“ฝ่าบาท พระสนมเหยาเฟยมาแล้วพ่ะย่ะค่ะ”
เสียงของหลี่เต๋อฝูทำให้ทุกคนหันกลับมาโดยพร้อมเพรียง
แล้วก็เห็นสตรีในชุดกระโปรงสีชมพูอ่อนเดินขึ้นมาอย่างสง่างาม มีมวยผมบนศีรษะปักด้วยปิ่นมุกดอกไม้เรียบๆ ทว่างดงามหลายดอก คิ้วโก่งได้รูป ใบหน้าอันประณีตยากจะวาดเลียนแบบได้ คิ้วงามดั่งยอดเขายามวสันต์ ตาสุกใสปานธาราฤดูสารท วางตัวอยู่เหนือกิเลสทั้งปวงยิ่งทำให้คนรู้สึกราวกับภาพฝัน!
เสี่ยวเสวียนจื่อผู้นี้ ช่างงดงามเหลือเกิน!
มิน่าเล่าฝ่าบาทต่อให้ต้องแตกหักกับไทเฮา ก็จะปกป้องนางให้จงได้
ทว่ายังมีบางคนรู้สึกว่า รูปลักษณ์นี้ดูงามงดมากเกินไป ค่อนข้างเป็นอันตรายต่อราษฎรและบ้านเมือง
หากฝ่าบาทหลงระเริงในความงาม จะทำเช่นไร
เย่จิ่งเย่าก็หันศีรษะไปมอง ดวงตาฉายแววประหลาดใจเล็กน้อย
อินชิงเสวียนนั้นงดงามมากจริงๆ แต่ก็ไม่ได้ถึงขั้นที่ทำให้เขาลุ่มหลง แต่วันนี้ รูปร่างหน้าตาของนางเปลี่ยนไปจากเมื่อก่อนเล็กน้อย ผิวพรรณเนียนผ่องราวกับหยก ลำคอระหงขาวนวล กลับเข้าตาของเขาอย่างจัง
อินชิงเสวียนคุ้นเคยกับชีวิตการเป็นขันทีน้อยมานานแล้ว และเคยชินมากจริงๆ แต่จู่ๆ กลับถูกผู้คนมองเขม็งเช่นนี้ นางจึงเดินไปอย่างประดักประเดิด
โชคดีที่นางกุมมือตัวเองไว้ ซึ่งนี่เป็นมารยาทที่หลี่เต๋อฝูบอกนาง ไม่เช่นนั้นนางคงเป็นเหมือนคนเดินบนไม้โถกเถกที่เดินแกว่งแขนข้างเดียวกับขาที่กำลังก้าว
ขณะนั่งบนเก้าอี้มังกรสูง เย่จิ่งอวี้ก็มองดูเรือนร่างอันโสภาเบื้องล่างเช่นกัน
เรียวตาหงส์คู่นั้นฉายแววตะลึงงั้น แต่เจือไปด้วยสายตาซับซ้อนอยู่เช่นกัน
เหตุใดหญิงผู้นี้จึงสามารถกระตุ้นความสงสัยของเขาได้อย่างง่ายดาย ทว่ากลับทำลายได้อย่างง่ายดายเช่นกัน
เขาไม่อยากระแวงในตัวนาง
เพียงแต่เขาที่อยู่ในฐานะฮ่องเต้ จึงมิอาจคิดน้อยได้...
ขณะที่คิดถึงเรื่องนี้ เย่จิ่งเย่าก็ก้าวไปข้างหน้า
“ฝ่าบาท นางก็คืออินชิงเสวียน กระหม่อมรู้จักนางมาสามปีแล้ว ย่อมไม่มีทางจำคนผิด นางมารผู้นี้วิ่งออกมาก่อความวุ่นวายนอกวังเย็น ตามความผิดสมควรต้องโทษประหาร”
ไอ้ชั่วเอ้ย ไม่ช้าก็เร็วเถอะ ข้าจะทำให้เจ้าชดใช้สิ่งที่เจ้าพูดในวันนี้!
อินชิงเสวียนกัดฟันกราม แล้วยืนนิ่ง
นางโค้งคำนับเย่จิ่งอวี้ พูดด้วยน้ำเสียงสงบ “ฝ่าบาททรงปรีชา หม่อมฉันไม่รู้จักผู้ที่กำลังพูดอยู่นี้ ไม่รู้จักอินชิงเสวียนอะไรนั่นด้วย บิดาของหม่อมฉันแช่หลิว ถูกเรียกด้วยชื่อว่าหลิวเสวียนมาตั้งแต่ยังเยาว์ ไม่เคยเปลี่ยน ขอทรงโปรดวินิจฉัยด้วยเพคะ”
เย่จิ่งเย่าหัวเราะเยาะ พูดว่า “ไม่เพียงแต่ข้าเท่านั้นที่รู้จักเจ้า บุตรหลานของตระกูลขุนนางในเมืองหลวงก็รู้จักเจ้าเช่นกัน เจ้าจะปฏิเสธได้อย่างไร”
ขุนนางคนหนึ่งเดินออกมากลางท้องพระโรง พูดเสียงดัง “กระหม่อมได้ยินมาว่าก่อนที่หญิงตระกูลอินจะแต่งเข้าจวนรัชทายาท นางเคยสนิทสนมกับอันผิงอ๋องมาก่อน อันผิงอ๋องไม่มีทางจำคนผิด ฝ่าบาทควรตรวจสอบตัวตนของพระสนมเหยาเฟยอย่างละเอียดถี่ถ้วนด้วยพ่ะย่ะค่ะ หากนางเป็นลูกสาวคนทรยศจริง จะต้องพบเบาะแสอะไรแน่”
กวนเมิ่งถิงกล่าวทันทีว่า “เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยของต้าโจว ฝ่าบาทจะต้องสอบสวนให้ถึงที่สุด อย่าเชื่อง่ายๆ”
หลู่ทงก็ก้าวออกมาข้างหน้า พูดด้วยเสียงอันดัง “ฝ่าบาท ท่านเสนากล่าวถูกแล้ว อินจ้งก่อกบฏ หากพระสนมคืออินชิงเสวียนจริงๆ ไม่ว่านางจะมีรูปโฉมงดงามเพียงใดก็มิอาจเก็บนางไว้ได้”
เย่จิ่งอวี้ยิ้มเยาะอย่างเย็นชา
“หรือว่าในสายตาของท่านราชเลขา ข้าเป็นคนที่หมกมุ่นเรื่องพรรค์นั้น ไม่สนใจกิจการบ้านเมือง?”
ทันทีที่ฮ่องเต้พูดจบ ชายชราที่เดินขากะเผลกก็เดินออกกลางท้องประโรง
เขาประกบมือคารวะ และพูดด้วยความเคารพ “ฝ่าบาท อินจ้งเป็นศิษย์ของกระหม่อม กระหม่อมรู้จักอินชิงเสวียนดี แต่หญิงผู้นี้ไม่ใช่จริงๆ”
เย่จั้นยังกล่าวอีกว่า “กระหม่อมก็อยู่ในเมืองซุ่ยหานกับอินจ้ง เคยได้เห็นภาพเหมือนของอินชิงเสวียนเช่นกัน ซึ่งรูปร่างหน้าตาของนางแตกต่างจากพระสนมเหยาเฟยอย่างมากพ่ะย่ะค่ะ”
อินชิงเสวียนรู้สึกอบอุ่นใจ เมื่อเห็นกวนฮั่นหลินที่อายุขนาดนี้แล้วยังมาประชุมเช้าในราชสำนักเพื่อนาง
เพียงแต่เมื่อเขาพูดเช่นนี้ ก็หมายความว่าเย่จิ่งอวี้ทราบแล้วว่า เขาได้รู้ตัวตนของนางแล้ว
เมื่อคิดถึงตรงนี้ ก็อดไม่ได้ที่จะเหงื่อไหลท่วมกาย
ถ้าเมื่อวานนางจากไปกับอินสิงอวิ๋นจริง ผู้ที่ถูกดึงเข้ามาเกี่ยว อาจมีมากกว่าหนึ่งคน
ตอนนี้ตัวตนของนางได้รับการเปิดเผยพอสมควรแล้ว หากนางหายไป เกรงว่าตระกูลกวนอาจได้รับผลกระทบเช่นกัน ยิ่งไม่ต้องพูดถึงยายหลี่และอวิ๋นฉ่ายเลย
เมื่อคืนนี้หวาดเสียวจริงๆ!
สถานการณ์ปัจจุบันแตกต่างไปจากที่นางเคยคิดไว้อย่างสิ้นเชิง ในวังจะขาดขันทีไปสักคนก็ไม่เป็นไร แต่หากพระสนมหายไปหนึ่ง ผู้คนจำนวนมากจะต้องเดือดร้อนอย่างแน่นอน
อินชิงเสวียนกัดริมฝีปากอย่างแรง
นางไม่อาจทำให้ผู้อื่นเดือดร้อนเพราะเห็นแก่ตัวเองเพียงคนเดียวได้ ต่อไปจะต้องไม่ทำผิดพลาดแบบนี้อีก และห้ามหวั่นไหวเพียงเพราะคำพูดของอินสิงอวิ๋นอีก นางควรพลิกฟื้นตระกูลอินก่อน ส่วนเรื่องที่ว่าจะจากไปได้หรือไม่นั้น ก็ทำได้แค่ปล่อยให้เป็นเรื่องของวันหน้า
“เป็นไปไม่ได้ พวกท่านพูดเหลวไหล กวนฮั่นหลิน ท่านจะไม่รู้จักอินชิงเสวียนได้อย่างไร”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์
ยังอัพไม่จบเลย หลายเรื่องเลย อัพมาครึ่งทางแล้วทำไมหยุดอัพดื้อๆค่ะ...
จะอัพเมื่อไหร่คะ...
มาต่อเร็วๆนะแอด...
หยุดอีกแล้ว...
กระหม่อม หม่อมฉัน สลับมั่วไปหมด...
มาอ่านต่อกันเร็วๆ แอดกลับมาอัพต่อแล้ว ขอบคุณค่ะ...
สนุกมาก น่าติดตามมาก เขียนและแปลได้ดีจริงๆ ดีใจที่กลับมาลงต่อ อัพเดตเรื่อยๆ วันละหลายๆ ตอน นะคะ...
หยุดชะงักลงตรงบทนี้ ต่อหรือพอเพียงแค่นี้😁...
หยุดแค่นี้หรือไปต่อ😁...
อัพต่อรออยู่ค่ะ...