จอมพลเฒ่ากล่าวด้วยรอยยิ้มจนปัญญา “ตอนนี้ทำได้เพียงแค่รบกวนเท่านั้น ฝากพระสนมไปขอบพระทัยฝ่าบาทแทนกระหม่อมด้วย เมื่อกระหม่อมอาการทุเลาลงแล้ว จะไปขอบพระทัยที่ตำหนักเฉิงเทียนด้วยตนเอง”
อินชิงเสวียนพูดเสียงอ่อนโยน “ท่านปาจารย์เป็นเสาหลักของบ้านเมือง ฝ่าบาทก็ให้ความเคารพท่านเป็นอย่างมาก พระองค์ไม่เพียงแต่ให้หมอหลวงรักษาเท่านั้น แต่ยังให้ทหารทหารรักษาพระองค์คุ้มครองอยู่ที่นี่ด้วย ขอให้ท่านปาจารย์พักฟื้นอย่างสบายใจได้”
จอมพลเฒ่าถอนหายใจแล้วพูดว่า “กระหม่อมทราบแล้ว ที่ฝ่าบาททรงดีต่อตระกูลกวนเช่นนี้ กระหม่อมก็รู้สึกซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้”
อินชิงเสวียนคลี่ยิ้มบางๆ แล้วพูดกับกวนเซี่ยวว่า “วังหลังไม่ใช่ราชสำนัก ท่านปาจารย์สามารถพักฟื้นที่นี่ได้ แต่สำหรับพี่ชายกวนเกรงว่าจะอยู่ที่นี่ได้ไม่นาน โปรดอภัยด้วย”
กวนฮั่นหลินย่อมรู้อยู่แล้วว่าวังหลังคือสถานที่เช่นไร แม้ว่าอินชิงเสวียนไม่พูด เขาก็ไม่ให้กวนเซี่ยวอยู่ที่นี่
“กระหม่อมก็มีความคิดเช่นเดียวกัน กำลังคิดว่าจะส่งเขากลับจวนพอดี”
อินชิงเสวียนจึงกล่าวอีกว่า “คิดว่าพี่ชายกวนคงแจ้งให้ท่านปาจารย์ทราบเรื่องการลอบสังหารแล้ว หากพวกท่านปู่หลานจะพบกันอีกหน ทางที่ดีควรคิดรหัสลับที่มีเพียงพวกท่านสองคนเท่านั้นที่รู้ ตอนนี้อาซือหลานมีหน้ากากใบหน้าของข้าและพี่ชายกวนอยู่ในมือ รับประกันไม่ได้ว่าเขาจะไม่ฉวยโอกาสนี้เข้ามาสวมรอย เอาตาปลามาปลอมปนกับไข่มุก”
เมื่อได้ยินดังนี้ กวนฮั่นหลินก็อดไม่ได้ที่จะบันดาลโทสะ
“เจ้าเด็กยังไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมคนนี้ กล้าดีอย่างไรมาหลอกข้าแบบนี้ รอให้ข้าหายดีก่อนเถอะ จะไปสู้รบกับเขาสักแปดร้อยรอบเลย”
ความตื่นเต้นที่มากเกินไป ได้กระทบกระเทือนถึงบาดแผล ชายชราจึงร้องครางด้วยความเจ็บปวด
กวนเซี่ยวพูดทันทีว่า “ท่านปู่อย่าโมโห หลานจะล้างแค้นให้กับท่านปู่แน่นอน”
จอมพลเฒ่าพูดอย่างกังวล “ไม่ได้ เรื่องนี้ไว้ค่อยหารือตอนที่ข้ากลับจวนแล้ว”
กวนเซี่ยวรีบพูดว่า “หลานเชื่อฟังท่านปู่ขอรับ”
แล้วเขาก็ยืนขึ้นและพูดว่า “ถ้าอย่างนั้นหลานขออกไปก่อนนะขอรับ”
“ได้”
แล้วจอมพลเฒ่าก็พูดอะไรบางอย่าง ทั้งยังกลัวว่าทหารในจวนจะทำอันตรายต่อหลานชายของเขา จึงเรียกกวนผิงอันเข้ามาหา
“หากกลับถึงจวนแล้ว ต้องอธิบายเรื่องนี้ให้พวกเขาฟังอย่างชัดเจน ช่วงนี้พวกเจ้าไม่ควรออกจากจวนตามใจชอบ ทุกอย่างไว้ค่อยจัดการตอนที่ข้ากลับไปแล้ว”
กวนผิงอันโค้งคำนับแล้วกล่าวว่า “ข้าน้อยทราบแล้ว”
“ไปเถอะ”
หลังจากพูดมากมายหลายเรื่อง จอมพลเฒ่าก็เหนื่อย จึงหลับตาลงอีกครั้ง
กวนเซี่ยวคำนับชายชรา แล้วเดินตามอินชิงเสวียนออกจากสำนักหมอหลวง
ยายหลี่กำลังอุ้มเสี่ยวหนานเฟิงเดินเล่นที่ศาลาข้างๆ ในขณะที่ไป๋เสวี่ยนั่งอยู่ที่ประตู รออินชิงเสวียน
เมื่อเห็นสุนัขตัวใหญ่เช่นนี้ กวนเซี่ยวและกวนผิงอันต่างก็ตกใจ
อินชิงเสวียนตบหัวของมันเบาๆ
“ไม่เป็นไร ไป๋เสวี่ยเชื่องมาก ไม่ต้องกังวลไป”
จากนั้นก็พูดกับไป๋เสวี่ย “จำกลิ่นของพี่ชายคนนี้ไว้ ต้องพึ่งเจ้าช่วยตามหาเขาแล้ว”
ไป๋เสวี่ยเดินไปดมกลิ่น แล้วนั่งลงกระดิกหางไปมา
กวนเซี่ยวถามด้วยความประหลาดใจ “เท่านี้พอแล้วหรือ”
กวนผิงอันไม่รู้เรื่อง เขาจึงถามด้วยน้ำเสียงกระด้าง “คุณชายจะไปไหน”
ดวงตาของกวนเซี่ยวเปลี่ยนเป็นเย็นชาทันที
“ข้าจะไปหาไอ้ชั่วอาซือหลาน ล้างแค้นแทนท่านปู่ของข้า”
กวนผิงอันวิตกกังวลทันที
“ไม่ได้ นายท่านผู้เฒ่าให้คุณชายอยู่แต่ในจวน”
อินชิงเสวียนกล่าวว่า “ผู้บัญชาการกวนไม่ต้องกังวลไป นี่เป็นพระประสงค์ของฝ่าบาท ฝ่าบาทได้ส่งหน่วยองครักษ์เงาติดตามไปด้วย คงไม่มีปัญหาแน่”
เมื่อเขาได้ยินคำว่าฝ่าบาท กวนผิงอันก็หยุดพูดทันที
ทันใดนั้นกวนเซี่ยวก็ก้าวไปข้างหน้า พูดเสียงแผ่วเบา “ท่านปู่ยังไม่รู้เรื่องการลอบปลงพระชนม์ฝ่าบาท หวังว่าน้องสาวอินจะช่วยเก็บเป็นความลับด้วย เมื่อข้าจับอาซือหลานได้ ข้าจะไปรับผิดกับฝ่าบาท”
อินชิงเสวียนพยักหน้ารับกล่าวว่า “เช่นนั้นก็ขอรบกวนพี่ชายกวนแล้ว”
ขณะที่เขาพูด สำนักหมอหลวงก็ได้จุดโคมวังหลวงแล้ว
เมื่อมองดูพระจันทร์เสี้ยวที่กำลังลอยขึ้นบนท้องฟ้า อินชิงเสวียนก็ถอนหายใจเบาๆ หวังว่าครั้งนี้จะจับตัวอาซือหลานได้ เขาจะได้ไม่สร้างปัญหาในเมืองหลวงได้อีก
อย่างไรก็ตาม ความหวังในแง่ดีได้พังทลายลง
ตามที่เย่จิ่งอวี้คาดเอาไว้ อาซือหลานไม่ได้ปรากฏตัวเลย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์
ยังอัพไม่จบเลย หลายเรื่องเลย อัพมาครึ่งทางแล้วทำไมหยุดอัพดื้อๆค่ะ...
จะอัพเมื่อไหร่คะ...
มาต่อเร็วๆนะแอด...
หยุดอีกแล้ว...
กระหม่อม หม่อมฉัน สลับมั่วไปหมด...
มาอ่านต่อกันเร็วๆ แอดกลับมาอัพต่อแล้ว ขอบคุณค่ะ...
สนุกมาก น่าติดตามมาก เขียนและแปลได้ดีจริงๆ ดีใจที่กลับมาลงต่อ อัพเดตเรื่อยๆ วันละหลายๆ ตอน นะคะ...
หยุดชะงักลงตรงบทนี้ ต่อหรือพอเพียงแค่นี้😁...
หยุดแค่นี้หรือไปต่อ😁...
อัพต่อรออยู่ค่ะ...