บทที่ 196 ไม่กลัวตายแล้วรึ – ตอนที่ต้องอ่านของ สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์
ตอนนี้ของ สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์ โดย GoodNovel ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายโรแมนติกทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 196 ไม่กลัวตายแล้วรึ จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที
อินชิงเสวียนถูกกดให้นั่งบนเก้าอี้ แต่เมื่อสางผมไปได้เพียงครึ่ง นางก็กระโดดขึ้น
“ไม่ได้ ไม่ได้ วันนี้ข้าไม่สามารถพบฝ่าบาทได้”
ฮ่องเต้คงมาที่นี่เพราะอยากให้นางปรนนิบัติเรื่องบนเตียงแน่ๆ บุรุษส่วนเป็นสิ่งมีชีวิตที่ขับเคลื่อนด้วยอวัยวะท่อนล่าง
ในยุคปัจจุบันนางก็เป็นแค่ดอกเดซี่ดอกน้อยๆ บริสุทธ์ที่รอการเบ่งบาน ยังไม่เคยสัมผัสมือชายใดด้วยซ้ำ อยู่ๆ ก็จะให้ไปขึ้นเตียงทำเรื่องพรรค์นั้นกับคนอื่น เป็นไปไม่ได้เด็ดขาด!
อินชิงเสวียนยิ่งคิดก็ยิ่งตกประหม่า นางผลักยายหลี่ออกไปอย่างกะทันหัน กลิ้งตัวลงบนเตียง แล้วดึงผ้าห่มมาคลุมตัวเอง
ยายหลี่ยกผ้าห่มขึ้น กล่อมด้วยรอยยิ้ม “นี่ไม่ใช่ครั้งแรกของพระสนมกับฝ่าบาทเสียหน่อย ลูกก็มีกันแล้ว ยังต้องกลัวอะไรอีก รีบลุกขึ้นเร็ว พวกเราไปแต่งตัวให้งดงามเลย”
อินชิงเสวียนคลุมผ้าห่มทันที พูดเสียงดัง “ถึงเป็นอย่างนั้นก็ไม่ได้ เจ้ากับอวิ๋นฉ่ายไปเฝ้าที่ประตู ถ้าฝ่าบาทเสด็จมา ให้บอกไปว่าข้ารู้สึกไม่สบาย ให้เขาไปหาคนอื่น”
ยายหลี่พูดอย่างอดทน “พระสนมพูดเหลวไหลอะไร ความโปรดปรานของฮ่องเต้นั้นมีค่ากว่าทองพันชั่ง ตอนนี้ฝ่าบาทได้แต่งตั้งยศศักดิ์ให้พระสนมแล้ว ซึ่งนี่เป็นการเริ่มต้นที่ดี พระสนมควรทะนุถนอมจึงจะถูก”
อินชิงเสวียนดึงผ้าห่มกลับคืนอย่างแรง
“อย่างไรก็เถอะ ข้าไม่อยากเจอเขาตอนนี้ ยิ่งไม่อยากสวมชุดสตรี”
“พระสนม...”
ก่อนที่ยายหลี่จะพูดจบ เสียงอันทุ้มต่ำก็ดังมาจากด้านหลัง
“ช่างเถอะ ถ้านางไม่อยากใส่ก็ไม่ต้องใส่ พวกเจ้าออกไปก่อน”
เมื่อได้ยินเสียงของเย่จิ่งอวี้ อินชิงเสวียนก็แกล้งตายทันที นิ้วเท้าเกาผ้าห่มขยุกขยิก
จากนั้นก็ได้ยินเสียงแสกสาก เหมือนมีคนนั่งลงข้างเตียง
แล้วครู่หนึ่ง เสียงนั้นก็ถามแผ่วเบา “เจ้าตั้งใจจะอยู่ในผ้าห่มไปตลอดชีวิตงั้นหรือ”
อินชิงเสวียนกัดริมฝีปาก อดไม่ได้ที่จะถามขึ้น “ในเมื่อฝาทบาททรงทราบทุกอย่างแล้ว เหตุใดถึงยังแสร้งทำเป็นไม่รู้เรื่องอยู่อีก”
แม้แต่ชื่อหลิวเสวียนที่นางใช้เรียกตัวเองเขาก็รู้ เห็นชัดว่าคนบัดซบนี่ไม่เคยเชื่อใจนาง
“ไม่อย่างนั้นจะให้ข้าทำอย่างไรล่ะ จะให้ประหารเจ้าอีกรึ”
อินชิงเสวียนพูดอย่างจำใจ “หากฝ่าบาทต้องการ ก็ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้”
“เจ้าไม่กลัวความตายรึ”
ผ้าห่มถูกดึงขึ้น เส้นผมกลุ่มหนึ่งก็ปลิวตามออกมาด้วย
อินชิงเสวียนดึงผ้าห่มกลับคืน และขดตัวเป็นก้อนกลมอยู่ข้างใน
หลังจากเงียบไปนาน ในที่สุดน้ำเสียงก็อ่อนลง
“ย่อมกลัวอยู่แล้ว”
แม้ว่าเย่จิ่งอวี้จะไม่ได้มีนิสัยเดี๋ยวดีเดี๋ยวร้ายเหมือนฮ่องเต้ในนวนิยาย แต่เขายังคงมีด้านที่โหดเหี้ยม เมื่อคิดว่าครั้งหนึ่งเขาเคยนองเลือดในตำหนักจินหวู อินชิงเสวียนหายใจถี่ด้วยความประหม่าขึ้นทันใด
“ในเมื่อกลัว เช่นนั้นก็จงใช้ชีวิตให้ดี”
เสียงของเย่จิ่งอวี้ผ่านผ้าห่ม ทะลุเข้าไปกระทบโสตประสาทของอินชิงเสวียน
“เจ้าทนทุกข์ทรมานในวังเย็นมากว่าหนึ่งปีแล้ว ความคับข้องใจในอดีตก็จะลบล้างได้แล้ว ข้าเตรียมพร้อมที่จะตรวจสอบเรื่องของตระกูลอินอีกครั้ง แต่ชาตินี้เจ้าไม่อาจใช้แซ่อินได้อีก เพื่อเป็นการชดเชย เจ้าสามารถขอสิ่งใดจากข้าก็ได้หนึ่ง ตราบใดที่ข้าสามารถทำได้ จะไม่ปฏิเสธเด็ดขาด”
กระแสเสียงของเย่จิ่งอวี้นั้นทุ้มลึก และมีความจริงใจแบบเด็กๆ เจืออยู่ในนั้น
เพียงแต่อินชิงเสวียนยังคิดไม่ออกว่าต้องอยากจะขออะไร นางชั่งใจอยู่ครู่หนึ่ง แล้วถามว่า
“ขอข้าเก็บไว้ก่อนได้หรือไม่”
เย่จิ่งอวี้มองผ้าห่มที่พองๆ แล้วหัวเราะเบา ๆ
“ย่อมได้อยู่แล้ว”
ก่อนมาเขาได้ลังเลอยู่นาน
เพราะไม่รู้จริงๆ ว่าควรเผชิญหน้ากับอินชิงเสวียนอย่างไร
เพราะเรื่องการวางยา ทำให้เขาเก็บงำความขุ่นเคืองต่ออินชิงเสวียนมาโดยตลอด ซึ่งความไม่พอใจส่วนใหญ่ก็มาจากเย่จิ่งเย่านั่นเอง
ทุกครั้งที่นึกถึงความใกล้ชิดสนิทสนมระหว่างอินชิงเสวียนและเย่จิ่งเย่า แต่ต่อมากลับพลีกายให้เย่จิ่งอวี้ ในใจของเขาก็เต็มไปด้วยความรังเกียจอย่างเหลือทน
แต่ความไม่ชอบเหล่านี้ค่อยๆ หายไปเมื่อได้ใช้เวลาร่วมกัน ตอนนี้ เขาแค่อยากให้อินชิงเสวียนอยู่ในวังอย่างมีสุข!
แม้ว่านางจะหลอกลวงเขาหลายครั้ง แต่ก็ไม่สำคัญ เขาไม่เก็บมาเป็นอารมณ์ก็ได้
หัวใจของอินชิงเสวียนเต้นแรงในฉับพลัน
เย่จิ่งเย่าจะเข้าวังจริงๆ หรือ
เมื่อตื่นจากภวังค์ เย่จิ่งอวี้ก็ไปแล้ว
อินชิงเสวียนตกตะลึงอยู่พักหนึ่ง แล้วจึงเข้าไปในมิติ
นางอุดอู้อยู่ในผ้าห่มจนร้อนเหงื่อออกทั้งตัว จึงต้องอาบน้ำสักหน่อย
เมื่อนางออกมา อารมณ์ของอินชิงเสวียนก็สงบขึ้นมาก
บางทีเย่จิ่งอวี้อาจไม่ได้มีแก่ใจจะทำเรื่องพรรค์นั้นกับนางเลยก็ได้ ที่เขามาที่นี่เมื่อครู่ก็เพราะว่าอยากมาหาเสี่ยวหนานเฟิง และได้ถือโอกาสดูนางเท่านั้น
ความรู้สึกที่เขามีต่อสวีจือย่วนถึงจะเรียกว่าความชอบอย่างแท้จริง เมื่อนึกถึงวันนั้นตอนที่เย่จิ่งอวี้อุ้มสวีจือย่วน เขาดูวิตกเพียงใด อินชิงเสวียนก็เบะปาก นี่คือความแตกต่างระหว่างความรักที่แท้จริงและทางผ่าน ส่วนวันพรุ่งนี้จะเป็นอย่างไรนั้น นางก็ไม่อยากคิดให้เปลืองสมองอีก
นางหยิบโทรศัพท์สับปะรดออกมา เตรียมตรวจสอบกล้องวงจรปิดโดยรอบ ทันทีที่นางเปิดดู รูปถ่ายของนาง เย่จิ่งอวี้ และเสี่ยวหนานเฟิงก็โผล่ขึ้นมา
อินชิงเสวียนตกใจ แต่หลังจากมองดูดีๆ แล้ว ถึงได้พบว่าเสี่ยวหนานเฟิงได้กดมั่วตั้งค่ารูปภาพนั้นเป็นภาพหน้าจอได้อย่างไรก็ไม่รู้
ในภาพ ใบหน้าของเย่จิ่งอวี้หันไปด้านข้าง เรียวตาหงส์ของเขาดูประหลาดใจเล็กน้อย
เสี่ยวหนานเฟิงที่อยู่บนไหล่ของเขาจ้องมองที่หน้าจอด้วยดวงตากลมโต
ส่วนอินชิงเสวียนโผล่ใบหน้าของนางให้เห็นเพียงครึ่งเดียว แถมยังอ้าปากเป็นรูปตัวโอ ดูน่าตลกจริงๆ
อินชิงเสวียนอดไม่ได้ที่จะยกมุมปากขึ้นยิ้ม
นี่ถือได้ว่าเป็นรูปถ่ายครอบครัวครบทั้งสามคน!
จากนั้นก็ถุยปากทันที นางกับเย่จิ่งอวี้ไม่ใช่ครอบครัวเดียวกันซะหน่อย
เย่จิ่งอวี้เป็นผู้ชายที่มีผู้หญิงมากกว่าสามสิบคน ในอนาคตนางก็ต้องมีหนุ่มๆ มากกว่าสามสิบคนด้วย นางถึงจะได้ไม่เสียเปรียบ!
อินชิงเสวียนถือโทรศัพท์คิดสะระตะ บางครั้งก็อดไม่ได้ที่จะดูรูปถ่าย นั่นเช่นนั้นอยู่นานกว่าจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูกล้องวงจรปิด นางรีบเปิดหน้าจอแสดงกล้องวงจรปิดอย่างรวดเร็ว แต่ก็กลับต้องตกใจที่เห็นคนกระโดดลงมาจากหลังคาแล้วหายตัวไปจากหน้าจอ
อินชิงเสวียนรีบลุกขึ้นนั่ง แล้วร่างหนึ่งก็กระโดดเข้ามาทางหน้าต่างแล้ว!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์
น่าจะต้องมีเล่มต่อรึเปล่าคะ เหมือนยังไม่จบเพราะตอนสุดท้ายเห็นว่ามีชนเผ่ามาเยือนโดยไม่ได้นัดหมาย...
สนุกมากค่ะ ขอบคุณที่ลงจนจบค่ะ❤️❤️...
แย่จิ่งหลานเอ๋ย ในมิติไม่มียาสลบหรือ เอามาแทงคอตอนเผลออะไรอย่างนี้ให้หลับไป...
ขอบคุณแอดมากๆค่ะที่อัพจนจบ 🙏👍สนุกมากเรื่องนี้ happy ending สุขสันต์วันสงกรานต์ หยุดพักผ่อนได้แล้วนะแอด555 ยังไงเรื่องถัดไปขอเรื่องฮองเฮาสุดที่รักด้วยนะคะ...
รออัพต่อนะคะ ใกล้จะจบแล้ว...
เศร้าเลย แอดมินไม่มาต่อ พลีสสสส...
รอๆๆ กลับมาอัพต่อค่ะ น่าจะใกล้จบแล้ว...
ไม่อัพต่อแล้วเหรอคะ กำลังสนุกเลย อินชิงเสวียนถูกจับแบบนี้จะมีใครมาช่วยได้บ้าง...
ตัวโกงเก่งกว่าคนดีแถมคนชั่วร้ายก็มีอยู่มากมายทั้งนอกทั้งในแบบนี้จะสู้ศึกไหวเหรอ...
มันเป็นพวกไหนกันแน่นะที่บ่อนทำลายชาติ ที่สำคัญจะเป็นคุณชายใหญ่ตระกูลอินด้วยหรือเปล่า...