สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์ นิยาย บท 200

ฟางรั่วตกใจ รีบคุกเข่าลงอย่างลนลาน

“นายท่าน ฟางรั่วสำนึกผิดแล้ว นายท่านโปรดลงโทษด้วย นายท่านอย่าส่งฟางรั่วเข้าวังเลยนะเจ้าคะ”

อินสิงอวิ๋นเชยคางของนางขึ้น มองดูนางสักพักแล้วพูดว่า “เจ้าพาคนไปเบี่ยงเบนความสนใจขององครักษ์ให้ข้า มีความผิดได้อย่างไร ข้าแค่นึกขึ้นได้ชั่วขณะเท่านั้น อีกอย่างการเข้าไปในวังไม่ใช่เรื่องง่าย ลุกขึ้นเถอะ!”

ฟางรั่วถอนหายใจด้วยความโล่งอก

“ขอบคุณครับนายท่าน!”

อินสิงอวิ๋นเทสุราใส่จอกอีก แล้วพูดอย่างเย็นชา “ไปพักเถอะ ข้าอยากอยู่เงียบๆ สักพัก”

“เจ้าค่ะ”

ฟางรั่วก้าวฉับๆ เดินจากไป แล้วอินสิงอวิ๋นก็ดื่มสุราจนทั้งหมดในอึกเดียว ความเคียดแค้นในแววตาแข็งกร้าวขึ้นอีกครั้ง

หลังจากสาดผงสลบแล้ว เย่จิ่งอวี้ไม่ได้ส่งผู้ใดมาไล่ล่าเขาเลย

ไม่ต้องสงสัยเลยว่านี่เป็นการเหยียดหยาม เย่จิ่งอวี้ได้แสดงท่าทีอย่างชัดเจนแล้วว่า

เขาไม่เห็นเข้าอยู่ในสายตา

อินสิงอวิ๋นเย่อหยิ่งจองหองมาโดยตลอด จู่ๆ ก็รู้สึกว่านี่เป็นความอัปยศอดสูอย่างยิ่ง

เมื่อนึกถึงว่าอินชิงเสวียนมีลูกกับเขา ความโกรธขึ้งในแววตาก็แทบจะกลายเป็นแก่นแท้ของดวงตา

เย่จิ่งอวี้เจ้าสุนัขใจทรามกล้าบังคับขืนใจชิงเสวียนถึงเพียงนี้ ถ้าไม่ได้ศีรษะของเขา ตนเองจะไม่มีวันยอมแพ้เด็ดขาด!

ณ วังหลวง

อินชิงเสวียนนั่งในเกี้ยวพระที่นั่งมังกรกับเย่จิ่งอวี้ แต่นางกลับนั่งตัวตรง ไม่กล้าขยับเขยื้อน

นางก้มหน้าก้มตา วางมือบนหน้าอก นับลมหายใจของตัวเองอยู่ตลอด

นางเคยคิดมาก่อนว่าคงจะดีไม่น้อย หากวันใดวันหนึ่งนางได้นั่งเกี้ยวพระที่นั่งมังกร แต่ไม่คิดว่าความปรารถนาจะเป็นจริงอย่างรวดเร็วเพียงนี้ แต่นางกลับไม่รู้สึกสุขสบายเท่าที่คิดไว้

ตอนนี้อินชิงเสวียนนั่งตัวแข็งทื่อ จนแทบจะกลายเป็นแผ่นหินแล้ว

“ไม่เหนื่อยหรือ”

เย่จิ่งอวี้เหลือบมองใบหน้าด้านข้างของนาง นัยน์ตาเจือรอยยิ้มละไม

จู่ๆ บ่าวตัวน้อยก็กลับมาสวมชุดสตรี แต่กลับตกประหม่าจนไม่กล้าทำอะไรเลย

เขาเริ่มคิดถึงขันทีน้อยผู้มีคารมคมคาย ที่มักจะพูดจาไร้สาระต่อหน้าเขาขึ้นมา

“กราบทูลฝ่าบาท ไม่เหนื่อยเพคะ” อินชิงเสวียนพูดเสียงเกร็งๆ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์