บุรุษผู้นั้นยิ้มเยาะ
"อย่างเจ้าน่ะหรือ จะเข้าไปในจวนจิ้งอ๋องได้"
ฟางรั่วกัดริมฝีปาก และไม่พูดอะไรอีก
บุรุษผู้นั้นมองไปข้างหน้า พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา "คนเหล่านั้นล้วนเป็นชาวยุทธ์ พวกเขาไม่รู้จักตัวตนของเจ้าและข้า แม้ว่าพวกเขาจะถูกจับได้ แต่ก็ให้ปากคำไม่ได้ ไม่ต้องกังวล"
ฟางรั่วโค้งคำนับเล็กน้อย "ข้านอยทราบแล้ว"
นางลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แล้วพูดว่า "น่าเสียดายที่โอกาสในการกำจัดเย่จิ่งอวี้นั้นสูญเปล่า เรามีนักธนูพิษหลายสิบคน หากเราใช้กำลังเต็มที่ บางที..."
ใบหน้าของบุรุษผู้นั้นเปลี่ยนเป็นเย็นชา และพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง "เจ้าอยากให้ข้าเดิมพันด้วยชีวิตของชิงเสวียนงั้นรึ"
ฟางรั่วก้าวถอยหลังด้วยความตื่นตระหนก
"ข้าน้อยมิกล้า ข้าน้อยสำนึกผิดแล้ว"
บุรุษผู้นั้นตะคอกอย่างเย็นชา "ออกไป"
หลังจากที่ฟางรั่วจากไป ดวงตาของบุรุษผู้นั้นก็ค่อยๆ สงบลง
เขาแบมือขวาออก กลางฝ่ามือมีหยกสำชมพูชิ้นหนึ่งอยู่ ที่มุมจี้หยกสลักคำว่าเสวียนตัวเล็กๆ
เมื่อมองดูตัวอักษรน่ารักกระจิริด ดวงตาของบุรุษผู้นั้นก็แสดงความอ่อนโยนที่หาได้ยาก
หลังจากนั้นไม่นาน เขาก็เก็บจี้ไว้ในอ้อมแขน ดับเทียนแล้วเหาะลอยไป
วันต่อมา
อินชิงเสวียนตื่นขึ้นมาจากความเจ็บปวด
ลูกชายกตัญญูของนางยื่นมือเล็กๆ ออกมาดึงเปลือกตาของนางขึ้นด้วยสีหน้าอยากรู้อยากเห็น
"เจ้าตัวแสบนี่ เจ้าจะทำให้แม่ของเจ้าตาบอดรึ"
อินชิงเสวียนคว้ามือเล็กๆ ที่อยู่ไม่นิ่งของเขา
"อะยา!" จู่ๆ เสี่ยวหนานเฟิงก็โผเข้าใส่อย่างมีความสุข
เมื่อมองดูน้ำลายที่ไหลยืดลงมา อินชิงเสวียนก็หลับต่อไม่ลง รีบลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว
เมื่อเงยหน้าขึ้นก็เห็นว่าเพิ่งรุ่งสาง จู่ๆ ก็หมดคำพูด
"บรรพบุรุษตัวน้อยของแม่ ฟ้ายังไม่สว่างเลย ทำไมเจ้าถึงตื่นเช้าขนาดนี้"
เสี่ยวหนานเฟิงมีพลังล้นเหลืออยู่แล้ว ดวงตาสีดำและสดใสคู่นั้นดูมีชีวิตชชีวามาก เขาคว้าเสื้อของอินชิงเสวียนแล้วปีนขึ้นไปบนตัวนาง
อินชิงเสวียนง่วงนอนมาก แต่ทำใจไปปลุกยายหลี่และอวิ๋นฉ่ายไม่ลง ดังนั้นนางจึงต้องอดทนเล่นกับเสี่ยวหนานเฟิง เมื่อแสงแดดแรกส่องเข้ามา ก็ได้ยินเสียงฝีเท้าเบากริบมาจากข้างนอก
ยายหลี่เดินเข้ามาจากด้านนอก ก็เห็นผมของอินชิงเสวียนถูกดึงออกมาจนหลุดลุ่ย นั่งอยู่บนเตียงเหมือนคนบ้า
เสี่ยวหนานเฟิงกำลังสนุกกับการเล่นดึงผมของอินชิงเสวียน ขณะเดียวกันก็พูดอ้อแอ้ไปด้วย
เมื่อเห็นยายหลี่ อินชิงเสวียนแทบจะร้องไห้ด้วยความตื้นตัน
"เจ้ามาเสียที ข้าไม่ไหวแล้ว ข้าง่วงจะตายอยู่แล้ว อุ้มเขาออกไปเร็ว ให้ข้านอนพักสักหน่อย"
นางปล่อยมือของเสี่ยวหนานเฟิง และล้มตัวนอนลงบนเตียงเสียงดังตึง
เมื่อวานเกิดเรื่องขึ้นมากมาย แม้ว่าอินชิงเสวียนจะเข้านอนเร็ว แต่นางก็พลิกตัวกลับไปกลับมานอนไม่หลับเสียมี
นักฆ่า เย่จั้น แถบผ้า!
สิ่งเหล่านี้ยังคงหมุนวนอยู่ในหัว แม้ว่าอินชิงเสวียนจะรู้ว่าตัวเองไม่สามารถหาข้อสรุปได้ แต่นางก็ไม่สามารถควบคุมเซลล์สมองของนางได้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์
ตัวโกงเก่งกว่าคนดีแถมคนชั่วร้ายก็มีอยู่มากมายทั้งนอกทั้งในแบบนี้จะสู้ศึกไหวเหรอ...
มันเป็นพวกไหนกันแน่นะที่บ่อนทำลายชาติ ที่สำคัญจะเป็นคุณชายใหญ่ตระกูลอินด้วยหรือเปล่า...
คนที่แสดงตัวเป็นพี่ใหญ่ไม่น่าจะเป็นตัวจริงเพราะมีพฤติกรรมลับลมคมในเรื่องต่างๆและทำให้เรื่องต่างๆแย่ลง เหมือนว่าจะหลงรักน้องสาวตัวเองเลยไม่รู้ว่าเป็นน้องแท้ๆหรือเปล่า...
มีคนเล่นตุกติกกับชุดของเด็กแล้วอยู่ในวังต้องระมัดระวังก็รู้อยู่นะคราวนี้ผ่านมาทางคนที่สนิท...
ดีจริงแทนที่จะเสียคะแนนได้คะแนนมาเพิ่มอีก...
ทางด้านกลยุทธ์น่าจะได้แต่ทางด้านวรยุทธหรือพละกำลังน่าจะไม่ไหวดังนั้นต้องพิสูจน์ตัวเอง...
อายุยังไม่ทันถึง 6 เดือนเลยละมั้งทำไมพูดคุยได้แล้วเก่งจริง...
โกหกครั้งหนึ่งก็ต้องโกหกต่อๆไป...
ความแตกแล้วมั้งเนี่ย...
เกือบไปแล้ว...