ตอน บทที่ 167 รู้จักกลัวแล้วรึ จาก สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์ – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง
บทที่ 167 รู้จักกลัวแล้วรึ คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายโรแมนติก สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์ ที่เขียนโดย GoodNovel เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย
กลิ่นสุราอ่อนๆ โชยมาจากคนข้างๆ อินชิงเสวียนไม่ต้องมองก็รู้ได้ทันทีว่าเป็นเย่จิ่งอวี้ที่อุ้มนางออกมา
ในนาทีชีวิตความเป็นความตายเช่นนี้ จะมีแก่ใจมาโวยวายได้อย่างไร อินชิงเสวียนคว้าฟางช่วยชีวิตเส้นสุดท้าย จับเสื้อผ้าของเย่จิ่งอวี้ไว้แน่น
"มีนักฆ่าอยู่ข้างนอก จะถอยกลับไปที่ไหนได้"
เสียงหัวเราะขันๆ ดังขึ้นเหนือศีรษะ
"เจ้าเก่งกล้ามากไม่ใช่หรือ คราวนี้เจ้ากลัวแล้วรึ"
ทันทีที่เย่จิ่งอวี้หมุนแขน เขาก็พาอินชิงเสวียนไปหลบข้างหลังตัวเองทันที เพียงขยับข้อมือ มีดสิ้นอันแสนประณีตก็โผล่ออกมาจากแขนเสื้อ แล้วแทงไปยังหน้าอกของคนถือมีด
ในเวลานี้ มีกระบี่อีกเล่มแทงมาจากด้านนอกรถ เย่จิ่งอวี้วางมือข้างหนึ่งลงบนพื้นและเอนตัวไปด้านหลังเพื่อหลบกระบี่ของศัตรู เตะเท้าขวาโดนมือของชายผู้นั้น แล้วพับแขนเสื้อขึ้น และแย่งกระบี่ยาวของชายผู้นั้นไป
ชุดการเคลื่อนไหวรวดเร็วดั่งสายน้ำไหล และจบในคราวเดียว
อินชิงเสวียนอยู่ในอาการตกตะลึงโดยสมบูรณ์
ไม่เคยคิดเลยว่าจะมีใครที่สามารถแสดงฝีมือด้านวรยุทธ์ที่ทรงพลังและมั่นคง ทว่าแต่เป็นอิสระและสง่างามขนาดนี้ได้
เย่จิ่งอวี้ถือกระบี่ยาวอยู่ในมือ ครั้นแล้วท่วงท่าของเขาก็แข็งแกร่งขึ้นทันที
เขาเหวี่ยงกระบี่ทำลายหลังคารถม้า และเตะหลังคาออกไปไกลหลายหลายจั้ง
เมื่อปราศจากหลังคาที่ยึดไว้ ผนังทุกด้านก็ล้มลงทันที และมองเห็นสถานการณ์ภายนอกรถได้ชัดเจน
ชายชุดดำมากกว่ายี่สิบคนกำลังต่อสู้กับทหารองครักษ์ และอีกหลายคนกำลังตรงมายังรถม้าพร้อมกระบี่อยู่ในมือ
"ฮ่องเต้ชาติสุนัข เอาชีวิตมา!"
เย่จิ่งอวี้ยิ้มเยาะอย่างเย็นชา
"ถ้าอย่างนั้นต้องดูกันว่าพวกเจ้ามีความสามารถนี้หรือไม่"
เมื่อเห็นเย่จิ่งอวี้ต่อสู้กับพวกเขาอยู่ อินชิงเสวียนก็นั่งกอดเข่าตัวสั่นอยู่ข้างเบาะนุ่ม
นี่คือการต่อสู้ด้วยกระบี่จริงและอาวุธจริง นอกจากคนสายตาสั้นที่มองไม่เห็นแล้ว ใครๆ ก็กลัวกันหมด
แต่กระบองไฟฟ้าดันอยู่ในมิติเสียได้ หลังจากดูรอบๆ แล้วก็มืดสนิท ดูเหมือนว่าไม่มีใครสังเกตเห็นนาง นางจึงหลบเข้าไปในมิติทันที และหยิบกระบองไฟฟ้าออกมา
ทันทีที่นางโผล่หัวออกมา ก็เห็นมีดเล่มใหญ่เหวี่ยงมาจากด้านข้าง อินชิงเสวียนรีบเปิดการทำงานของกระบองไฟฟ้าแล้ววางพาดไปที่มีด
ทันใดนั้นชายผู้นั้นก็เริ่มตัวสั่นราวกับเจ้าเข้า แล้วล้มลงกับพื้นเสียงดังกึกก้อง
เย่จิ่งอวี้ทำการสังหารทั้งสองคนแล้ว โอบแขนรอบเอวของอินชิงเสวียน แล้วกระโดดลงจากรถม้าพร้อมกับนาง
เขาขมวดคิ้วแล้วถามว่า "เจ้ากำลังถือสิ่งใดอยู่อีก"
ขณะที่เขากำลังพูด ชายชุดดำอีกสองคนก็วิ่งเข้ามา
เย่จิ่งอวี้กระโดดขึ้นไปในอากาศ แล้วเตะคนหนึ่งออกไป กระบี่ในมือของเขาก็ตวัดเป็นประกายด้วยแสงเย็น อีกคนรู้สึกหนาวที่คอ ทันใดนั้นก็มีเลือดปรากฏขึ้น แล้วก็ล้มแน่นิ่งกับพื้นราวกับเส้นหมี่
อินชิงเสวียนหลบอย่างว่องไว แต่ยังคงมีเลือดกระเด็นมาโดนแขนเสื้อของนาง
หนังศีรษะของนางรู้สึกชาอยู่ครู่หนึ่ง แล้วตอบเสียงแห้งผาก "กระบองไฟฟ้า สิ่งที่สามารถทำให้คนชักกระตุกได้"
เย่จิ่งอวี้เหลือบมองแวบหนึ่ง จากนั้นเหวี่ยงกระบี่ไปสังหารชายชุดดำอีก
อินชิงเสวียนซ่อนตัวอยู่ข้างหลังเขา โดยถือกระบองไฟฟ้าที่มีเปลวไฟสีน้ำเงินลั่นเปรี๊ยะอยู่ในมือ ไม่มีผู้ใดกล้าเข้ามาใกล้
ในเวลานี้เอง ก็ได้ยินเสียงกีบเท้าม้าดังมาจากตรอกข้างๆ
เสียงของหลี่ฉีดังตามมา
"ฝ่าบาท ท่านอ๋องสิบสามมาแล้ว"
เงาสีขาวลอยไปในอากาศ กระบี่ในมือตวัดขึ้นกลางอาการเป็นแสงสะท้อนแวววาวราวกับดอกไม้นับพันดอกเบ่งบาน ไม่ว่าแสงดาบจะส่องไปทางใด ชายชุดดำทั้งหมดก็ล้มลงทันที
ซึ่งคนผู้นี้ก็คือ เย่จั้น!
ทหารที่มากับเขาล้วนสวมชุดเกราะสีชาด ดังนั้นจึงสามารถแยกแยะพวกเขาได้ในคืนที่มืดมิด
คนเหล่านี้เหาะเหินเข้ามา และแยกย้ายกันปกป้องเย่จิ่งอวี้ที่อยู่ตรงกลางไปอย่างรวดเร็ว
ความร่วมมือระหว่างพวกเขายิ่งไร้ที่ติ เพียงพริบตาก็ควบคุมสถานการณ์ได้
ทางด้านหลังคาอยู่ไม่ไกล
ชายชุดดำสวมคลุมไปด้วยผ้าสีดำทั้งตัว กำลังมองดูสถานที่แห่งนี้จากระยะไกล
ข้างๆ เขามีร่างเล็กอ้อนแอ้นยืนอยู่
เขาพูดเรียบๆ "ขึ้นมา"
อินชิงเสวียนรีบปิดการทำงานของกระบองไฟฟ้า จับมือของเย่จิ่งอวี้กระโดดขึ้นหลังม้า
รถม้าถูกสับเละ ไม่มีทางที่จะขี่ได้อย่างแน่นอน แทนที่จะนั่งม้าไปกับคนอื่น ขี่ม้าไปกับเย่จิ่งอวี้ดีกว่า
เย่จิ่งอวี้ช่วยประคองให้นางนั่งดีๆ จากนั้นคว้าบังเหียนม้าแล้วควบไปทางประตูวัง
ขณะที่มองตามหลังของเย่จิ่งอวี้ไป เย่จั้นก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย
สิ่งที่กวนฮั่นหลินพูดต้องเป็นเรื่องจริง!
ลูกสาวของตระกูลอินยังมีชีวิตอยู่จริงๆ แต่ไม่รู้ว่า...
นางเต็มใจจะจากไปพร้อมเขาหรือไม่...
อินชิงเสวียนรู้สึกถึงเสียงลมที่หวีดอยู่ในหูของนาง จามออกมาอย่างอดไม่ได้
เย่จิ่งอวี้ก็ชะลอม้าลงทันที
"เป็นหวัดหรือ"
เสียงทุ้มลึกดังขึ้นจากด้านหลังศีรษะ แล้วลมอุ่นๆ ก็เป่ารดลำคอของอินชิงเสวียน
เมื่อนั้นอินชิงเสวียนจึงตระหนักได้ว่ามีชายคนหนึ่งอยู่ข้างหลังนาง
เมื่อครู่รีบร้อนอยากกลับวังเร็วๆ จึงไม่ได้คิดถึงเรื่องใด
นางย่นคอโดยไม่รู้ตัว
"ไม่พ่ะย่ะค่ะ พวกเรารีบกลับวังกันเถอะ"
เย่จิ่งอวี้หัวเราะเบาๆ "กลัวรึ"
อินชิงเสวียนดึงแผงคอม้า แล้วพูดด้วยความโกรธ "นี่คือการฆ่าคนเชียวนะ จะไม่กลัวได้หรือ"
นางเป็นเพียงนักศึกษาในรั้วมหาวิทยาลับธรรมดา นางไม่เคยพบเจอสังคมที่ทำร้ายกัน พอข้ามมิติมาที่นี่ ยังไม่ทันได้เห็นทิวทัศน์โบราณ ยังเลี้ยงลูกของเจ้าของร่างเดิมไม่โตด้วยซ้ำ ดังนั้นนางจึงไม่ต้องการที่จะตาย ยอมรับว่าตัวเองกลัวตายมาก!
เย่จิ่งอวี้ยกมุมปากขึ้นเล็กน้อย แล้วกระซิบข้างหูนาง "นับว่าเจ้าซื่อสัตย์ดี ซึ่งนี่ก็นับเป็นคุณธรรมเช่นกัน"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์
น่าจะต้องมีเล่มต่อรึเปล่าคะ เหมือนยังไม่จบเพราะตอนสุดท้ายเห็นว่ามีชนเผ่ามาเยือนโดยไม่ได้นัดหมาย...
สนุกมากค่ะ ขอบคุณที่ลงจนจบค่ะ❤️❤️...
แย่จิ่งหลานเอ๋ย ในมิติไม่มียาสลบหรือ เอามาแทงคอตอนเผลออะไรอย่างนี้ให้หลับไป...
ขอบคุณแอดมากๆค่ะที่อัพจนจบ 🙏👍สนุกมากเรื่องนี้ happy ending สุขสันต์วันสงกรานต์ หยุดพักผ่อนได้แล้วนะแอด555 ยังไงเรื่องถัดไปขอเรื่องฮองเฮาสุดที่รักด้วยนะคะ...
รออัพต่อนะคะ ใกล้จะจบแล้ว...
เศร้าเลย แอดมินไม่มาต่อ พลีสสสส...
รอๆๆ กลับมาอัพต่อค่ะ น่าจะใกล้จบแล้ว...
ไม่อัพต่อแล้วเหรอคะ กำลังสนุกเลย อินชิงเสวียนถูกจับแบบนี้จะมีใครมาช่วยได้บ้าง...
ตัวโกงเก่งกว่าคนดีแถมคนชั่วร้ายก็มีอยู่มากมายทั้งนอกทั้งในแบบนี้จะสู้ศึกไหวเหรอ...
มันเป็นพวกไหนกันแน่นะที่บ่อนทำลายชาติ ที่สำคัญจะเป็นคุณชายใหญ่ตระกูลอินด้วยหรือเปล่า...