตนเองอยู่ จึงโบกมือไปมาในทันที และดีดตัวด้วยความดีใจ

ยายหลี่อดยิ้มไม่ได้ "องค์ชายน้อยของเราแข็งแรงจริงๆ เพคะ ทารกอายุไม่กี่วันทั่วๆ ไปมีเรี่ยวแรงมากขนาดนี้ที่ไหนกัน"

อวิ๋นฉ่ายาก็พูดด้วยว่า "นั่นสิเพคะ ดูองค์ชายน้อยของเราสิ คิ้วตาเริ่มชัดเจนแล้ว หน้าตาเหมือนฝ่าบาทมากเลยเพคะ!"

อินชิงเสวียนอดถามไม่ได้ "ฮ่องเต้เฮงซวยนั่นจะหน้าตาน่ารักเท่าเจ้าหมาน้อยของเราหรือ? เขาหน้าตาเป็นอย่างไรรึ?"

อินชิงเสวียนมีความทรงจำของเจ้าของร่างเดิม แต่ใครหน้าตาเป็นอย่างไรนั้น เธอก็ไม่รู้ เมื่อได้ยินอวิ๋นฉ่ายพูดเช่นนั้นก็อดสงสัยขึ้นมาไม่ได้

อวิ๋นฉ่ายยิ้มแล้วพูดว่า "ฝ่าบาทรูปโฉมหล่อเหลา บู๊บุ๋นเก่งทั้งคู่ เป็นหนุ่มรูปงามที่พบเห็นได้น้อยมากเพคะ"

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์