สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์ นิยาย บท 311

สำนักหมอหลวง

การผ่าตัดของกวนฮั่นหลินยังคงดำเนินไปอย่างเคร่งเครียด

แม้ว่าความสาหัสของจอมพลเฒ่าจะไม่เทียบเท่าบาดแผลถูกแทงที่ทรวงอกของเย่‍จิ่ง‍อวี้ แต่ความซับซ้อนนั้นมีมากกว่าฮ่องเต้น้อยหลายขุม

ถึงอย่างไรก็เป็นการทะลุ ด้วยบาดแผลขนาดใหญ่เช่นนี้ ไม่ต้องคิดก็รู้ว่าจะต้องเสียเลือดมากเพียงใด โชคดีที่ในห้องผ่าตัดของเย่จิ่งหลานมีน้ำเลือดหรือพลาสมาอยู่ด้วย หลังจากทำการทดสอบหมู่เลือดแล้ว เขาก็ทำการถ่ายเลือดให้แก่จอมพลเฒ่าได้ทันเวลา

เมื่ออินชิงเสวียนเงยหน้าขึ้นมอง ก็เห็นถุงน้ำเลือดติดเอาไว้ว่าหมู่เลือดเอ นางลังเลอึดใจหนึ่ง ก่อนจะพูดว่า “ข้าก็มีหมู่เลือดเอเหมือนกัน หากเจ้าต้องการเลือด ข้าสามารถบริจาคให้ได้”

นางรู้ดีว่าในสมัยโบราณการหาคนมาบริจาคโลหิตให้นั้นไม่ใช่เรื่องง่าย คนในยุคนี้เชื่อว่าทุกอย่างในร่างกายล้วนได้รับมาจากบุพการี ไม่ควรทำให้ร่างกายได้รับบาดเจ็บหรือได้ความเสียหายใดๆ

เย่จิ่งหลานพูดอย่างเป็นปกติธรรมดา “ไม่ต้องห่วง ข้ายังมีน้ำเลือดอยู่อีกเยอะ ถ้าเมื่อไหร่ข้าต้องการจริงๆ ค่อยไปเอาจากเจ้าก็ไม่สาย”

“ได้”

อินชิงเสวียนใช้ผ้าขนหนูซับเหงื่อให้เย่จิ่งหลาน จากนั้นมองดูเครื่องวัดอัตราการเต้นของหัวใจ

หน้าจอแสดงให้เห็นว่าอัตราการเต้นหัวใจของจอมพลเฒ่ากวนอยู่ในเกณฑ์ดีมาก คลื่นหัวใจอยู่ในระดับปกติสม่ำเสมอ ตราบใดที่ไม่เกิดเหตุสุดวิสัย จอมพลเฒ่ากวนก็น่าจะปลอดภัย

ในชั่วพริบตา เวลาก็ผ่านไปอีกครึ่งชั่วยาม

ในที่สุดเย่จิ่งหลานก็รักษาการบาดเจ็บเสร็จเรียบร้อย และเริ่มเย็บแผลเป็นขั้นตอนสุดท้าย

เขาเย็บแผลได้แคล่วคล่องว่องไวมาก ฝีมือการเย็บก็ละเอียดประณีต

หลังจากผ่านไปอีกสามสิบนาที เย่จิ่งหลานก็เย็บแผลให้จอมพลเฒ่ากวนเป็นตะเข็บสวยงาม

เขาพูดด้วยน้ำเสียงผ่อนคลาย “งานใหญ่สำเร็จแล้ว เพียงผ่านพ้นคืนนี้ไปได้ ข้ารับรองว่าท่านผู้เฒ่าคนนี้จะปลอดภัย”

หลังจากที่เขาพูดจบ มือของเขาก็ชะงักไปครู่หนึ่ง

เมื่อได้ยินเสียงแจ้งเตือนในหัว ดวงตาของเย่จิ่งหลานก็เปล่งประกายด้วยความตื่นเต้นอย่างไม่อาจปิดบังได้

ที่แท้ก็เป็นระดับ S+ อีก จนเขายังอดไม่ได้อยากร้องตะโกนว่า เจ๋ง!

“เกิดอะไรขึ้น” อินชิงเสวียนถามหน้าตาตื่น

“ไม่มีอะไร”

เย่จิ่งหลานระงับความตื่นเต้นในดวงตา อุ้มจอมพลเฒ่าไปที่เตียงในสำนักหมอหลวง แล้วหยิบยาแก้อักเสบจำนวนหนึ่งออกมาจากกล่อง

พูดอย่างอารมณ์ดี “นี่เป็นของแถม ให้ท่านผู้เฒ่ากินให้ตรงเวลา ยิ่งกว่านั้นช่วงนี้ห้ามขยับตัวเด็ดขาด แล้วอีกสามวันข้าจะกลับมาเปลี่ยนยาให้เขา”

อินชิงเสวียนพยักหน้าพูดว่า “อืม ข้าจำได้แล้ว คราวนี้ข้าเป็นหนี้บุญคุณเจ้าอีกครั้งแล้ว”

เย่จิ่งหลานพูดด้วยท่วงท่าสง่างาม “ปล่อยให้ติดหนี้ไว้ก่อนก็ได้ มีหนี้บุญคุณแล้วก็ไม่ต้องกลัวว่าจะได้ได้ทดแทน”

เขาโบกมือเพื่อเก็บมิติรักษากลับคืน

“เจ้าสามารถเรียกพวกเขาเข้ามาได้แล้ว แต่ยังต้องเฝ้าระวังชีพจรของเขาด้วย และห้ามไม่ให้มีการติดเชื้อเด็ดขาด”

“อืม”

อินชิงเสวียนเดินมาที่ประตู แล้วเปิดออก

เย่‍จิ่ง‍อวี้กำลังเดินกลับไปกลับมาอยู่หน้าประตู เมื่อเขาเห็นอินชิงเสวียน เขาก็ถามทันที “จอมพลเฒ่าเป็นอย่างไรบ้าง”

อินชิงเสวียนคลี่ยิ้มเล็กน้อยและกล่าวว่า “จัดการเรียบร้อยแล้ว หากคืนนี้ไม่มีอะไรเกิดขึ้น จอมพลเฒ่าก็ปลอดภัยแล้ว”

เย่‍จิ่ง‍อวี้ได้ก้าวเข้าประตูแล้ว ทันใดนั้นก็เห็นว่ามีผ้าฝ้ายพันรอบร่างของกวนฮั่นหลิน ซึ่งลักษณะการพันผ้าก็เป็นแบบเดียวกับที่ใช้พันแผลให้เขา จึงอดไม่ได้ที่จะรู้สึกกังขาอยู่ในใจ

หรือว่าเย่จิ่งหลานก็เป็นคนรักษาอาการบาดเจ็บของเขาด้วย

เย่จิ่งหลานโค้งคำนับเย่‍จิ่ง‍อวี้

“ถ้าไม่มีอะไรแล้ว กระหม่อมก็ขอทูลลา”

อากัปกิริยาของเขาดูเป็นผู้ใหญ่ แต่น้ำเสียงยังคงมีความใสอันเป็นเอกลักษณ์ของเด็ก

เย่‍จิ่ง‍อวี้มองไปยังใบหน้าเล็กๆ น่ามองดวงนั้นด้วยนัยน์ตาคมปลาบ

เขาพยักหน้าแล้วพูดว่า “รบกวนเจ้าแล้ว”

“ฝ่าบาทเกรงใจไปแล้ว กระหม่อมขอทูลลา”

เย่จิ่งหลานประกบมือคำนับ แล้ววิ่งออกไปอย่างรวดเร็ว

การผ่าตัดครั้งนี้ทำให้เขาได้รับคะแนนก้อนใหญ่

และสิ่งที่เขาปรารถนา ย่อมเป็นอาวุธร้ายแรงอยู่แล้ว

แต่ถ้าหากต้องการซื้อ ก็เกรงว่าจะต้องทำการผ่าตัดใหญ่อีกหลายครั้ง...

ภายในห้องโถง หมอหลวงเหลียงได้มาจับชีพจรของจอมพลเฒ่ากวนแล้ว

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์