“เลอะเลือน!”
เสียงกรีดร้องอันแหลมคมดังมาจากข้างตัวของเขา แล้วอินชิงเสวียนก็แลกความเร็วเป็นหนที่สาม บวกกับพละกำลังอีกห้านาที
นางคว้าข้อมือของกวนเซี่ยว และตรึงกวนเซี่ยวไว้กับพื้นด้วยเรี่ยวแรงอันแข็งแกร่ง
เส้นผมที่ตกลู่ลงมาบนไหล่ ได้ปลิวสยายขึ้นด้วยพลังแห่งมิติ ความองอาจกล้าหาญที่ปรากฏในดวงตา ทำให้กวนเซี่ยวไม่กล้าเผชิญสายตาตรงๆ
“เจ้าคิดว่าควักลูกตาแล้ว จะสามารถชดใช้ความผิดได้งั้นรึ ข้าคิดมาตลอดว่าตระกูลกวนก็เหมือนกับท่านปาจารย์ ที่เป็นสุภาพบุรุษผู้มีจิตใจแน่วแน่ ไม่นึกว่าพี่ชายกวนจะเป็นคนขี้ขลาดเพียงนี้ เจ้าไม่รู้สึกผิดต่อความพยายามอันอุตสาหะของท่านปาจารย์เลยรึ”
อินชิงเสวียนกดกวนเซี่ยวไว้ด้วยมือข้างหนึ่ง แล้วพูดด้วยน้ำเสียงที่แจ่มชัดว่า “รู้ผิดแล้วแก้ไข นับว่าเยี่ยมนัก พี่ชายกวนคิดเสียว่ารักษาร่างกายไว้เพื่อทำคุณประโยชน์ จับกุมตัวอาซือหลานให้ได้ ด้วยวิธีนี้เท่านั้นจึงจะสามารถชดเชยความผิดพลาด และรักษาชื่อเสียงของจอมพลเฒ่าได้”
หลังจากฟังอยู่นาน กวนผิงอันก็เข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้น จึงพูดทันทีว่า “พระสนมเหยาเฟยพูดถูกแล้ว คุณชายไม่ควรทำลายร่างกายเช่นนี้ หากจอมพลเฒ่าฟื้นขึ้นมาแล้วเห็นว่าคุณชายตาบอดไปทั้งสองข้าง เขาจะทนได้อย่างไร ที่เจ้าทำอยู่แทบไม่ต่างจากการฆ่าเขาชัดๆ!”
ประโยคสุดท้ายเป็นเหมือนน้ำเย็นที่สาดปลุกสติ ทำให้กวนเซี่ยวตื่นในทันใด
ใช่แล้ว ถ้าเขาตาบอด ท่านปู่คงจะทนไม่ได้อย่างแน่นอน
ตอนนี้ในตระกูลกวนเหลือเขาที่เป็นทายาทเพียงคนเดียว ถือว่าเห็นแก่ท่านปู่ เขาต้องมีชีวิตอยู่อย่างดีให้ได้
ครั้นนึกได้ดังนี้ กวนเซี่ยวก็น้ำตาไหลอย่างกลั้นไว้ไม่อยู่ เขาหันหน้าไปทางด้านข้าง แล้วพูดด้วยเสียงสะอื้น “ข้าผิดไปแล้ว พวกเจ้าพูดถูก ตอนนี้ข้าไม่มีคุณสมบัติที่จะทำร้ายตัวเองด้วยซ้ำ ถือว่าทำเพื่อท่านปู่ของข้า ข้าต้องมีชีวิตอยู่ต่อไป”
เมื่อเห็นว่าความโกรธหายไปจากดวงตาของเขา อินชิงเสวียนจึงปล่อยมือ
แล้วร่างกายของนางอ่อนแอลงเนื่องจากการใช้พลังของมิติ และภาพตรงหน้าก็ตัดเป็นสีดำทันที โชคดีที่นางยังนั่งอยู่บนพื้นกับกวนเซี่ยว
อินชิงเสวียนเอนตัวพิงข้างเตียง ถามด้วยน้ำเสียงที่หอบเล็กน้อยว่า “พี่ชายกวนไม่ต้องห่วง ท่านปาจารย์จะต้องปลอดภัยแน่ เพียงแต่ต่อไปควรจะทำอย่างไร พี่ชายกวนได้วางแผนไว้บ้างหรือไม่”
กวนเซี่ยวส่ายศีรษะ เขามืดแปดด้านไปหมด
ที่เขาช่วยอินสิงอวิ๋น ประการแรกก็เพื่อมิตรภาพระหว่างทั้งสองตระกูล และประการที่สองเพื่อทวงคืนความยุติธรรมให้กับตระกูลกวน และยิ่งต้องการร่วมมือกับเขาเพื่อโค่นล้มฮ่องเต้
ตอนนี้คนที่เขาคิดว่าเป็นเพื่อนมาโดยตลอด กลับกลายเป็นท่านอ๋องของแคว้นศัตรูไปแล้ว ศรัทธาและความหวังก่อนหน้านี้ของเขา ได้พังทลายลงหมดแล้ว
เมื่อเห็นเขามีสภาพเช่นนี้ อินชิงเสวียนก็รู้สึกจนปัญญา
เกรงว่ากวนเซี่ยวจะต้องใช้เวลาพอสมควร ถึงจะคิดตกกับเรื่องนี้ได้อย่างครบถ้วน แต่ตอนนี้ไม่มีเวลาให้เขามากนัก
หากเขาออกจากวัง อาซือหลานจะตามหาเขาอีกครั้งอย่างแน่นอน
ตัวเองสามารถติดตามเบาะแสนี้เพื่อตามหาอาซือหลานได้ เพราะการที่จะสามารถจับโจรชั่วคนนี้ได้หรือไม่นั้น กวนเซี่ยวได้กลายเป็นตัวเชื่อมโยงที่สำคัญที่สุดแล้ว
“พี่ชายกวนย่อมไม่ยินดีที่จะถูกคนปั่นหัวเช่นนี้อย่างแน่นอน อาซือหลานมีหน้ากากใบหน้าของพี่ชายกวนไม่ใช่รึ และยังก็มีหน้ากากใบหน้าของข้าด้วย หากพวกเขาสวมหน้ากากที่เป็นใบหน้าของเราทั้งสองคนไปทำเรื่องร้ายแรง ผู้คนจะตื่นตระหนกและสับสนอลหม่านเป็นแน่ ดังนั้น ต้องหาคนผู้นี้ให้เจอโดยเร็วที่สุด”
อินชิงเสวียนประกบมือคารวะ แล้วพูดด้วยความจริงใจ “อินชิงเสวียนขอให้พี่ชายกวนช่วยข้าจับอาซือหลานตัวจริง เพื่อขจัดภัยอันตรายให้กับบ้านเมืองด้วย บางที...อาจสามารถใช้เขาเพื่อแลกกับพี่ใหญ่ของข้าได้”
กวนเซี่ยวตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็ขบกรามเป็นสันนูน แล้วพูดว่า “ใช่แล้ว โจรชั่วสมควรตาย เจ้าต้องการให้ข้าทำอะไร”
อินชิงเสวียนคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดว่า “พี่ชายกวนล้มเหลวในการลอบสังหาร เมื่อออกจากวังคืนนี้ ข้าจะให้ไป๋เสวี่ย เจ้าสุนัขแสนรู้ของฝ่าบาทจำกลิ่นบนตัวของเจ้า จากนั้นก็ติดตามไปจนถึงที่อยู่อาศัยของอาซือหลาน คราวนี้ต้องทำให้เขาหลบเร้นออกไปได้ลำบากแน่ๆ”
ทันใดนั้นกวนเซี่ยวก็จำสิ่งที่อาซือหลานพูดได้ จึงพยักหน้าแล้วพูดว่า “ได้ เขายังบอกด้วยว่า ยามเที่ยงคืนของคืนนี้ จะมาพบข้าที่นอกกำแพงวัง บางทีนี่อาจเป็นโอกาสที่ดี”
ทว่าอินชิงเสวียนกลับไม่ได้มองในแง่ดี
“อาซือหลานเจ้าเล่ห์เพทุบาย เขาอาจจะไม่มาจริงๆ ยิ่งกว่านั้นเขายังมอบหน้ากากที่ทำอย่างสะเพร่าให้เจ้า คงตั้งใจที่จะให้เจ้ากับฝ่าบาทจะฆ่ากัน ไม่ว่าฝ่ายใดตาย เขาก็จะได้ประโยชน์ทั้งนั้น”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์
ตัวโกงเก่งกว่าคนดีแถมคนชั่วร้ายก็มีอยู่มากมายทั้งนอกทั้งในแบบนี้จะสู้ศึกไหวเหรอ...
มันเป็นพวกไหนกันแน่นะที่บ่อนทำลายชาติ ที่สำคัญจะเป็นคุณชายใหญ่ตระกูลอินด้วยหรือเปล่า...
คนที่แสดงตัวเป็นพี่ใหญ่ไม่น่าจะเป็นตัวจริงเพราะมีพฤติกรรมลับลมคมในเรื่องต่างๆและทำให้เรื่องต่างๆแย่ลง เหมือนว่าจะหลงรักน้องสาวตัวเองเลยไม่รู้ว่าเป็นน้องแท้ๆหรือเปล่า...
มีคนเล่นตุกติกกับชุดของเด็กแล้วอยู่ในวังต้องระมัดระวังก็รู้อยู่นะคราวนี้ผ่านมาทางคนที่สนิท...
ดีจริงแทนที่จะเสียคะแนนได้คะแนนมาเพิ่มอีก...
ทางด้านกลยุทธ์น่าจะได้แต่ทางด้านวรยุทธหรือพละกำลังน่าจะไม่ไหวดังนั้นต้องพิสูจน์ตัวเอง...
อายุยังไม่ทันถึง 6 เดือนเลยละมั้งทำไมพูดคุยได้แล้วเก่งจริง...
โกหกครั้งหนึ่งก็ต้องโกหกต่อๆไป...
ความแตกแล้วมั้งเนี่ย...
เกือบไปแล้ว...