บทที่189 เจ้าปีศาจตัวน้อย – ตอนที่ต้องอ่านของ สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์
ตอนนี้ของ สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์ โดย GoodNovel ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายโรแมนติกทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่189 เจ้าปีศาจตัวน้อย จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที
เมื่อมองดูดวงตาที่แดงก่ำเล็กน้อยเหล่านั้น อินชิงเสวียนหายใจเล็กน้อยแล้วรีบก้มศีรษะลง
“กระหม่อมอยากอาบน้ำให้เสี่ยวหนานเฟิงพ่ะย่ะค่ะ”
เย่จิ่งอวี้ลุกขึ้นจากเตียง พลางตำหนิเสียงต่ำ “ไร้สาระ ลูกยังนอนหลับอยู่ จะอาบน้ำได้อย่างไร?”
อินชิงเสวียนไกวเสี่ยวหนานเฟิง และพูดเสียงเบาว่า “กระหม่อมจึงอยากปลุกเสี่ยวหนานเฟิงไงเล่าพ่ะย่ะค่ะ”
เย่จิ่งอวี้ก็มองไปเห็นไป๋เสวี่ย ขมวดคิ้วและถามว่า “เจ้ามาได้อย่างไร?”
ร่างกายที่เหมือนลูกม้าน้อยของไป๋เสวี่ยยืดตรง ยื่นลิ้นใหญ่ไปเลียตุ่มแดงที่ขาของเสี่ยวหนานเฟิง
เย่จิ่งอวี้รีบดึงขนบนหัวของไป๋เสวี่ย ตะคอกเสียงเบาว่า “ลุกขึ้น”
ไป๋เสวี่ยส่งเสียงร้องคร่ำครวญด้วยควานน้อยใจออกมา สายตาคู่นั้นจับจ้องไปที่อินชิงเสวียน
“มันคงเป็นห่วงเสี่ยวหนานเฟิง พระองค์อย่าได้ตำหนิมันเลยพ่ะย่ะค่ะ”
ทันทีที่พูดจบ เย่จิ่งอวี้ก็ส่งเสียงแปลกใจออกมา
ส่วนที่โดนไป๋เสวี่ยเลีย จุดแดงก็ค่อยๆ จางลงไป
เย่จิ่งอวี้รีบปล่อยมือออกทันที และลูบขนไป๋เสวี่ยสองครั้ง
อินชิงเสวียนก็เห็นเช่นกัน จึงอดแปลกใจไม่ได้
ในเวลาเพียงไม่นาน ตุ่มสีแดงบนข้อเท้าของเสี่ยวหนานเฟิงก็หายวับไป
เมื่อเห็นรอยน้ำที่มุมปากของไป๋เสวี่ย คิดว่าเป็นเพราะฤทธิ์ของน้ำพุ
“ต้องรีบให้เสี่ยวหนานเฟิงอาบน้ำเดี๋ยวนี้พ่ะย่ะค่ะ”
อินชิงเสวียนดึงมือของเสี่ยวหนานเฟิง และเขย่าสองที
เสี่ยวหนานเฟิงลืมตากว้างในทันใด ปากน้อยๆ กำลังละเบะร้องไห้ เมื่อมองเห็นไป๋เสวี่ยที่ยืนอยู่ด้านข้าง ก็กลั้นน้ำตากลับไปในทันที จากนั้นก็ใช้แรงยื่นมาเล็กๆ ออกมาและจับเข้าที่ใบหูใหญ่ของไป๋เสวี่ย
ไป๋เสวี่ยก็ปล่อยให้เขาจับด้วยหน้าตาที่เชื่อฟัง และเมื่อเห็นโอกาสก็แลบลิ้นใหญ่ของมันออกมาและเลียขาของเสี่ยวหนานเฟิงสองครั้ง
เมื่อมองผิวที่มีรอยแดงใหญ่ค่อยๆ ขาวขึ้น เย่จิ่งอวี้พูดว่า “ไม่ต้องอาบน้ำหรอก นำเสี่ยวหนานเฟิงวางไว้บนเตียง และให้ไป๋เสวี่ยเลียให้เขา”
ไป๋เสวี่ยทำเหมือนว่าฟังเข้าใจ มันแลบลิ้นใหญ่และกระโดดขึ้นมา ท่าทางกระตือรือร้นอยากที่จะลอง
อินชิงเสวียนกลับไม่กล้า ไป๋เสวี่ยจะเชื่องแค่ไหนก็ยังเป็นเพียงสุนัขตัวหนึ่ง หากรู้สึกว่าเด็กทารกน้อยหอมหวาน และกินเขาเข้าไปจะทำอย่างไร นางไม่อยากเสี่ยงเช่นนั้น
“ไม่ต้องพ่ะย่ะค่ะ ใช้เพียงน้ำนี้ก็พอ”
อินชิงเสวียนถอดเสื้อผ้าของเสี่ยวหนานเฟิงสองสามที และวางลงไปในกะละมัง
เสี่ยวหนานเฟิงชอบอาบน้ำมาก เมื่อสัมผัสโดนน้ำก็กระฉับกระเฉงทันที เท้าน้อยๆ อดไม่ได้ที่จะตีลงบนน้ำ และเกิดเป็นระลอกคลื่นวงใหญ่
เมื่อมองดูน้ำที่ตกลงมากลางอากาศ เสี่ยวหนานเฟิงก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะและมีพลังอีกครั้ง
เย่จิ่งอวี้ก็ย่อตัวลง สายตามองไปยังจุดแดงที่อยู่บนร่างกายของเสี่ยวหนานเฟิง มันค่อยๆ หายไปจริงด้วย
นี่มันคือผงยาอะไรกัน ทำไมถึงใช้น้ำชำระล้างได้?
หรือว่าฮองเฮาเพียงต้องการเตือนอินชิงเสวียน และไม่ได้วางยาพิษ?
ในระหว่างที่ครุ่นคิด เสี่ยวหนานเฟิงใช้แรงตีน้ำที่อยู่ในกะละมัง ผืนน้ำกระเซ็นไปบนใบหน้าของเย่จิ่งอวี้
เย่จิ่งอวี้หยุดความคิดในทันที พร้อมกับหัวเราะออกมาอย่างอดไม่ได้
“เจ้าเด็กดื้อ”
เสี่ยวหนานเฟิงอ้าปากเล็กๆ ในทันที และตะโกนออกมาอย่างไม่ชัดเจน
“ดื้อ”
เย่จิ่งอวี้ตกใจเล็กน้อย
“เด็กคนนี้... พูดได้แล้วงั้นหรือ?”
อินชิงเสวียนใช้แรงอุ้มหลังของเสี่ยวหนานเฟิง มืออีกข้างวักน้ำไปบนตัวเขา
“คงใช่พ่ะย่ะค่ะ บางครั้งเขาก็ออกเสียงมาเป็นคำ”
เย่จิ่งอวี้พยักหน้า
“ตัวแค่นี้ก็พูดออกเสียงได้แล้ว เด็กคนนี้จะต้องไม่ธรรมดาอย่างแน่นอนเมื่อโตขึ้น เมื่อไม่นานมานี้เจ้าบอกว่าเขาอายุประมาณสองเดือนกว่าแล้ว ตอนนี้เขาอายุเกือบร้อยวันแล้วสินะ?”
อินชิงเสวียนเกือบลืมเรื่องนี้ไปเสียสนิท ก่อนหน้านี้ยังคิดจะฉลองอยู่เลย
ยกเว้นสายเลือดแท้ๆ ใครจะอดทนกับลูกของคนอื่นได้ขนาดนี้!
เสี่ยวหนานเฟิงถูกดึงดูดโดยเส้นผมของเย่จิ่งอวี้ในทันที จากนั้นก็ไปแคะดวงตาของเย่จิ่งอวี้ มืออีกข้างกำหมัดเล็กๆ ไว้ซึ่งท่าทางเต็มไปด้วยพลัง
เย่จิ่งอวี้จูบลงบนกำปั้นน้อยๆ ของเสี่ยวหนานเฟิง และดึงมือเล็กๆ ที่ไม่อยู่กับที่ของเขาลงมา
“เจ้าคิดจะทำร้ายพ่อ... ข้างั้นหรือ?”
เขาเหลือบมองอินชิงเสวียน จึงพบว่าบ่าวตัวนอนล้มพับลงไปแล้ว
จากนั้นก็ใช้นิ้วมือวางลงบนริมฝีปาก และทำจุ๊ๆ เสียงต่ำ
พูดขึ้นเบาๆ ว่า “พวกเราเล่นกันได้ แต่อย่าตะโกน เข้าใจหรือไม่?”
เสี่ยวหนานเฟิงรู้สึกตลก จึงอ้าปากเล็กหัวเราะออกมา และไปดึงผมของเขา
ไม่นาน เย่จิ่งอวี้ถูกกระชากจนกองเป็นรังนก เส้นผมของเขาตั้งเป็นกระจุกๆ
นับตั้งแต่เย่จิ่งอวี้จำความได้ก็ไม่เคยต้องอับอายเช่นนี้มาก่อน
เจ้าปีศาจน้อยตัวน้อยจริงๆ...
ตอนที่หลี่เต๋อฝูเข้ามาพร้อมกับเสื้อคลุมของฮ่องเต้ เสี่ยวหนานเฟิงก็หลับไปแล้ว
อินชิงเสวียนนอนอยู่ข้างซ้าย เย่จิ่งอวี้นอนอยู่ข้างขวา
มือของทั้งสองวางลงบนตัวของเสี่ยวหนานเฟิง สามคนพ่อแม่ลูกอยู่กับพร้อมหน้า
หลี่เต๋อฝูอดไม่ได้ที่จะอุดปาก ซาบซึ้งจนแทบร้องไห้ออกมา
แบบนี้สินะที่เรียกว่าความสุขของคนในครอบครัวที่อยู่พร้อมหน้ากัน!
หากฝ่าบาทได้อยู่เคียงข้างพระสนมตลอดไปก็คงดี และยังมีฮ่องเต้น้อยที่มีคนรักมากมาย!
แต่เมื่อนึกถึงตัวตนของอินชิงเสวียน ก็ถอนหายใจออกมา
พระสนมไม่พูด ฝ่าบาทก็ไร้หนทางพูด เมื่อไหร่เรื่องนี้จะได้รับความกระจ่างเสียที
แต่สิ่งที่หลี่เต๋อฝูนึกไม่ถึงก็คือ เรื่องที่ถูกปิดบังมานาน กลับจะถูกคนกระชากออกในอีกไม่กี่ชั่วยามต่อจากนี้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์
น่าจะต้องมีเล่มต่อรึเปล่าคะ เหมือนยังไม่จบเพราะตอนสุดท้ายเห็นว่ามีชนเผ่ามาเยือนโดยไม่ได้นัดหมาย...
สนุกมากค่ะ ขอบคุณที่ลงจนจบค่ะ❤️❤️...
แย่จิ่งหลานเอ๋ย ในมิติไม่มียาสลบหรือ เอามาแทงคอตอนเผลออะไรอย่างนี้ให้หลับไป...
ขอบคุณแอดมากๆค่ะที่อัพจนจบ 🙏👍สนุกมากเรื่องนี้ happy ending สุขสันต์วันสงกรานต์ หยุดพักผ่อนได้แล้วนะแอด555 ยังไงเรื่องถัดไปขอเรื่องฮองเฮาสุดที่รักด้วยนะคะ...
รออัพต่อนะคะ ใกล้จะจบแล้ว...
เศร้าเลย แอดมินไม่มาต่อ พลีสสสส...
รอๆๆ กลับมาอัพต่อค่ะ น่าจะใกล้จบแล้ว...
ไม่อัพต่อแล้วเหรอคะ กำลังสนุกเลย อินชิงเสวียนถูกจับแบบนี้จะมีใครมาช่วยได้บ้าง...
ตัวโกงเก่งกว่าคนดีแถมคนชั่วร้ายก็มีอยู่มากมายทั้งนอกทั้งในแบบนี้จะสู้ศึกไหวเหรอ...
มันเป็นพวกไหนกันแน่นะที่บ่อนทำลายชาติ ที่สำคัญจะเป็นคุณชายใหญ่ตระกูลอินด้วยหรือเปล่า...