ในเวลานี้ อินชิงเสวียนก็ขมวดคิ้วอยู่เช่นกัน
หลังจากเข้าตำหนักจินหวู รอยยิ้มบนใบหน้าของนางก็ค่อยๆ หายไป
หลี่เต๋อฝูบอกว่านักฆ่าถูกจับและถูกคุมขังในคุกชั้นใน พอนึกถึงว่าตอนนี้อินสิงอวิ๋นถูกทุบตีและถูกทรมานอยู่ อินชิงเสวียนก็หงุดหงิดใจทันที
นางต้องหาทางช่วยเหลืออินสิงอวิ๋นออกมา และบังเอิญว่าหลิวหมัวมัวก็ถูกขังอยู่ในคุกชั้นในอยู่ คงไปในนามนี้ได้
อินชิงเสวียนนำป้ายทองประจำพระองค์ออกมา แต่ก็รู้สึกว่าไม่ได้
ตอนนี้เย่จิ่งอวี้เลิกประชุมเช้าแล้ว ไม่แน่ว่าอาจจะมาเมื่อไหร่ก็ได้ หากตัวเองไม่อยู่ เขาคงจะสงสัย
อินชิงเสวียนถอนหายใจยาม เอื้อมมือไปอุ้มเสี่ยวหนานเฟิง และจูบใบหน้าเล็กๆ สีชมพูของเขา
ยามนี้เสี่ยวหนานเฟิงรู้สึกง่วงบ้างแล้ว เขาเอาหน้าไปแนบกับลำคอของอินชิงเสวียนทันที
สัมผัสอันอบอุ่นทำให้หัวใจของอินชิงเสวียนอ่อนลง นางอดไม่ได้ที่จะเอื้อมมือออกไปตบก้นเขาเบาๆ
“หลับเถิดหนา แม่จะอยู่กับเจ้า จันทร์เจ้าเอ๋ย ขอข้าวขอเเกง ขอเเหวนทองเเดงผูกมือน้องข้า...”
อินชิงเสวียนฮัมเพลงกล่อมเด็กที่ย่าของนางร้องให้ฟังบ่อยๆ หลังจากนั้นไม่นานดวงตาของเสี่ยวหนานเฟิงก็หรี่ลง
เมื่อมองดูใบหน้าเล็กๆ ที่บริสุทธิ์ในอ้อมแขน อินชิงเสวียนก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มบางๆ เหมือนแม่แก่
หลังจากจูบหน้าผากเหม่งๆ ของเขาแล้ว อินชิงเสวียนก็วางเสี่ยวหนานเฟิงไว้บนเตียง แล้วคลุมตัวด้วยผ้าห่มผ้าบางๆ
เสี่ยวหนานเฟิงพลิกตัว ดูดกำปั้นเล็กๆ ของตัวเอง
อินชิงเสวียนนั่งมองเขาที่ขอบเตียง แววตาของนางเต็มไปด้วยความอ่อนโยน
นางเห็นเสี่ยวหนานเฟิงเป็นลูกชายแท้ๆ ของตัวเองแล้ว ชีวิตนี้จะไม่มีวันแยกจากเขา
ชั่วพริบตาก็เป็นเวลาโพล้เพล้แล้ว
ทันทีที่ตะเกียงเจ้าพายุถูกจุด เย่จิ่งอวี้ก็เดินเข้ามาจากด้านนอก
เขาสวมชุดคลุมสีแดงเข้ม ฝีเท้าของเขามั่นคงสม่ำเสมอ ใบหน้าอันหล่อเหลาประดับด้วยรอยยิ้มจางๆ
“ลูกหลับแล้วหรือ”
“หลับแล้วเพคะ”
อินชิงเสวียนยืนขึ้น และยอบกายคำนับเย่จิ่งอวี้
“หม่อมฉันถวายบังคมฝ่าบาท!”
“ตามสบาย”
เย่จิ่งอวี้พยุงนางขึ้น แล้วพูดด้วยรอยยิ้มเล็กน้อย “ไม่ต้องมากพิธี จู่ๆ ข้าก็คิดถึงวันที่เจ้าเป็นขันทีน้อย”
อินชิงเสวียนก้มศีรษะลงแล้วพูดว่า “เมื่อก่อนหม่อมฉันไร้มารยาทเกินไป”
“เจ้าพูดเช่นนี้มันน่าเบื่อนะ ทำเหมือนเดิมเถอะ ข้าอนุญาตให้เจ้าไม่ต้องทำตามขนบธรรมเนียมเหล่านั้น”
เย่จิ่งอวี้มาที่ข้างเตียง แล้วดึงมือเล็กๆ ของเสี่ยวหนานเฟิงออกจากปากของเขา
ปากเล็กๆ ของเสี่ยวหนานเฟิงเริ่มขยับทันที เขาดูดอากาศเข้าไปหลายคำ จากนั้นก็พลิกตัวและหลับไปอีกครั้ง
เย่จิ่งอวี้ยกเสื้อคลุมขึ้น นั่งลงข้างเตียง แล้วเงยหน้าขึ้นมองอินชิงเสวียนทันที
“เมื่อวานทำให้เจ้าตกใจกระมัง”
อินชิงเสวียนใจสั่นเล็กน้อย จากนั้นจึงยิ้มและพูดว่า “ขอบพระทัยฝ่าบาทที่ช่วยเหลือ หม่อมฉันสบายดี ได้ยินหลี่กงกงบอกว่าฝ่าบาทจับนักฆ่าและจองจำเขาไว้ในคุกชั้นใน ขอทราบได้หรือไม่ว่าเข้ามาจากที่ใด”
เย่จิ่งอวี้เลิกคิ้วหนา แล้วพูดด้วยรอยยิ้มคล้ายไม่ยิ้ม “คนผู้นี้ตรงมายังตำหนักจินหวูทันทีที่เข้าวัง ข้าคิดว่าเจ้ารู้จักกับเขาเสียอีก”
“ฝ่าบาททรงล้อเล่นแล้ว ตัวตนของหม่อมฉันฝ่าบาทก็ทรงทราบดี หม่อมฉันอยู่ในวังเย็นมาหนึ่งปี คนที่รู้จักก็มีเพียงยายหลี่และอวิ๋นฉ่าย จะรู้จักคนอื่นได้อย่างไร”
เย่จิ่งอวี้พยักหน้า พูดอย่างไม่อินังขังขอบ “สิ่งที่เจ้าพูดมาก็มีเหตุผล เช่นนั้นข้าก็จะให้คนไต่สวนเขาให้หนัก ตราบใดที่ที่ได้เข้าไปในคุกชั้นใน ต่อให้ปากแข็งเพียงใด ข้าก็สามารถง้างปากให้เขาสารภาพออกมาได้”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์
ยังอัพไม่จบเลย หลายเรื่องเลย อัพมาครึ่งทางแล้วทำไมหยุดอัพดื้อๆค่ะ...
จะอัพเมื่อไหร่คะ...
มาต่อเร็วๆนะแอด...
หยุดอีกแล้ว...
กระหม่อม หม่อมฉัน สลับมั่วไปหมด...
มาอ่านต่อกันเร็วๆ แอดกลับมาอัพต่อแล้ว ขอบคุณค่ะ...
สนุกมาก น่าติดตามมาก เขียนและแปลได้ดีจริงๆ ดีใจที่กลับมาลงต่อ อัพเดตเรื่อยๆ วันละหลายๆ ตอน นะคะ...
หยุดชะงักลงตรงบทนี้ ต่อหรือพอเพียงแค่นี้😁...
หยุดแค่นี้หรือไปต่อ😁...
อัพต่อรออยู่ค่ะ...