ความเงียบเข้าปกคลุมเพียงครู่หนึ่ง ไทเฮาก็ตรัสต่อว่า "สงสารก็แต่คนแซ่อินนั่น ฮ่องเต้พระองค์ก่อนมีรับสั่งให้แต่งงานเข้าจวนรัชทายาท บัดนี้รัชทายาทก็ได้ครองบัลลังก์แล้ว แต่นางกลับถูกขับให้ไปอยู่ที่วังเย็นแทน ไม่มีใครสามารถล่วงรู้อนาคตได้เลยจริงๆ"
เมื่อพูดจบ ไทเฮาก็วางตะเกียบในมือลง แล้วหมุนตัวเดินกลับเข้าไปในห้อง
ลู่จิ้งเสียนเห็นดังนั้นก็รีบถกกระโปรงแล้วเดินตามเข้าไปอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็พูดออกมาอย่างไม่พอใจว่า "มีสิ่งใดให้สงสารกันเพคะ หากว่าอินชิงเสวียนชอบอันผิงอ๋องจริง ก็ควรที่จะต่อต้านพระราชโองการจนถึงที่สุด นางไม่มีความกล้าหาญเลยสักนิด หากคนที่เป็นพระชายาองค์รัชทายาทคือหม่อมฉัน ฝ่าบาทก็คงจะไม่เย็นชาต่อวังหลังเช่นทุกวันนี้"
ไทเฮาตรัสตอบอย่างไม่พอพระทัยว่า "ตอนนั้นสถานการณ์มันไม่ชัดเจน จะให้ข้าเห็นด้วยได้อย่างไร หากว่าองค์รัชทายาทเสียอำนาจขึ้นมา เจ้าเองนั่นแหละที่จะเดือดร้อน ตอนนี้เจ้าก็ได้ตำแหน่งเป็นถึงพระสนมแต่เพียงผู้เดียว เจ้ายังมีอะไรให้ไม่พอใจอีก"
เมื่อเห็นสีหน้าทะมึนทึงของไทเฮา ลู่จิ้งเสียนก็รีบร้อนคุกเข่าลงเพื่อขอประทานอภัยทันที
"ไทเฮาโปรดประทานอภัยเพคะ หม่อมฉันไม่ได้ไม่พอใจในสิ่งใด"
น้ำเสียงของไทเฮาอ่อนลง
"ลุกขึ้นเถิด ตอนนี้ภัยแล้งเกิดขึ้นทั่วแคว้น ก็ไม่แปลกที่ฝ่าบาทจะมีราชกิจมากมายเป็นพิเศษ รอให้พระองค์เสร็จราชกิจเรียบร้อย เดี๋ยวพระองค์ก็ปฎิบัติดีต่อเจ้าเองนั่นแหละ"
ลู่จิ้งเสียนลุกขึ้นยืน ทำให้กลิ่นหอมนั้น ฟุ้งลอยมาเตะจมูกอีกครั้ง
ไทเฮาขมวดคิ้วมุ่น แล้วถามนางต่อหน้าเพื่อให้สิ้นสงสัยว่า "นี่เจ้าพกถุงหอมมาจำนวนเท่าไรกันเนี่ย เหตุใดจึงมีกลิ่นหอมฟุ้งมากมายเช่นนี้"
ลู่จิ้งเสียนแสร้งทำเขินอายก่อนจะตอบว่า "นี่คือน้ำหอมที่ฝ่าบาทพระราชทานให้หม่อมฉันเพคะ วันนี้หม่อมฉันตั้งใจนำมาถวายให้แก่ไทเฮาขวดหนึ่งด้วยเพคะ"
เรื่องที่ฝ่าบาทขายมันให้กับนาง นางจะไม่มีทางยอมพูดออกมาเด็ดขาด น่าอับอายสิ้นดี
แค่คิดว่าขนาดเรื่องเล็กน้อยเพียงนี้ยังต้องควักเงินตัวเองเพื่อซื้อมา ลู่จิ้งเสียนก็รู้สึกเจ็บปวดใจเป็นอย่างยิ่ง
นางหยิบเอาขวดน้ำหอมที่ยังไม่เคยเปิดใช้มาก่อนขวดหนึ่งออกมาจากใต้แขนเสื้อ แล้วส่งให้กับไทเฮาอย่างนอบน้อม
ไทเฮารับมาพินิจดู จากนั้นก็กล่าวชมว่าเป็นของที่แปลกตา น่าสนใจ
"เป็นขวดแก้วด้วยหรือนี่?"
ลู่จิ้งเสียนรีบรับขวดน้ำหอมมาเพื่อจะเปิดให้กับไทเฮาได้ทดลองใช้
เมื่อเห็นว่า เพียงเจ้าเม็ดกลมๆ นี่กลิ้งผ่านก็ทำให้เกิดกลิ่นหอมฟุ้งขึ้นได้ ไทเฮารู้สึกถูกอกถูกใจในของขวัญชิ้นนี้มาก และเอามามองดูไม่หยุด
ลู่จิ้งเสียนกัดฟันครู่หนึ่ง จึงได้หักใจนำเอากระจกบานเล็กๆ ออกมาจากอกเสื้อ
"สิ่งของชิ้นนี้ฝ่าบาทก็เป็นคนพระราชทานมาให้เพคะ หม่อมฉันจึงได้นำมาถวายแด่พระองค์ เพื่อแสดงความกตัญญูเพคะ"
เมื่อเห็นว่ากระจกบานเล็กๆ นี่ สามารถส่องเงาคนออกมาได้ชัดเจน ไทเฮาก็ยิ่งยินดีมากขึ้นไปอีก
ไทเฮาที่กำลังส่องดูใบหน้าของตัวเองจากในกระจก ก็พลางส่องพลางพูดว่า "ฝ่าบาทพระราชทานสิ่งของประหลาดหายากเช่นนี้ให้กับเจ้า เจ้ายังจะมีสิ่งใดไม่พอใจอีก รีบอาศัยจังหวะนี้ ให้กำเนิดรัชทายาทจะดีกว่า"
เมื่อพูดถึงรัชทายาท แววตาของไทเฮาก็ฉายแววประหลาดออกมาครู่หนึ่ง จากนั้นก็หายไปอย่างรวดเร็ว
ลู่จิ้งเสียนค้อมตัวถวายบังคม จากนั้นจึงกล่าวต่อว่า "เพคะ หม่อมฉันจะพยายามอย่างสุดความสามารถ เพื่อจะมีรัชทายาทให้ฝ่าบาทให้จงได้เพคะ"
ไทเฮาพยักหน้าอย่างพอใจ
"เช่นนั้นเจ้าก็กลับไปก่อนเถิด ข้าเหนื่อยแล้ว อยากจะพักผ่อนสักหน่อย"
"เพคะ"
ลู่จิ้งเสียนถวายบังคมลา ก่อนจะเดินออกไปจากตำหนักฉือหนิง
ไทเฮาใช้มือข้างหนึ่งประคองศีรษะเอาไว้ ก่อนจะค่อยๆ เอนกายนอนลงบนเตียง
เหล่านางกำนัลทั้งหลายต่างก็รีบคุกเข่าลงบนพื้น เพื่อที่จะเตรียมบีบนวดให้กับไทเฮาโดยทันที
ยายเฒ่าอาวุโสพูดขึ้นอยากยินดีว่า "ฝ่าบาทพระราชทานของดีมากมายเช่นนี้ให้กับเสียนเฟย ก็แสดงว่าพระองค์คงจะมีใจให้กับเสียนเฟยเช่นกันนะเพคะ หม่อมฉันเชื่อว่าอีกไม่นาน จะต้องมีข่าวดีเกิดขึ้นที่ในวังหลังแห่งนี้แน่นอนเพคะ"
ไทเฮาพูดตอบด้วยน้ำเสียงราบเรียบ "ฝ่าบาทก็ขึ้นครองราชมาได้ปีหนึ่งแล้ว เรื่องที่ควรจัดการหลังครองราชทั้งสามเรื่องก็จัดการแล้ว หากว่าเสียนเออร์สามารถให้กำเนิดรัชทายาทออกมาได้ ตำแหน่งผู้ปกครองวังหลังนี้ก็คงจะเป็นของนางนี่แหละ"
"จริงเพคะ"
ยายเฒ่าอาวุโสพยักหน้าอย่างเห็นด้วย แล้วพูดต่อด้วยความดีใจว่า "หากว่าเสียนเฟยได้ขึ้นเป็นฮองเฮา เช่นนั้นพวกเรา..."
ยายเฒ่าอาวุโสยังไม่ทันพูดจบดี ก็เห็นว่าไทเฮาได้บรรทมหลับไปแล้ว จึงไม่ได้พูดในสิ่งที่คิดทั้งหมดออกไป
ณ วังเย็น
อินชิงเสวียนยังคงวาดแบบแปลนต่ออย่างใจจดใจจ่อ จนลืมกระทั่งเวลากินเวลานอน
การจะโยกน้ำจากทางใต้มาใช้ในทางเหนือได้ ไม่ใช่เพียงการขุดคลองใหญ่คลองเดียวจะสามารถแก้ปัญหาได้ หากคิดจะควบคุมตำแหน่งน้ำ ยังต้องสร้างเขื่อนอีกหลายแห่ง อีกทั้งยังท่าเรือต่างๆ
อินชิงเสวียนไม่รู้ว่าภูมิประเทศในแคว้นต้าโจวนี้เป็นอย่างไร จึงทำได้เพียงร่างแบบเขื่อนออกมาพอสังเขปเท่านั้น ยิ่งส่วนท่าเรือยิ่งไม่ต้องพูดถึง ทำไว้แค่เพียงจุดเครื่องหมายเล็กๆ
แต่ถึงอย่างนั้น เธอก็ใช้เวลาร่างแบบถึงสองวันเต็มๆ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์
ยังอัพไม่จบเลย หลายเรื่องเลย อัพมาครึ่งทางแล้วทำไมหยุดอัพดื้อๆค่ะ...
จะอัพเมื่อไหร่คะ...
มาต่อเร็วๆนะแอด...
หยุดอีกแล้ว...
กระหม่อม หม่อมฉัน สลับมั่วไปหมด...
มาอ่านต่อกันเร็วๆ แอดกลับมาอัพต่อแล้ว ขอบคุณค่ะ...
สนุกมาก น่าติดตามมาก เขียนและแปลได้ดีจริงๆ ดีใจที่กลับมาลงต่อ อัพเดตเรื่อยๆ วันละหลายๆ ตอน นะคะ...
หยุดชะงักลงตรงบทนี้ ต่อหรือพอเพียงแค่นี้😁...
หยุดแค่นี้หรือไปต่อ😁...
อัพต่อรออยู่ค่ะ...