สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์ นิยาย บท 19

ความเงียบเข้าปกคลุมเพียงครู่หนึ่ง ไทเฮาก็ตรัสต่อว่า "สงสารก็แต่คนแซ่อินนั่น ฮ่องเต้พระองค์ก่อนมีรับสั่งให้แต่งงานเข้าจวนรัชทายาท บัดนี้รัชทายาทก็ได้ครองบัลลังก์แล้ว แต่นางกลับถูกขับให้ไปอยู่ที่วังเย็นแทน ไม่มีใครสามารถล่วงรู้อนาคตได้เลยจริงๆ"

เมื่อพูดจบ ไทเฮาก็วางตะเกียบในมือลง แล้วหมุนตัวเดินกลับเข้าไปในห้อง

ลู่จิ้งเสียนเห็นดังนั้นก็รีบถกกระโปรงแล้วเดินตามเข้าไปอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็พูดออกมาอย่างไม่พอใจว่า "มีสิ่งใดให้สงสารกันเพคะ หากว่าอินชิงเสวียนชอบอันผิงอ๋องจริง ก็ควรที่จะต่อต้านพระราชโองการจนถึงที่สุด นางไม่มีความกล้าหาญเลยสักนิด หากคนที่เป็นพระชายาองค์รัชทายาทคือหม่อมฉัน ฝ่าบาทก็คงจะไม่เย็นชาต่อวังหลังเช่นทุกวันนี้"

ไทเฮาตรัสตอบอย่างไม่พอพระทัยว่า "ตอนนั้นสถานการณ์มันไม่ชัดเจน จะให้ข้าเห็นด้วยได้อย่างไร หากว่าองค์รัชทายาทเสียอำนาจขึ้นมา เจ้าเองนั่นแหละที่จะเดือดร้อน ตอนนี้เจ้าก็ได้ตำแหน่งเป็นถึงพระสนมแต่เพียงผู้เดียว เจ้ายังมีอะไรให้ไม่พอใจอีก"

เมื่อเห็นสีหน้าทะมึนทึงของไทเฮา ลู่จิ้งเสียนก็รีบร้อนคุกเข่าลงเพื่อขอประทานอภัยทันที

"ไทเฮาโปรดประทานอภัยเพคะ หม่อมฉันไม่ได้ไม่พอใจในสิ่งใด"

น้ำเสียงของไทเฮาอ่อนลง

"ลุกขึ้นเถิด ตอนนี้ภัยแล้งเกิดขึ้นทั่วแคว้น ก็ไม่แปลกที่ฝ่าบาทจะมีราชกิจมากมายเป็นพิเศษ รอให้พระองค์เสร็จราชกิจเรียบร้อย เดี๋ยวพระองค์ก็ปฎิบัติดีต่อเจ้าเองนั่นแหละ"

ลู่จิ้งเสียนลุกขึ้นยืน ทำให้กลิ่นหอมนั้น ฟุ้งลอยมาเตะจมูกอีกครั้ง

ไทเฮาขมวดคิ้วมุ่น แล้วถามนางต่อหน้าเพื่อให้สิ้นสงสัยว่า "นี่เจ้าพกถุงหอมมาจำนวนเท่าไรกันเนี่ย เหตุใดจึงมีกลิ่นหอมฟุ้งมากมายเช่นนี้"

ลู่จิ้งเสียนแสร้งทำเขินอายก่อนจะตอบว่า "นี่คือน้ำหอมที่ฝ่าบาทพระราชทานให้หม่อมฉันเพคะ วันนี้หม่อมฉันตั้งใจนำมาถวายให้แก่ไทเฮาขวดหนึ่งด้วยเพคะ"

เรื่องที่ฝ่าบาทขายมันให้กับนาง นางจะไม่มีทางยอมพูดออกมาเด็ดขาด น่าอับอายสิ้นดี

แค่คิดว่าขนาดเรื่องเล็กน้อยเพียงนี้ยังต้องควักเงินตัวเองเพื่อซื้อมา ลู่จิ้งเสียนก็รู้สึกเจ็บปวดใจเป็นอย่างยิ่ง

นางหยิบเอาขวดน้ำหอมที่ยังไม่เคยเปิดใช้มาก่อนขวดหนึ่งออกมาจากใต้แขนเสื้อ แล้วส่งให้กับไทเฮาอย่างนอบน้อม

ไทเฮารับมาพินิจดู จากนั้นก็กล่าวชมว่าเป็นของที่แปลกตา น่าสนใจ

"เป็นขวดแก้วด้วยหรือนี่?"

ลู่จิ้งเสียนรีบรับขวดน้ำหอมมาเพื่อจะเปิดให้กับไทเฮาได้ทดลองใช้

เมื่อเห็นว่า เพียงเจ้าเม็ดกลมๆ นี่กลิ้งผ่านก็ทำให้เกิดกลิ่นหอมฟุ้งขึ้นได้ ไทเฮารู้สึกถูกอกถูกใจในของขวัญชิ้นนี้มาก และเอามามองดูไม่หยุด

ลู่จิ้งเสียนกัดฟันครู่หนึ่ง จึงได้หักใจนำเอากระจกบานเล็กๆ ออกมาจากอกเสื้อ

"สิ่งของชิ้นนี้ฝ่าบาทก็เป็นคนพระราชทานมาให้เพคะ หม่อมฉันจึงได้นำมาถวายแด่พระองค์ เพื่อแสดงความกตัญญูเพคะ"

เมื่อเห็นว่ากระจกบานเล็กๆ นี่ สามารถส่องเงาคนออกมาได้ชัดเจน ไทเฮาก็ยิ่งยินดีมากขึ้นไปอีก

ไทเฮาที่กำลังส่องดูใบหน้าของตัวเองจากในกระจก ก็พลางส่องพลางพูดว่า "ฝ่าบาทพระราชทานสิ่งของประหลาดหายากเช่นนี้ให้กับเจ้า เจ้ายังจะมีสิ่งใดไม่พอใจอีก รีบอาศัยจังหวะนี้ ให้กำเนิดรัชทายาทจะดีกว่า"

เมื่อพูดถึงรัชทายาท แววตาของไทเฮาก็ฉายแววประหลาดออกมาครู่หนึ่ง จากนั้นก็หายไปอย่างรวดเร็ว

ลู่จิ้งเสียนค้อมตัวถวายบังคม จากนั้นจึงกล่าวต่อว่า "เพคะ หม่อมฉันจะพยายามอย่างสุดความสามารถ เพื่อจะมีรัชทายาทให้ฝ่าบาทให้จงได้เพคะ"

ไทเฮาพยักหน้าอย่างพอใจ

"เช่นนั้นเจ้าก็กลับไปก่อนเถิด ข้าเหนื่อยแล้ว อยากจะพักผ่อนสักหน่อย"

"เพคะ"

ลู่จิ้งเสียนถวายบังคมลา ก่อนจะเดินออกไปจากตำหนักฉือหนิง

ไทเฮาใช้มือข้างหนึ่งประคองศีรษะเอาไว้ ก่อนจะค่อยๆ เอนกายนอนลงบนเตียง

เหล่านางกำนัลทั้งหลายต่างก็รีบคุกเข่าลงบนพื้น เพื่อที่จะเตรียมบีบนวดให้กับไทเฮาโดยทันที

ยายเฒ่าอาวุโสพูดขึ้นอยากยินดีว่า "ฝ่าบาทพระราชทานของดีมากมายเช่นนี้ให้กับเสียนเฟย ก็แสดงว่าพระองค์คงจะมีใจให้กับเสียนเฟยเช่นกันนะเพคะ หม่อมฉันเชื่อว่าอีกไม่นาน จะต้องมีข่าวดีเกิดขึ้นที่ในวังหลังแห่งนี้แน่นอนเพคะ"

ไทเฮาพูดตอบด้วยน้ำเสียงราบเรียบ "ฝ่าบาทก็ขึ้นครองราชมาได้ปีหนึ่งแล้ว เรื่องที่ควรจัดการหลังครองราชทั้งสามเรื่องก็จัดการแล้ว หากว่าเสียนเออร์สามารถให้กำเนิดรัชทายาทออกมาได้ ตำแหน่งผู้ปกครองวังหลังนี้ก็คงจะเป็นของนางนี่แหละ"

"จริงเพคะ"

ยายเฒ่าอาวุโสพยักหน้าอย่างเห็นด้วย แล้วพูดต่อด้วยความดีใจว่า "หากว่าเสียนเฟยได้ขึ้นเป็นฮองเฮา เช่นนั้นพวกเรา..."

ยายเฒ่าอาวุโสยังไม่ทันพูดจบดี ก็เห็นว่าไทเฮาได้บรรทมหลับไปแล้ว จึงไม่ได้พูดในสิ่งที่คิดทั้งหมดออกไป

ณ วังเย็น

อินชิงเสวียนยังคงวาดแบบแปลนต่ออย่างใจจดใจจ่อ จนลืมกระทั่งเวลากินเวลานอน

การจะโยกน้ำจากทางใต้มาใช้ในทางเหนือได้ ไม่ใช่เพียงการขุดคลองใหญ่คลองเดียวจะสามารถแก้ปัญหาได้ หากคิดจะควบคุมตำแหน่งน้ำ ยังต้องสร้างเขื่อนอีกหลายแห่ง อีกทั้งยังท่าเรือต่างๆ

อินชิงเสวียนไม่รู้ว่าภูมิประเทศในแคว้นต้าโจวนี้เป็นอย่างไร จึงทำได้เพียงร่างแบบเขื่อนออกมาพอสังเขปเท่านั้น ยิ่งส่วนท่าเรือยิ่งไม่ต้องพูดถึง ทำไว้แค่เพียงจุดเครื่องหมายเล็กๆ

แต่ถึงอย่างนั้น เธอก็ใช้เวลาร่างแบบถึงสองวันเต็มๆ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์