แววตาของทั้งสองคนเริ่มคลุมเครือทันที
"สมแล้วที่เป็นเสี่ยวเสวียนจื่อกงกง มีคนรักด้วยแน่ะ"
"ดูจากรูปร่างหน้าตาของเสี่ยวเสวียนจื่อกงกงแล้ว คนรักของเจ้าจะต้องเป็นดาวเด่นของเรือนจุ้ยหงแน่นอน"
อินชิงเสวียนหัวเราะแหะๆ แล้วพูดว่า "แน่อยู่แล้ว เรามีเงินไม่ขาด จะหาสตรีทั้งทีย่อมหาผู้ที่ดีที่สุด ตกลงพวกเจ้าสองคนจะไปหรือไม่"
พวกเขาทั้งสองทำงานในวังตลอดทั้งวัน ไม่เคยไปสถานที่แบบนั้น ดังนั้นพวกเขาจึงอดไม่ได้ที่จะอยากลองสักหน่อย
"เพียงแต่ว่า ถ้าฝ่าบาทรู้เข้าล่ะ..." ฉินเทียนยังคงไม่กล้า
อินชิงเสวียนตบไหล่เขาแล้วพูดว่า "พวกเราไม่พูด เขาจะรู้ได้อย่างไร เร็วเข้าเถอะ"
อินชิงเสวียนจับม้าด้วยท่าทีเร่งรีบ ตะโกนบอกจังเถี่ยและสวีเหลียง "พวกเจ้าฝึกซ้อมกันให้ดีนะ ข้ามีงานอย่างอื่นต้องทำ"
ทั้งสองโบกมือทันที "เสี่ยวเสวียนจื่อกงกงกลับดีๆ นะ"
อินชิงเสวียนปีนขึ้นไปบนหลังม้า ม้าของนางใส่โกลนม้าไว้แล้ว ทำให้ขึ้นขี่ม้าได้อย่างสบาย และสิบห้านาทีต่อมา ทั้งสามคนก็มาถึงเรือนจุ้ยหง
เมื่อแม่เล้าเห็นแขก ใบหน้าที่เต็มไปด้วยริ้วรอยก็ยิ้มแฉ่งราวกับดอกเบญจมาศใกล้โรยรา
"เชิญทั้งสามท่านเข้าไปด้านในก่อน"
แล้วถามด้วยรอยยิ้มว่า "มีแม่นางคนใดที่รู้จักหรือไม่ หรืออยากให้ข้าแนะนำพวกท่านสักหน่อย"
อินชิงเสวียนพูดอย่างวางท่าร่ำรวย "เปิดห้องให้พวกเราสามห้อง แล้วเรียกดาวเด่นของพวกเจ้ามาด้วย"
แม่เล้ายิ้มกล่าวทันทีว่า "คุณชายน้อยท่านนี้ตาถึงจริงๆ เข้ามาก็เรียกฟางรั่วของเราทันที วันนี้นางว่างอยู่พอดี กรุณารอสักครู่"
หลี่ฉีพูดทันที "สหายเสี่ยวเสวียนจื่อ พวกเราไม่จำเป็นต้องเปิดสามห้องกระมัง"
"ใช่ พวกเราต้องติดตามเจ้า" ฉินเทียนกล่าว
อินชิงเสวียนกลอกตามองทั้งสองคน แล้วพูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา "ที่นี่เป็นสถานที่สำหรับการรวมกลุ่มรึ สามคนจะทำการแสดงได้อย่างไร แม้ว่าข้าจะเป็นขันที แต่ข้าก็ยังไม่อยากเสียหน้านะ เอาเช่นนี้เถอะ ข้าจะให้แม่เล้าเปิดห้องให้พวกเจ้าอยู่ขนาบซ้ายขวาข้างห้องของข้า ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นจะได้ยินทันที"
พวกเขาทั้งสองคิดว่าควรเป็นเช่นนั้น เมื่อคิดดูแล้วจึงตกลงตามนั้น
ครั้นแล้วแม่เล้าก็พาทั้งสามคนขึ้นไปที่ชั้นสองอย่างรวดเร็ว
"พวกเจ้าพักกันก่อน ข้าจะไปเรียกพวกนางมาเดี๋ยวนี้"
อินชิงเสวียนปิดประตู และเริ่มเดินไปเดินมาในห้องทันที
หวังว่ากวนเซี่ยวจะยังไม่ไป ในขณะเดียวกันก็ดีใจที่ตัวเองได้เห็นกวนเซี่ยวที่นี่ หากมีผู้ใดรู้ว่าตัวเองไปหาจอมพลเฒ่ากวน คงอธิบายได้ยากอย่างแน่นอน
ครู่ต่อมาก็มีเสียงฝีเท้าอยู่นอกประตู แล้วก็ได้ยินเสียงของแม่เล้าตามมา
"คุณชายน้อย แม่นางฟางรั่วของเรามาแล้ว"
ตามมาด้วยเสียงเอี๊ยด แล้วประตูก็เปิดออก แล้วสตรีที่สวมผ้าคลุมหน้าสีดำก็เดินมาจากประตู แล้วยอบกายคารวะอินชิงเสวียนเล็กน้อย
"ฟางรั่วคำนับคุณชายน้อย"
"พวกเจ้าคุยกันดีๆ นะ ถ้ามีอะไรก็เรียกหาข้าได้เลย"
หลังจากพูดจบ แม่เล้าก็ปิดประตูออกไป
อินชิงเสวียนมองนางอย่างสำรวจแวบหนึ่ง เห็นว่านางแต่งกายด้วยชุดสีดำ ไม่แต่งกายงามหยาดเยิ้มเหมือนแม่นางเหล่านั้น แม้ว่าใบหน้าจะถูกคลุมด้วยผ้าโปร่งสีดำ แต่ยังคงเห็นถึงลักษณะทั่วไปของนางได้ ใบหน้างดงาม โดยเฉพาะดวงตาทั้งคู่ที่มีสีดำตัดกับขาว มีความงามแปลกตา สมควรแล้วที่ได้รับการขนานนามว่าเป็นดาวเด่น
"แม่นางไม่ต้องเกรงใจ"
อินชิงเสวียนเดินาหยุดอยู่ตรงหน้าของนาง แล้วถามโดยตรง "ไม่ทราบว่าคุณชายน้อยกวนยังอยู่ที่นี่หรือไม่ แม่นางช่วยตามตัวเขามาหาข้าได้หรือไม่"
ฟางรั่วเงยหน้าขึ้น และเมื่อเห็นรูปร่างหน้าตาของอินชิงเสวียน ดวงตาของนางสั่นไหว ร่องรอยของความอิจฉาแวบขึ้นมาในแววตา แล้วก็หายไปในทันที
นางหัวเราะเบาๆ และพูดว่า "ที่แท้ก็เป็นเพื่อนของคุณชายน้อยกวนนี่เอง เขายังอยู่ที่นี่ ฟางรั่วจะไปตามคุณชายน้อยกวนมาเดี๋ยวนี้"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์
ยังอัพไม่จบเลย หลายเรื่องเลย อัพมาครึ่งทางแล้วทำไมหยุดอัพดื้อๆค่ะ...
จะอัพเมื่อไหร่คะ...
มาต่อเร็วๆนะแอด...
หยุดอีกแล้ว...
กระหม่อม หม่อมฉัน สลับมั่วไปหมด...
มาอ่านต่อกันเร็วๆ แอดกลับมาอัพต่อแล้ว ขอบคุณค่ะ...
สนุกมาก น่าติดตามมาก เขียนและแปลได้ดีจริงๆ ดีใจที่กลับมาลงต่อ อัพเดตเรื่อยๆ วันละหลายๆ ตอน นะคะ...
หยุดชะงักลงตรงบทนี้ ต่อหรือพอเพียงแค่นี้😁...
หยุดแค่นี้หรือไปต่อ😁...
อัพต่อรออยู่ค่ะ...