สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์ นิยาย บท 188

อินชิงเสวียนเงยหน้าขึ้นทั้งน้ำตา สูดลมหายใจเข้าและถามว่า “ลูก... จะไม่เป็นอะไรจริงๆ ใช่ไหม?”

เย่จิ่งอวี้เพิ่งเคยเห็นอินชิงเสวียนเป็นเช่นนี้ครั้งแรก เมื่อก่อนนางมักจะเต็มไปด้วยจิตวิญญาณและวิธีการ วันนี้กลับบอบบางและซีดเซียว อ่อนแอราวกับดอกไม้ที่ละเอียดอ่อน ช่างน่าสงสารยิ่งนัก

ความอ่อนโยนในใจของเย่จิ่งอวี้ถูกสัมผัสได้ในทันที เขาอดไม่ได้ที่จะอ้าแขนออกกว้าง และโอบอินชิงเสวียนไว้ในอ้อมอก

ลดสายตาลงแล้วพูดว่า “ข้าบอกว่าไม่เป็นไร เสี่ยวหนานเฟิงก็จะต้องไม่เป็นไร”

กลิ่นดอกไม้ที่หอมจางๆ พุ่งเข้าสู่จมูกของนาง เมื่อมองไปที่คอเสื้อปักเงินอันงดงามที่อยู่ตรงหน้า อินชิงเสวียนก็ตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่งแล้วผลักเย่จิ่งอวี้ออกไป

“ฝ่าบาท... คือว่า... ตอนนี้ก็ดึกมาแล้ว ฝ่าบาทกลับไปปพักผ่อนเถอะพ่ะย่ะค่ะ”

นางลุกขึ้นจากเตียงด้วยน้ำเสียงที่แสดงถึงความตื่นตระหนก

เย่จิ่งอวี้ขมวดคิ้วเล็กน้อย พูดด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ “ข้าไม่ไป คืนนี้ข้าจะอยู่ที่ตำหนักจินหวู”

อินชิงเสวียนหันหลังและพูดว่า “เสี่ยวหนานเฟิงป่วยอยู่ ฝ่าบาททรงอยู่ที่นี่ กระหม่อมเกรงว่าจะดูแลได้ไม่ทั่วถึง”

“ข้าไม่ต้องการให้เจ้าดูแล เจ้าดูแลลูกให้ดีก็พอ”

เย่จิ่งอวี้พูดจบก็นั่งลงข้างเตียง หันตัวกลับไปหาเสี่ยวหนานเฟิง

เมื่อนึกถึงอ้อมกอดเมื่อครู่ อินชิงเสวียนก็กัดริมฝีปากแน่น

เย่จิ่งอวี้คงไม่โรคจิตพอที่จะกอดกับขันที เขาต้องรู้แล้วแน่นอน

ต่อไปควรทำอย่างไรดี?

แม้ว่านางยังสามารถแสร้งทำเป็นขันทีน้อย และลอยหน้าไปมาต่อหน้าเขา แต่ความคิดของนางไม่สามารถกลับไปสู่สภาวะปกติได้แล้ว

เมื่อคิดได้เช่นนี้ อินชิงเสวียนก็ถอนหายใจออกมาเบาๆ

ดูเหมือนว่าหนทางการเป็นขันทีของนาง จะสิ้นสุดลงตรงนี้จริงๆ

เพียงแต่... ผ่านไปหนึ่งวันแล้ว กลับไม่ได้ยินข่าวคราวนอกวังเลย หรือว่าเย่จั้นหาทางเข้าตำหนักจินหวูไม่ได้?

และเมื่อนึกถึงพี่ชายของที่เลื่อนลอยเจ้าของร่างเดิม อินชิงเสวียนก็อดที่จะปวดหัวไม่ได้

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์