ขณะที่อินชิงเสวียนกำลังจะอ้าปาก คนผู้นั้นก็รีบวิ่งเข้ามาข้างหน้านางและปิดปากของนางโดยเร็ว
“ข้าเอง!”
อินชิงเสวียนตกใจเล็กน้อย
อินสิงอวิ๋นนั่นเอง!
ในเวลานี้ ก็มีคนตะโกนจากข้างนอกว่า “นั่นใคร หยุดนะ!”
อินชิงเสวียนตกใจ อดไม่ได้ที่จะเบิกตากว้างมองไปยังอินสิงอวิ๋นที่สวมหน้ากาก
อินสิงอวิ๋นเป่าเทียนให้ดับ แล้วกระซิบ “ไม่เป็นไร”
ได้ยินเสียงเสื้อผ้าขยับอยู่ข้างนอก แล้วดูเหมือนว่ามีอีกคนได้วิ่งออกไปไกลๆ
“ท่านเข้ามาในวังหลวงได้อย่างไร” อินชิงเสวียนถามด้วยความประหลาดใจ
อินสิงอวิ๋นลดเสียงลง และพูดว่า “ข้าได้ยินข่าวบางอย่างที่อาจไม่ส่งผลดีต่อเจ้า เจ้าต้องออกจากวังกับข้าตอนนี้”
อินชิงเสวียนเงยหน้าขึ้นมอง “ข่าวอะไร”
อินสิงอวิ๋นคว้าข้อมือของอินชิงเสวียน แล้วพูดอย่างเร่งด่วน “ตอนนี้ตัวตนของเจ้าถูกเปิดเผยแล้ว พรุ่งนี้เย่จิ่งเย่าจะมาระบุตัวเจ้าในราชสำนักอย่างแน่นอน ขืนอยู่ในวังจะเป็นอันตรายเกินไป ข้าให้คนเบี่ยงเบนความสนใจองครักษ์ไปอีกทางแล้ว เราต้องรีบออกไปเดี๋ยวนี้”
อินชิงเสวียนขมวดคิ้ว
เย่จิ่งอวี้ได้กล่าวแล้วว่าเขาจะสอบสวนเรื่องของตระกูลอินอีกครั้ง หากนางจากไปในเวลานี้ เย่จิ่งอวี้จะโกรธอย่างแน่นอน ไม่แน่ว่าบางทีอาจดึงตระกูลอินเข้ามาเกี่ยวข้อง
ยิ่งไปกว่านั้น นางไม่อยากให้อินสิงอวิ๋นต้องซ่อนตัวไปตลอด ต้องใช้ชีวิตอย่างหลบๆ ซ่อนๆ
เจ้าของร่างเดิมเคารพพี่ชายคนโตคนนี้มาก และให้ความสำคัญกับชื่อเสียงของตระกูลอินมากยิ่งกว่า ตอนนี้มีโอกาสที่จะได้เห็นแสงสว่างอันหาได้ยาก หากนางจากไปเช่นนี้ ทุกอย่างก่อนหน้านี้จะสูญเปล่า
เหตุผลที่เย่จิ่งอวี้รอมชอมให้กันนางถึงเพียงนี้ จะต้องเป็นเพราะเห็นแก่คุณงามความดีในอดีตของนาง ด้วยความสำเร็จเหล่านั้น จนถึงตอนนี้นางยังมีสิทธิ์มีเสียง อินชิงเสวียนไม่ต้องการที่จะยอมแพ้ครึ่งทางจริงๆ
ยิ่งไปกว่านั้น นางยังมีเสี่ยวหนานเฟิงอีกด้วย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์
ยังอัพไม่จบเลย หลายเรื่องเลย อัพมาครึ่งทางแล้วทำไมหยุดอัพดื้อๆค่ะ...
จะอัพเมื่อไหร่คะ...
มาต่อเร็วๆนะแอด...
หยุดอีกแล้ว...
กระหม่อม หม่อมฉัน สลับมั่วไปหมด...
มาอ่านต่อกันเร็วๆ แอดกลับมาอัพต่อแล้ว ขอบคุณค่ะ...
สนุกมาก น่าติดตามมาก เขียนและแปลได้ดีจริงๆ ดีใจที่กลับมาลงต่อ อัพเดตเรื่อยๆ วันละหลายๆ ตอน นะคะ...
หยุดชะงักลงตรงบทนี้ ต่อหรือพอเพียงแค่นี้😁...
หยุดแค่นี้หรือไปต่อ😁...
อัพต่อรออยู่ค่ะ...