พริบตาเดียวก็ตกค่ำแล้ว ฝนก็ยังไม่หยุดตก
เมื่อเห็นฝนที่ตกลงมาอย่างต่อเนื่อง อินชิงเสวียนก็พยักหน้าอย่างมีความสุข คะแนนที่จ่ายไปก็คุ้มค่าดี
แต่แล้วก็ต้องสะดุ้ง เมื่อเห็นเสี่ยวอานจื่อวิ่งเข้ามา
“พระสนม นายหญิงสวีมาพ่ะย่ะค่ะ ตอนนี้กำลังรออยู่ข้างนอก”
อินชิงเสวียนรีบกล่าวขึ้นโดยเร็ว “ให้นางเข้ามาเร็ว ฝนตกหนักขนาดนี้ เดี๋ยวจะเป็นหวัดเอา”
หลังจากนั้นไม่นาน หานปิงก็ประคองสวีจือย่วนเดินเข้ามาจากด้านนอก
“สวีจือย่วนน้อมคำนับพระสนมเหยาเฟย”
สวีจือย่วนยอบกายคำนับ แล้วอินชิงเสวียนก็พยุงนางขึ้นมาทันที
“เจ้ากับข้าไม่จำเป็นต้องมากพิธี โดนฝนเปียกมาหรือไม่”
อินชิงเสวียนมองสวีจือย่วนตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า รู้สึกว่าร่างกายของนางอ่อนแอมาก ไม่อาจต้านลมฝนได้นัก
สวีจือย่วนยิ้มอ่อนโยน
“ไม่เปียก สุขภาพของพระสนมเป็นอย่างไรบ้าง”
“ข้าสบายดีมาก มีชีวิตชีวาดีทีเดียว”
อินชิงเสวียนชูหมัดขึ้น เมื่อสวีจือย่วนเห็นว่านางดูกระปรี้กระเปร่าก็สบายใจขึ้นมาก
“ก่อนหน้านี้ที่เห็นฝ่าบาทอุ้มเจ้ากลับมาที่ตำหนักจินหวู ข้ายังเป็นห่วงแทบแย่ ไม่เป็นไรก็ดีแล้ว ดีแล้ว! “
เมื่อเห็นสวีจือย่วนเป็นห่วงตัวเองมากขนาดนี้ อินชิงเสวียนก็รู้สึกอบอุ่นใจ
“เจ้าไม่ต้องห่วงข้าหรอก ฝนตกหนักขนาดนี้ยังมาหาข้าอีก อย่าให้เป็นหวัดเอานะ”
“ว่างๆ ไม่มีอะไรทำน่ะ เดินตากฝนหน่อยก็รู้สึกดีนะ”
สวีจือย่วนหยิบเสื้อผ้าชุดเล็กๆ จากแขนเสื้อออกมา แล้วมอบให้อินชิงเสวียน
“ข้าทำชุดนี้ให้เด็กตอนที่ว่างๆ น่ะ ข้าก็ซักแล้วด้วย แถมยังถูด้วยสือหมิงฮวา ได้ยินมาว่าสิ่งนี้ช่วยไล่ยุงได้ ถ้าไม่รังเกียจก็เก็บไว้ด้วยนะ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์
ตัวโกงเก่งกว่าคนดีแถมคนชั่วร้ายก็มีอยู่มากมายทั้งนอกทั้งในแบบนี้จะสู้ศึกไหวเหรอ...
มันเป็นพวกไหนกันแน่นะที่บ่อนทำลายชาติ ที่สำคัญจะเป็นคุณชายใหญ่ตระกูลอินด้วยหรือเปล่า...
คนที่แสดงตัวเป็นพี่ใหญ่ไม่น่าจะเป็นตัวจริงเพราะมีพฤติกรรมลับลมคมในเรื่องต่างๆและทำให้เรื่องต่างๆแย่ลง เหมือนว่าจะหลงรักน้องสาวตัวเองเลยไม่รู้ว่าเป็นน้องแท้ๆหรือเปล่า...
มีคนเล่นตุกติกกับชุดของเด็กแล้วอยู่ในวังต้องระมัดระวังก็รู้อยู่นะคราวนี้ผ่านมาทางคนที่สนิท...
ดีจริงแทนที่จะเสียคะแนนได้คะแนนมาเพิ่มอีก...
ทางด้านกลยุทธ์น่าจะได้แต่ทางด้านวรยุทธหรือพละกำลังน่าจะไม่ไหวดังนั้นต้องพิสูจน์ตัวเอง...
อายุยังไม่ทันถึง 6 เดือนเลยละมั้งทำไมพูดคุยได้แล้วเก่งจริง...
โกหกครั้งหนึ่งก็ต้องโกหกต่อๆไป...
ความแตกแล้วมั้งเนี่ย...
เกือบไปแล้ว...